เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I Know It's Real, I Can Feel It | TXT Fan Fictionsa week before valentine
Skater Boy | #yeongyu
  • Rating: Teen and Up Audiences

    Archive Warning (s) : None

    Fandom (s) : TOMORROW X TOGETHER

    Categories: M/M

    Relationship: YEONJUN/BEOMGYU

    Characters: YEONJUN, BEOMGYU, TAEHYUN



    Work Title: Skater Boy


    Note: รีเควสต์ (?) จากคุณพิมเค


    Disclaimer: บทความนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงแต่อย่างใด และไม่มีเจตนาสร้างความเสื่อมเสียแก่บุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงที่ถูกกล่าวถึงใด ๆ ทั้งสิ้น



    —————







    Skater Boy

    YEONJUN/BEOMGYU














    ชเวบอมกยูนั่งเหม่ออยู่ริมแม่น้ำฮัน ลมจากแม่น้ำพัดมาปะทะหน้าเบา ๆ ชวนให้รู้สึกง่วงจนจวนจะหลับเต็มที เขาเหยียดขาจนสุดขณะกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนพื้นที่ว่างในสวนสาธารณะ เหลือบมองนาฬิกาข้อมือแล้วก็ถอนหายใจออกมาอีกรอบ มือควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะกดโทร.หาสายล่าสุดที่เพิ่งคุยกันไป

    รอสัญญาณอยู่ครู่เดียว ปลายสายก็กดรับ

    บอมกยูกรอกเสียงลงไปทันที “อยู่ไหนแล้ว”

    “…บ้าน”

    “อะไรนะ”

    บอมกยูเสียงแหลมด้วยความตกใจ

    “ขอโทษ” ปลายสายเสียงอ่อน “ฉันไปไม่ได้จริง ๆ แต่บอกให้รุ่นพี่ที่เก่งมาก ๆ อีกคนไปแทนแล้ว เขาน่าจะใกล้ถึงแล้วล่ะ”

    “เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนเลย คังแทฮยอน” บอมกยูกำโทรศัพท์แน่น “ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น เล่ามาเดี๋ยวนี้”

    แทฮยอนที่อยู่ปลายสายถอนหายใจ “ก็จู่ ๆ คุณป้าฉันที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยคนนั้นก็โผล่มา แล้วพอบอกว่าจะไปเล่นสเก็ตกับเพื่อนก็โดนสวดชุดใหญ่เลยว่าทำไมเอาเวลามาเล่น ไม่เตรียมสอบเข้าเหรอ นี่ฉันเพิ่งปลีกตัวออกมาได้”

    “แล้วรุ่นพี่อะไรของนายคือยังไง”

    “ก็...” แทฮยอนเงียบไปชั่วขณะ “เอาเป็นว่าเห็นนายก็จะรู้เอง แค่นี้ก่อนนะ ป้าฉันเรียกอีกแล้ว” น้ำเสียงช่วงท้ายเหมือนจะร้องไห้เต็มทน บอมกยูเลยได้แต่กลอกตา

    “เออ ๆ ไว้เจอกันวันหลังก็ได้”

    “ขอโทษอีกรอบ จะโทร.หาก็ไม่มีช่วงเลย ดีที่นายโทร.มาเหมือนกัน”

    พวกเขาจบบทสนทนาลงเท่านั้น ก่อนที่บอมกยูจะทิ้งตัวลงนอนบนพื้นปูนซีเมนต์ที่เริ่มคายความร้อนออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ เหลือบตามองสเก็ตบอร์ดสีน้ำเงินเข้มที่ไปซื้อกับแทฮยอนวันก่อนแล้วก็ยิ่งเซ็ง

    ตกลงกันว่าจะสอนเสียดิบดี

    แต่จะว่าเพื่อนก็ไม่ได้ บอมกยูเข้าใจความลำบากของคนอย่างคังแทฮยอนอยู่บ้าง ลูกชายคนเดียวของบ้านที่ครอบครัวเป็นทั้งหมอ ทั้งครูบาอาจารย์ คงคาดหวังให้คนอย่างแทฮยอนเติบโตมาเป็นหัวกะทิคงแก่เรียนเทือก ๆ นั้น ทั้งที่ความจริงแทฮยอนก็เรียนเก่งจนน่ากลัว แถมกิจกรรมก็ทำครบ กีฬาก็เป็นระดับแนวหน้าของโรงเรียน แค่จะปลีกตัวมาเล่นไร้สาระกับเพื่อนสักชั่วโมงมันจะทำให้คะแนนของหมอนั่นหายไปสักช่องหรือไงกันเชียว

