หลังจากสู้รบปรบมือ เสียน้ำตา ปาดหยาดเหงื่อ และเริงร่าน้ำตาคลอกันมายาวนาน "มหกรรมฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ประจำปี 2016 ที่ฝรั่งเศส" ก็ได้สิ้นสุดไปในเช้าวันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม 2016 ตามเวลาบ้านเรา โดยผู้ที่ได้รับถ้วยแห่งความภาคภูมิใจนี้กลับประเทศไป เป็นประเทศที่ โอเค มันน่าจับตามอง เพราะมีซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกที่การันตีความสามารถไม่มีที่ 1 ก็ที่ 2 ในเวลานี้ อย่าง CR7 Critiano Ronaldo แต่ทีมชาติโปรตุเกส ก็ไม่ได้เป็นทีมที่ถูกชายตามองเป็นทีมเต็งที่จะได้รับถ้วยนี้ไปแต่อย่างใด
.
เนื่องจากเจ้าภาพผู้จัดงานในครั้งนี้เป็นทีมทีมชาติที่ถือว่าในวงการลูกหนังก็มีชื่อเสียงเรียงนามพอสมควร กับดีกรีแชมป์เก่า 2 สมัย และรองแชมป์อีก 1 สมัยในบอลชิงแชมป์แห่งทวีปยุโรปนี้ และบวกกับในทัวนานเมนต์นี้ ภายใต้การคุมทีมของ ดิดิเอร์ เดฌองส์ มีนักเตะฝีมือดีในทีมให้เขาเลือกใช้มากมาย เอ่ยชื่อได้ ก็
อองตวน กริซมันด์ ตัวความหวังจาก แอตเลติโก มาดริด
ฮูโก้ ญอริส นายทวารและกัปตันทีมจาก สเปอร์ส
พอล ป็อกบา กองกลางตัวเก่งจาก ยูเวนตุส
แบรด มาตุยดี้ มิดฟิลด์ตัวรับสุดแกร่งจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง
โลร็อง กอสเซียลเอลนี่ เซนเตอร์แบ็คจาก อาร์เซนอล
ปาทริค เอฟร่า แบคซ้ายตัวเก๋าจาก ยูเวนตุส
โอลิวิเย่ ชิรูด์ กองหน้ารูปหล่อจาก อาร์เซน่อล
รวมถึงนักเตะที่ฟอร์มการเล่นดีขึ้นมาจนไม่สามารถปฏิเสธไม่เอาชื่อพวกเขาติดมารับใช้ชาติได้อย่างเช่น
คิงสลี่ย์ โกมอง ปีกความเร็วจาก บาเยิร์น มิวนิก
เอนโกโล ก็องเต้ จาก เลสเตอร์ ซิตี้
ดิมิทรี ปาเย็ต จาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
อองโตนี่ มาร์กซิยาล ดาวรุ่งจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นักเตะเหล่านี้ที่กล่าวมา หลายคนอาจจจะไม่ใช่ชื่อที่โด่งดังอะไร ค่าตัวก็ไม่แพงมหาศาลระดับโลก แต่ช่วงเวลาก่อนเปิดการแข่งยูโร2016 พวกเขาที่กล่าวมาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่แสดงความสามารถออกมาช่วยสโมสรของพวกเขาให้ได้ดิบได้ดีและให้โค้ชเดฌองส์ ชายตามองมาเห็น
แม้ 23 ขุมพลที่ได้รับการไว้ใจจากเดฌองส์อาจจะไม่ใช่ทีมที่สุดยอดที่สุด เพราะยังมีนักเตะสัญชาติฟร้านส์ที่เล่นดีอีกหลายคนที่หลุดไป เช่น มามาดู ซาโก้ , อังเดร ลากาแซตต์ , ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา ,... แต่ที่น่าเสียดายสุดๆคือกรณีมีปัญหาของ มาติเยอ วัลบูเอน่า กับกองหน้าสุดเก่ง คาริม เบนเซม่า ทำให้หลุดไปทั้งคู่
จากที่เอ่ยมาทั้งหมดข้างบนบวกกับเสียงเชียร์ของคนพื้นที่ บวกกับการที่ชาวฝรั่งเศสโศกเศร้ากับเหตุการณ์ระเบิดกลางกรุงปารีส แม้จะไม่สามารถทำให้ลืมเหตุการณ์เลวร้ายนี่ไปได้แต่ถ้าหากได้แชมป์มาครอง ก็สามารถสร้างความสุขให้ประเทศเมืองน้ำหอมได้อย่างมหาศาลแน่นอน ฝรั่งเศสในสายตาข้าพเจ้าจึงเป็นตัวเต็งอันดับ 1 อย่างไม่กังขาใดๆ
.
