เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I see dead peopleMind Da Hed
We have landed on the sun since 1943
  • "แล้วงานที่เหลือทำไงวะ โปรเจ็กต์ก็ยังไม่จบปะ" ทางจากคอนโดไปร้านหมูกระทะนั้นสั้นเกินกว่าจะอธิบายคำตอบของคำถามนี้ รถมอเตอร์ไซค์เลี้ยวโค้ง ทางโค้งเหมือนคิ้วโก่งของคนแปลกหน้า

    "เออ ก็ไม่จบ" เสียงลมต้านเสียงสนทนาจนกร่อนกระท่อนกระแท่น

    "อ้าว สัด แล้วทำไงอะ ลูกค้าไม่โวยเหรอวะ"

    "จริงๆ มันจบเพราะจะเสร็จแล้ว แต่กูไม่ทำที่เหลือ"

    "ไม่ยิ่งแย่"

    "ไม่รู้ ก็ปล่อยไป ไม่ได้เอาตังไรมา แต่ได้ข่าวว่าก็จบงานกันได้" 

    ทางไปร้านหมูกระทะในวันศุกร์เย็นแค่ 2.3 กิโลเมตร แต่แค่เวลาที่ใช้ในการตอบคำถามนี้ก็ 1.4 กิโลเมตรเข้าไปแล้ว ปลายปีมีลมจากยอดเขาและเสียงจากร้านเหล้าพัดมาจนต้องใส่เสื้อกันลมซึ่งกันเสียงเฉลิมฉลองไร้สาระไม่ได้ แล้วลมก็รสชาติขมพิลึกฤดูนี้

    "แล้วมึงโอเค"

    "ไม่ เงินไม่ได้ ก็เซ็งๆ" 

    ก๊วนฝรั่งขี่รถจักรยานสวนทางลงเนินมา รถกระบะและรถโดยสารติดกันที่คอคอด ต้องถอยหลังเดินหน้ากันอยู่เป็นนาที ปัญหาคลาสสิคของแยกนี้ เพิ่งมีลุงแก่ๆ คนหนึ่งตายไปตอนตีสองของเมื่อวานซืน ตายแค่เพราะปั่นจักรยานมาซื่อๆ เสียงปั่นคงชราเกินไปจนรถมอเตอร์ไซค์ไม่เห็น ชาวบ้านก่อกองทรายเล็กๆ ไว้เป็นพยานความตายที่ปลิวได้ง่าย ไม่เหลืออะไรไว้ให้ต้องเก็บกวาด

    "ไม่ได้หมายถึงเรื่องเงิน มึงอะ โอเคไหม"

    เกิดเสียงชะลอของเครื่องยนตร์และการกระพริบตา รถกระบะเพิ่งถอยเลี่ยงทางให้ก๊วนจักรยานฝรั่งได้ เสียงเพลงร็อคลำโพงแตกยุค 90 จากร้านหมูกระทะเริ่มแทรกมาตามรายทาง

    "โอเค มีเวลามากขึ้น จริงๆ ไอ้งานนั้นกูก็ไม่ได้อยากทำเท่าไหร่ ต้องคลีนๆ สวยๆ เส้นๆ ทำแล้วรู้สึกโง่เพราะกูทำไม่ค่อยเป็น"

    "สมัครไปเพราะมันชวนมางี้"

    "เออ ก็ชวนๆ กันมาแหละ มึงก็รู้ งานกูแต่ละชิ้น ไม่เคยจะมีที่ว่าง"

    "ฮ่าๆ แล้วพิชงานแบบนั้นทำไม มึงไม่แย้งล่ะ"

    "ไม่รู้ว่ะ แย้งไปก็เหนื่อย คงเพราะงานแบบกูก็ไม่ค่อยขายด้วยมั้งเลยไม่รู้จะแย้งทำไม"

    "เออ งานจบก็ดีแล้ว"

    เพื่อนศิลปินที่อยู่อีกของเมืองมางานแฟร์ศิลปะแถวนี้ สายตาเจอกันระหว่างรถสวนก่อนถึงร้านหมูกระทะเพียงเสี้ยว
    นักเรียนแลกเปลี่ยนชาวสวีเดนกับเด็กไทยพูด broken Thai broken English จนหัวเราะกันลั่นเวิ้ง เราจอดรถแวะคุยสัพเพเหระข้างทาง เป็นไง ทำไมมาไกลถึงนี่ แมวที่หอยังอยู่ไหม ผับแจสวันนั้นไปถึงไหน รถใหม่นี่หว่า อีบ้านี่ ทีสิสจบหรือยัง

    "ยัง แต่ใกล้แล้ว โซ โคลส"

    "สองเดือนที่แล้วมึงก็พูดงี้" ร่างสูงกว่า 185 หัวเราะลั่น บอกปัดว่าขอเสพสุนทรีย์สักระยะแล้วจะมีอารมณ์เขียน คิดซะว่าที่นี่เป็นเมืองศิลปะของพวกลิเบอรัล คิดซะว่าฟรีแมน คิดซะว่าเป็นนิวยอร์ค

    "หน้าหนาวร้อนขนาดนี้ นิวยอร์คพ่อมึงดิจูลส์"

    "ฮ่าๆๆ จริง เอนี่เวย์ เฟย แล้วบุ้งล่ะ สลีพเหรอ? อะเกน?" 

    "เออ ไม่รู้"

    "Why are you making that face? Something happened?"

    "วี โบรค อัพแล้วว่ะจูลส์ ไม่รู้ว่ายังชอบนอนอยู่ไหม ไอ ด้อน รี้ลี่ โนว"

    "ชิท ขอโทษ ไอ่เฮี้ย แต่มึงดูโอเค ไรท์?" เพื่อนฝรั่งเหมือนตกใจตามบท ดึงเธอเข้าไปกอด 

    "เออ กูโอเค กินดีอยู่ดี แต่ตอนนี้หิวมาก หมูกระทะไหม" 

    จูลส์หัวเราะปากกว้าง โยกหัวเธอไปมาอีกสองสามครั้งแล้วสตาร์ทรถเครื่องอีกรอบ

    "โนว่ะ มึงไปเหอะ You'll get drunk and wasted. I don't want to scoop up your corpse, let the other do it." 

    "We have landed on the sun since 1943  ร้านเดิม เจอกัน เดี๋ยวกูเลี้ยงเบียร์เอง"

    "เออ สัด จะแดกให้กระเป๋าแหกเลย" 

    แล้วเราก็จากกัน ในควันเห่ยๆ และเพลงห่วยๆ ที่โชยมาจากร้านหมูกระทะที่ยังไปไม่ถึงซักที




    ..............
    แด่เสียงเพลงที่ตีกันในร้านหมูกระทะวันศุกร์ ที่น่ารำคาญชิบหาย


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in