    มีเพื่อนเป็นคนเก่งก็ต้องทำใจหรือไงกันนะ

    บอมกยูผุดลุกขึ้น คิดว่าอาจจะต้องปฏิเสธการสอนจากรุ่นพี่ที่แทฮยอนแนะนำมาให้แน่ ๆ เพราะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฝ่ายนั้นเป็นใคร เกรงใจกันเสียเปล่า ๆ ไว้วันหลังค่อยว่ากันใหม่ก็ได้

    ขณะคิดเช่นนั้น เขาก็รู้สึกได้ว่ามีคนมายืนอยู่ด้านหลังตัวเอง บอมกยูหันกลับไปเห็นรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อและช่วงขายาวที่สวมกางเกงขาสั้นเหนือเข่าเข้ากับอากาศร้อน อีกฝ่ายโน้มตัวลงมาเล็กน้อยหาเขาที่นั่งอยู่ที่พื้นทั้งที่มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง และมืออีกข้างถือสเก็ตบอร์ดไว้

    ใบหน้าของคนคนนั้นทำให้บอมกยูนิ่งค้าง

    “ไง ชเวบอมกยู”

    “…พี่ยอนจุน? ”

    ชเวยอนจุนฉีกยิ้มกว้าง “ฉันมาตามคำขอของแทฮยอนน่ะ”

    “…อะไรนะ”

    บอมกยูรู้สึกเหมือนจะเป็นลม

    คังแทฮยอน คังแทฮยอน คังแทฮยอน นายมันไม่รู้อะไรเลยหรือรู้ดีจนน่าโมโหกันแน่!







    ชเวยอนจุนเป็นรุ่นพี่ที่อายุห่างจากบอมกยูสองปี เพิ่งเรียนจบไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน รุ่นพี่คนนี้ก็เป็นตำนานคนหนึ่ง

    ชเวยอนจุนเรียนเก่ง อาจจะไม่ได้เก่งที่สุดในรุ่นแต่ก็เรียกว่าเก่งได้เต็มปาก รูปร่างหน้าตาดี ความสามารถรอบด้าน ทำได้ทุกอย่างเท่าที่คนคนหนึ่งจะทำได้ ร้องเพลง เต้น เล่นดนตรี เล่นกีฬาทุกประเภทที่โรงเรียนมีอุปกรณ์ให้ใช้เล่น อัธยาศัยดี มีแต่คนรักคนชอบ เป็นดาวเด่นที่แค่ปรากฏตัวขึ้นมาก็ดึงดูดสายตาให้คนอื่นหันไปมองโดยไม่รู้ตัว

    ชเวบอมกยูเองก็เป็นหนึ่งในคนพวกนั้น

    เขาคิดว่าเขาชื่นชมคนอย่างยอนจุนอยู่ลึก ๆ จะพูดว่าเขามองยอนจุนเป็นไอดอลก็ได้ เป็นคนแบบที่บอมกยูอยากเป็นให้ได้สักครั้งในชีวิต

    และเพราะความรู้สึกแบบนั้น เลยชอบที่จะมองห่าง ๆ มากกว่า เขาไปดูการแสดงที่ยอนจุนขึ้นเล่นบ่อยครั้ง หรือดูการแข่งขันนัดที่ยอนจุนไปลงเล่น ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เป็นความสัมพันธ์แบบเขารู้จักอีกฝ่ายคนเดียว และอีกฝ่ายไม่น่าจะรู้จักเขาด้วยซ้ำ

    ถ้าไม่ใช่ว่า คังแทฮยอนสนิทกับชเวยอนจุน

    “พี่ยอนจุนเป็นลูกของพี่ชายแม่น่ะ”

    วันหนึ่ง แทฮยอนชวนเขาไปกินข้าวที่บ้าน แล้วแนะนำยอนจุนที่แวะมาเอาของให้เขารู้จัก

    ลูกของพี่ชายแม่ พูดง่าย ๆ ก็คือลูกลุง ลุงคนนั้นเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในอเมริกา แทฮยอนเคยเล่าให้เขาฟังอยู่

    “พี่ยอนจุน นี่ชเวบอมกยู เพื่อนสนิทผมเอง”

    นั่นคือบอมกยูแบบที่ยอนจุนรู้จัก เป็นสถานะที่เขาเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าจะเกิดขึ้นระหว่างตัวเขากับคนอย่างชเวยอนจุน