มองไปประเทศเพื่อนบ้านในทวีปยุโรปของฝรั่งเศส ที่ล้วนแต่มีบุคลากรทางฟุตบอลที่เก่งๆมากมายที่ผ่านเข้ารอบมาแข่งทั้ง 23 ประเทศ ( ขอหยิบมาพูดบางทีม )
-สเปน : แชมป์เก่า 2 ครั้งหลังสุด แม้จะเป็นช่วงการเปลี่ยนถ่ายเอานักเตะรุ่นใหม่ๆเข้ามา แต่นักเตะวัยรุ่นของสเปนยุคนี้มีนักเตะมีชื่อเสียงหลายคนอยู่กับสโมสรดีๆ เกือบทุกคน แต่ การแข่งขันยูโร 2016 ครั้งนี้สเปนเหมือนจะดูดีในรอบแบ่งกลุ่มแต่มาพลาดแพ้ โครเอเชียในนัดสุดท้ายทำให้ผ่านเข้าได้เพียงที่ 2 ซึ่งต้องไปเจอกับทีมอิตาลี และก็ตกรอบไป จบยูโรหนนี้แต่เพียงเท่านี้
-อังกฤษ : กับฉายา 'หมูสนามจริง สิงสนามซ้อม' ทีมสิงโตคำรามยังไม่พ้มคำครหานี้ไปได้สักที เมื่อตอนรอบคัดเลือกอังกฤษโชว์ฟอร์มเทพ ไม่แพ้ใครเลย แต่กับรอบสุดท้ายอังกฤษเจียนอยู่เจียนไปจริงๆ สุดท้ายก็เต็มที่ จอดแค่รอบ16 ทีมสุดท้ายพ่ายต่อทีมชาติไอซ์แลนด์ไป
-เบลเยี่ยม : ทีมที่น่าจับตามองที่สุดในสายตาข้าพเจ้า ม้ามืดที่จะแซงทุกทีมคว้าแชมป์ไปได้ ก็ไม่ประสบความสำเร็จแม้จะผ่านไปถึงรอบ 8 ทีมแต่ไปเจอทีมจอมเซอร์ไพรซ์อย่างเวลส์ ก็แพ้แบบไม่เป็นท่าไป
-อิตาลี : นำทีมโดยนายทวารจอมเก๋า จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน อิตาลีทำผลงานได้ดี แม้จะเป็นทีมที่เล่นบอลสไตล์ที่คู่แข่งไม่ชอบ คือ ตั้งรับ สวนกลับโหด แต่ขึ้นชื่อทีมอัซซูรี่ก็ไม่กลัวใครที่ไหนอยู่แล้ว เสียดายที่การดวลจุดโทษในรอบ 8 ทีมไม่คมพอที่จะชนะเยอรมันก็ตกรอบไป
-เวลส์ : Wales Well Well การเข้ามาสู่รอบสุดท้ายยูโรเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ ก็สามารถทำให้คนในประเทศเล็กๆในสหราชอาณาจักรดีใจสุดๆ และเซอร์ไพรส์มากมาย แม้ในทีมจะมีนักเตะอย่าง แกเร็ธ เบล นักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกอยู่ แต่เวลส์ก็ทำให้เห็นว่าทีมอย่างพวกเขาไม่แบกภาระให้เบลคนเดียวแน่ นักเตะทุกคนสู้ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมแต่น่าเสียดายที่มาพ่ายต่อโปรตุเกสในรอบรองชนะเลิศ แต่แค่นี้ก็ทำให้คนทั้งโลกเห็นแล้วว่า เวลส์จะไม่ใช่ทีมแจกแต้มอีกต่อไป
-เยอรมัน : แชมป์โลกทีมล่าสุดที่มาฝรั่งเศสพร้อมกับว่าที่เต็ง 1 แต่สุดท้ายทีมของโยอาคิม เลิฟ ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ใหญ่ๆ ได้ 2 รายการติดเฉกเช่นสเปน ทีมที่อุดมไปด้วยนักเตะระดับโลกทั้งทีม ไม่สามารถเจาะแนวรับของอิตาลีได้ แต่ก็ดวลจุดโทษผ่านมา และเจอทีเด็ดของเจ้าภาพอย่าง อองตวน กริซมันด์ ซัดไป 2 ลูก ดับฝันอินทรีย์เหล็กไว้ที่รอบรองชนะเลิศ
-ไอซ์แลนด์ & โครเอเชีย : พวกนายเจ๋งมาก
.
อยากให้ลืมเรื่องตำนานเทพนิยายกรีซในปี 2004 ไป เพราะปีนี้โปรตุเกสไม่ได้มาเล่นๆ
เฟอร์นานโด ซานโตส โค้ชทีมฝอยทอง โปรตุเกส พาลูกทีม 23 ขุนพลและทีมงานเดินทางสู่เมืองน้ำหอมพร้อมคำพูดที่ว่า 'ถ้าโรนัลโด้ โชว์ฟอร์มไม่ออก โปรตุเกสก็คงไปไม่ได้ไกล' คำพูดเหล่านี้ถาโถมใส่ทีมฝอยทองอยู่ตลอดเวลา แต่ที่จริงแล้วอาวุธของโปรตุเกสไม่ได้มีแค่โรนัลโด้ ยังมีนักเตะที่ในครั้งนี้อาจจะไม่เป็นที่หมายตาว่าจะโชว์ฟอร์มดีอีกหลายคนที่งัดของมาโชว์ดับฝันหลายๆทีมให้ร่วงไป
นานี่ จากเด็กปั้นของเซอร์ เฟอร์กูสันในวันก่อน ในวันนี้เขาอายุ 29 และเป็นทีเด็ดน้องๆโรนัลโด้เลย
เปเป้ กองหลังสายโหดจากเรอัล มาดริด ก็แบกภาระแนวรับไว้ได้อย่างดี
ริคาร์โด้ ควาเรสม่า กองหน้าตัวเก๋า ที่มาครั้งนี้ถึงจะเป็นตัวซุปเปอร์ซับ แต่ลงมาทีก็ใส่สกอร์ได้บ่อยๆ
เรนาโต้ ซานเชส เจ้าหนุ่มวัย 18 ปีที่สโมสรบาเยิร์น มิวนิกได้ตัวไปครองแล้ว ก็มาแจ้งเกิดเต็มตัวกับรายการนี้
รุย ปาทริซิโอ้ นายประตูสปอร์ติ้ง ลิสบอนก็ช่วยเซฟชอตสำคัญๆ ยากๆได้หลายที
และรวมถึงหลายๆคนที่คอยพาทีมโปรตเกสผ่านจุดทุลักทุเล จนมาถึงรอบชิง ทั้ง โจเซ่ ฟอนเต้ , ริคาร์โด้ คาวัลโญ่ , เซดริก , เจา มาริโอ , วิลเลี่ยม คาวัลโญ่ , เอแดร์ ,...
เอาจริง ในการแข่งขันครั้งนี้โปรตุเกสไม่น่าจะมายืนในจุดที่สูงสุดได้เลย เพราะเส้นทางตั้งแต่รอบรอบแบ่งกลุ่มคือ หนักมาก ด้วยการไม่แพ้ใคร แต่ก็ไม่ชนะใครเลย 3 นัดมี 3 คะแนน จาการเสมอทั้งสิ้นเข้ารอบมาในฐานะทีมที่ 3 ที่ดีที่สุดในอันดับ 3 จาก 4 ทีม แต่ความโชคดีก็เข้าข้าง เพราะโปรตุเกส ถ้าหากเข้าที่ 1 ก็จะไปเจอเบลเยี่ยม เข้าที่ 2 ก็จะไปเจออังกฤษ แต่นี่พวกเขาเข้าที่ 3 และอยู่สายบนทำให้ เข้าไปเจอโครเอเชีย และก็เชือนชนะแบบหวุดหวิด ผ่านมาเจอโปแลนด์ ก็ดราม่าผ่านมาได้อย่างเหน็ดเหนื่อย
มาเจอเวลส์ก็เป็นวันโรนัลโด้โชว์ พาทีมเข้าสู่รอบชิงได้อย่างเหนื่อยมาก แต่คุ้มค่า
.