    ถ้าคุณเห็นเหมือนที่บอมกยูเห็น คุณจะเข้าใจว่า คนอย่างชเวยอนจุนเหมือนอยู่คนละโลกกับคุณ เหมือนว่าชีวิตนี้คุณจะไม่มีทางอยู่ในวงโคจรเดียวกับเขาได้

    แต่วันนี้บอมกยูดันจับพลัดจับผลูไปอยู่ตรงนั้นเสียได้

    ครั้งแรกที่เจอกันดูกระอักกระอ่วนนิดหน่อยแต่ก็เป็นไปได้ด้วยดีด้วยอัธยาศัยอันดีของคนอย่างยอนจุน และบอมกยูที่งัดทักษะการเข้าสังคมออกมาใช้ได้ทันท่วงที หลังจากนั้นเขายังเจอยอนจุนบ้างสองสามครั้ง ก่อนที่รุ่นพี่คนนั้นจะหายไปช่วงเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย นี่คงเป็นครั้งแรกหลังยอนจุนเรียนจบที่บอมกยูได้พบอีกฝ่าย

    ดูดีเหมือนเดิม

    ไม่สิ ดูดีกว่าเดิมอีก

    ยอนจุนนั่งลงข้างเขา ท่าทางสบาย ๆ ดูไม่มีภาระหนักหนาเหมือนช่วงก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นท่าทีที่ทั้งน่าอิจฉาทั้งอยากไปถึงจุดนั้นไว ๆ บอมกยูเปลี่ยนมานั่งขัดสมาธิมองอีกฝ่ายเหยียดขาเหยียดแขนเหมือนแมวบิดขี้เกียจด้วยสายตาประหลาดใจ

    “ผมนึกว่าเด็กมหาวิทยาลัยจะยุ่งจนไม่มีเวลามาทำอะไรแบบนี้เสียอีก”

    ยอนจุนหันมามองหน้าเขาก่อนจะเลิกคิ้วแล้วพูดยิ้ม ๆ “ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า ถ้าไม่มีเวลาทำสิ่งที่ชอบแล้วจะเอาแรงใจอะไรไปทำหน้าที่ของตัวเองล่ะ”

    คำพูดนั้นทำให้เขารู้อะไรเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย

    “พี่ยอนจุนชอบเล่นสเก็ตบอร์ดเหรอครับ”

    “อืม”

    “ต้องเล่นเก่งแน่เลย”

    “ก็...” ยอนจุนยักไหล่ “คนที่สอนแทฮยอนก็พี่เองแหละ”

    “อ๋อ...”

    “แล้วยังไงเรา เรียนเลยไหม”

    “คือ” บอมกยูเกาแก้ม “ผมเกรงใจ พี่จะคิดค่าสอนก็ได้นะครับ”

    ยอนจุนรีบส่ายหน้า “ไม่ต้องเลย ๆ เพื่อนแทฮยอนก็เหมือนน้องพี่คนหนึ่งเหมือนกัน ตอนนี้พี่ทำอะไรก็ได้แล้ว ไม่เหมือนแทฮยอนหรอก น่าจะโดนกดดันน่าดู” พูดแล้วก็ขมวดคิ้ว “สงสัยต้องไปเตือนคนอื่นหน่อยแล้วว่าอย่าไปกดดัน”

    คนฟังแอบอมยิ้มกับท่าทางแบบนั้น

    รักน้องน่าดูเลยแฮะ

    “เอาเถอะ ไว้ว่ากันตอนกลับถึงบ้าน บอมกยูรีบลุกเถอะ ถ้าเย็นกว่านี้จะมืดเอา”

    บอมกยูพยักหน้ารับ พวกเขาต่างคนต่างลุกขึ้นแล้วยืดเส้นกันพอเป็นพิธี ก่อนยอนจุนจะหันมาถามเขา

    “เคยเล่นมาก่อนหรือเปล่า”

    “ไม่เลยครับ”

    “งั้นอาจจะทรงตัวยากหน่อย แต่ไม่เป็นไรหรอก มันไม่ได้ยากขนาดนั้น”

    มันอาจจะไม่ยากเพราะยอนจุนเก่งไปหมดทุกอย่างก็ได้นะ

    บอมกยูแอบคิดในใจ ก่อนจะเริ่มทำตามที่ยอนจุนสอน

    แค่ทรงตัวบนบอร์ดก็ยากเอาเรื่อง เด็กหนุ่มเหงื่อตก เขายังหาจุดสมดุลให้ตัวเองบนกระดานติดล้อนี่ไม่ได้เลย