พอวันชิงชนะเลิศ ฝรั่งเศสมาพร้อมความมั่นใจเต็มตระกร้า โปรตุเกสมาพร้อมการเป็นทีมรองแต่ไม่กลัวใครแล้วในจุดนี้
เหมือนมีใครเขียนบทไว้ให้เจ็บปวดอะไรแบบนี้
ผ่านไปไม่กี่นาทีหลังจาก มาร์ก แคลทเทิลเบิร์กเป่าเริ่มเกมคริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันและความหวังของมวลมหาประชาชนชาวโปรตุกีส ล้มลงไปหลังจากที่ดิมิทรี ปาเย็ตเข้ามาบวกที่หัวเข่า โรนัลโด้มีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ก็โดนหามออกมาปฐมพยาบาลข้างสนาม แล้วไม่นานก็เข้าไปเล่นต่อ กองเชียร์ก็เฮลั่นใจชื่นขึ้นมา แต่ไม่นานนักชายผู้สวมเสื้อเบอร์ 7 ก็ล้มลงไปนอนที่สนามพร้อมน้ำตา สัญญาณข้างสนามเปลี่ยนตัวเบอร์ 20 ควาเรสม่าลงมาแทนเบอร์ 7 ปลอกแขนกัปตันเป็นของนานี่ นาทีที่ 25 ของนัดชิงโรนัลโด้จบการแข่งขันยูโร2016 แต่เพียงแค่นี้พร้อมกับความหวังของแฟนบอลหลายคนที่หวังให้โรนัลโด้สร้างผลงานพาทีมไปชูถ้วย แต่เวลายังอีกเยอะมาก แฟนบอลโปรตุเกสยังคงส่งเสียงเชียร์ทีมของเขาให้สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมา หมดเวลา 90 นาที เสมอกัน 0-0 คนที่น่าจะกดดันและลุ้นหัวใจจะวายตอนนี้คงเป็นแฟนบอลฝรั่งเศสแล้ว เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที
จนมาถึงนาทีที่ 109 เอแดร์ตัวสำรองที่ลงมาแทนเรนาโต้ ซานเชส ซัดบอลเสียบตาข่าย อัฒจรรย์ฝั่งกองเชียร์โปรตุเกสดังสนั่นทั้งสนาม โปรตุเกสนำเจ้าภาพ 1-0
หลักจากครบ 120นาทีบวกกับทดเวลา 3 นาทีหมดลง มาร์ก แคลทเทิลเบิร์กเป่านนกหวีดยาว
.
โปรตุเกสคว้าแชมป์แห่งทวีปยุโรปมาครองได้ในหนแรก เฟอร์นานโด ซานโตส ทำได้
นักเตะรวมทั้งสตาฟโค้ชลืมทุกสิ่งทุกอย่างในวินาทีนั้น วิ่งลงมาเฮสุดเสียงกับสิ่งที่พวกเขาเหนื่อยมาตลอด เพราะวันนี้พวกเขาหล่อสุด
น้ำตาของลูกผู้ชายอย่างโรนัลโด้ที่ร้องในตอนแรก กลับมาร้องอีกครั้งแต่เป็นการร้องไห้ที่ดีใจแบบสุดๆ
เฟอร์นานโด ซานโตส พูดออกมาประโยคหนึ่งข้าพเจ้าชอบมาก
" Wherever we’ve gone there have always been Portuguese fans. This lifted our souls. "
พวกเขาคือที่สุดในค่ำคืนที่ผ่านมาข้าพเจ้าขอแสดงความดีใจต่อทีมโปรตุเกสด้วยครับ
.
.
.
ภาพจาก ทวิตเตอร์และเฟสบุ๊ค จาก official UEFA EURO 2016 และทวิตเตอร์ของ Cristiano Ronaldo
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in