    ท่าทางเขาคงดูสิ้นหวังมาก ยอนจุนจึงลงจากบอร์ดของตัวเองมายืนข้างเขา

    “จับมือพี่ไว้สิ”

    พูดพลางมายืนประชิดตัวเขา แถมยื่นมือสองข้างมาให้เขาจับต่างหลักยึด

    บอมกยูตกใจเกือบร่วงจากบอร์ด แต่ยอนจุนคว้าแขนเขาไว้ได้ก่อน เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังอยู่ข้างหู

    “เดี๋ยวพี่ช่วย ใจเย็น ๆ”

    “…”

    ไม่ได้ใจร้อนอะไรเลย แต่ตกใจล้วน ๆ

    จู่ ๆ มายืนเสียใกล้ เป็นใครไม่ตกใจบ้าง

    บอมกยูแอบบ่นในใจ แต่พอเห็นสีหน้าใคร่รู้ของคนตัวสูงกว่านิดหน่อยที่มองหน้าเขาอยู่ก็รีบพูด

    “ผมแค่ตกใจเฉย ๆ ครับ”

    “อ่า โทษที” ยอนจุนขยับออกเล็กน้อย “แบบนี้โอเคไหมครับ”

    “…”

    จู่ ๆ รูปประโยคสุภาพก็โผล่มา ทำเอาบอมกยูอดทำหน้างงไม่ได้

    “ทำไมเหรอ”

    “…ผมแค่รู้สึกเหมือนไม่เคยได้ยินพี่พูดสุภาพขนาดนี้เฉย ๆ ครับ ไม่ชินนิดหน่อย”

    “อ๋อ” ยอนจุนหัวเราะ “บางทีก็มีเผลอพูดแบบนี้บ้างน่ะ ก็บ้านเป็นครูกันหมดนี่นา”

    บอมกยูพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะกลับมาสนใจสเก็ตบอร์ดตรงหน้าต่อ

    ช่วงเวลาหลังจากนั้นอยู่ตรงกลางระหว่างความทรมานกับความสนุก ทรมานตรงที่กว่าจะทรงตัวได้ก็แสนเหนื่อยยาก แต่พอได้เริ่มไถสเก็ตบอร์ดไปตามพื้นที่ว่างแล้วสัมผัสถึงลมที่พัดผ่านไปทั่วร่างกาย ความรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านก่อนหน้านี้ก็หายไปเสียสิ้น บอมกยูหลุดยิ้มกว้างเมื่อระยะทางที่ตัวเองอยู่บนบอร์ดไกลขึ้นจากจุดเริ่มต้นมาก เขาหันไปทำท่าชูมือใส่ยอนจุน

    “เยส!”

    ยอนจุนหัวเราะ “น่ารักจังน้า”

    “…”

    รอยยิ้มบนหน้าของบอมกยูค้างไปเล็กน้อย

    “เอ๊ะ?”

    “อ่า” ยอนจุนยกมือเกาแก้ม “ก็แค่รู้สึกว่าได้เห็นบอมกยูท่าทางร่าเริงแล้วน่ารักดีน่ะ”

    “…”

    “ขอโทษที่ทำให้รู้สึกแปลก ๆ นะ ถ้าไม่ชอบพี่จะไม่พูดแล้วครับ”

    บอมกยูรีบโบกมือปฏิเสธ “เปล่าครับ ๆ ผมแค่ไม่ชินเฉย ๆ ไม่ค่อยมีคนพูดแบบนี้ด้วย”

    “เหรอ แปลกจัง” ยอนจุนเท้าคางมองเขาอย่างสงสัย “นายก็น่ารักนี่ มันจะไม่มีคนพูดแบบนั้นด้วยเลยหรือไง”

    โอ้

    ไอ้ท่าทางแบบนั้นมันคืออะไรกันนะ

    บอมกยูเป็นฝ่ายยิ้มค้างแล้วยกมือเกาแก้มบ้าง เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าคนอย่างชเวยอนจุนชมคนอื่นเป็นปกติแบบนี้หรือยังไง แต่พูดจาชวนให้คนฟังหัวใจฟูแบบนี้ก็แอบอันตรายอยู่นะ

    ยอนจุนเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะเงยหน้ามาพูด “ค่ำแล้วแฮะ งั้นเดี๋ยวพี่ทำให้ดูอีกสักท่าแล้วอาทิตย์หน้ามาเจอกันใหม่นะ”

    “อาทิตย์หน้าพี่ก็จะมาสอนอีกเหรอครับ”

    ยอนจุนพยักหน้า “ใช่สิ มาเจอกันทุกอาทิตย์จนกว่าจะเก่งจนพี่ไม่ต้องสอนเลยเป็นไง”

    “…ได้สิครับ”

    ยินดีอย่างยิ่งเลยครับ

    บอมกยูกลั้นยิ้ม ก่อนจะหันไปมองชเวยอนจุนที่ไถสเก็ตบอร์ดออกไปด้วยท่วงท่างดงามราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเขา





    ยอนจุนเดินมาส่งเขาถึงป้ายรถเมล์ บอมกยูโบกมือลาอีกฝ่ายจากบนรถเมล์จนมองไม่เห็นยอนจุนในคลองสายตาอีกต่อไปจึงต่อสายหาคังแทฮยอน

    รออยู่ครู่หนึ่งเสียงแทฮยอนก็ดังขึ้น “เงียบไปเลยนะ สนุกอยู่ล่ะสิ”

    “…ก็ดี”

    “ไม่ต้องมาทำปากแข็ง ฉันรู้ว่านายชอบ”

    “ชอบอะไร”

    “พี่ยอนจุน”

    “แล้วใครไม่ชอบพี่เขาบ้าง”

    “เหรอ” แทฮยอนทำเสียงไม่เชื่อ “แล้วเป็นไง ให้พี่เขาสอน”

    “ก็ดี เขาเน้นพื้นฐานมาก แต่คิดว่าดีแล้ว แล้วก็อาทิตย์หน้าเจอกันอีก”

    “อาทิตย์หน้าอีกเหรอ” แทฮยอนทวน “พี่คนนี้มันชักจะเอาใหญ่”

    “อะไร”

    “เปล่า” ปลายสายเปลี่ยนเรื่อง “แล้วเป็นไง พี่ยอนจุนตัวจริง เหมือนที่เคยเห็นจากที่ไกล ๆ หรือเปล่า”

    บอมกยูนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบ

    “…ดีกว่าที่เคยคิดไว้เสียอีก”

    “ขนาดนั้นเลยนะ”

    “ก็ เขาใจดี” บอมกยูตอบเสียงค่อย “พูดจาดีด้วย ใจเย็นด้วย อยู่ด้วยแล้วสบายใจ”

    แทฮยอนหัวเราะเบา ๆ น้ำเสียงคล้ายจะเอ็นดูตัวเขาอยู่ในที “รู้ไหม ถ้าเขินพี่ยอนจุนให้ชมพี่เขากลับ แล้วพี่เขาจะทำตัวไม่ถูก ตรงนั้นเป็นช็อตเด็ดเลยนะ ต้องได้ลองสักครั้ง”

    บอมกยูตาโต “จริงเหรอ”

    “คราวหน้าก็ลองสิ”

    “…ได้”

    คราวหน้างั้นเหรอ

    บอมกยูอยากให้ถึงอาทิตย์หน้าเร็ว ๆ แล้วสิ





    FIN


    คังแทฮยอนเปิดอ่านแชตที่คุยทิ้งไว้กับญาติผู้พี่ด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้า

    แทฮยอน: แล้วพี่เป็นยังไงบ้าง สอนบอมกยู

    ยอนจุน: ก็น่ารักดี

    เหอะ แต่ละคน


    -------

    220412

    เงินซื้อเราได้ถ้ามากพอ-- ล้อเล่น (แต่ก็จริงส่วนหนึ่ง)

    จริง ๆ คือ ติดใจโมเมนต์เล่นสเก็ตตั้งแต่ MOA X TOGETHER น่ารักเวอร์ ความให้ลูกโป่ง เสียดายไม่ได้ใส่ไว้ค่ะ 555

    ขอบคุณทุกคนที่อ่านและจะขอบคุณยิ่งขึ้นถ้าคอมเมนต์หรือกระทำการอื่นใดเพื่อชุบชูใจข้าพเจ้าค่ะ ขอให้สงกรานต์นี้จิตใจเป็นสุขร่มเย็นเหมือนมีน้ำรดตลอด ไม่เหือดแห้งเหมือนอาการข้างนอกบ้าน แล้วก็ขอให้ TXT คัมแบ็คสักทีค่ะ พี่ต้องการแรงใจในการเก็บเงิน เร้วววววว

    เจอกันเรื่องหน้าค่า

    #wirunfic 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in