Debasish Mridha
-
ในวันที่ท้อ ไม่มีใครเข้าใจเรา เราก็ยังมีเพลงคอยปลอบใจ 55555
เอาจริงนะ แบบเวลาดิ่งมาก ๆ แล้วแบบมันเป็นเรื่องที่บอกใครก็ไม่ได้
กลัวคนรอบตัวเครียดตาม หรือไม่ก็แบบเค้าก็อาจไม่ได้เข้าใจสถานการณ์ที่เราเจอขนาดนั้น
บางทีเราก็ฟังเพลงเยียวยาตัวเองไป
อันนี้ไม่ได้เรียงตามความชอบอะไรนะ เรียงตามการนึกออก T-T
-
They say life is full of paradox
พวกเขาบอกว่าชีวิตนั้นเต็มไปด้วยความขัดแย้ง
All you gotta do is
ทั้งหมดที่เราต้องทำก็คือ
gettin’ used to this marathon
ทำใจให้ชินกับการแข่งขันมาราธอนชีวิตนี้
세상은 너에게만 모질까
โลกใบนี้ใจร้ายแค่กับเธอหรือเปล่า
누구나 힘들다
ไม่ว่าใครก็ลำบากเหมือนกันทั้งนั้น
어른이 된 네게
แต่กับเธอที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว
그 말은 못 되네 위로가
คำพูดนั้นคงไม่สามารถปลอบใจเธอได้อีก
ส่วนตัวเราชอบความหมายท่อนของพี่นัมจุนมาก ๆ ตั้งแต่ที่บอกว่าชีวิตนั้นเต็มไปด้วยความขัดแย้ง สิ่งที่เราต้องทำ และคงต้องทำให้ได้ คือทำใจให้ชินกับสิ่งนั้น นี่เลยมองว่าบางทีถ้าเรายิ่งไปฝืนเป็นแนวแบบ ทำให้ทุกอย่างมันเป็นไปอย่างที่เราอยากให้มันเป็น เราจะเหนื่อยมาก แล้วคนที่จะเจ็บที่สุดก็คือเรา เพราะเราพยายามอย่างหนักด้วย แรงคาดหวังของเราด้วย
ไม่ว่าใครก็ลำบากเหมือนกันทั้งนั้น
คำปลอบยอดฮิตที่สร้างอิมแพคในทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ในบางครั้ง ;-; คือก็เข้าใจคนปลอบนะ อาจหมายความว่า ไม่เป็นไรนะ ยังมีคนอื่นลำบากเหมือนกันก็ได้ 555555 แต่ในเพลงนี้น่าจะหมายถึง คนอื่น ๆ ก็ลำบากเหมือนกัน หยุดบ่น แต่ความลำบากของแต่ละคน ที่เวลาเราบ่น ๆ ไป มันเอามาเทียบกันไม่ได้เด้อ 555555 ทุกคนไม่ได้รับความเครียด ความกดดันได้เท่ากัน แต่ละคนก็มีจุดความอดทนที่ต่างกันออกไป
ขอบคุณเนื้อเพลงและคำแปลจาก : https://minimore.com/b/ZAAfC/39
Just life, we’re still good without luck
แค่ชีวิตนี่นา เรายังคงเป็นคนดีได้แม้จะไม่โชคดีก็ตาม
길을 잃어도 계속 또각또각 또 가볍게 걸어 (Take your time)
แม้ว่าเธอจะหลงทาง แค่เดินเตาะแตะและก้าวต่อไปช้า ๆ ก็ได้ (ตามสบายเลย)
แด่วันที่งง ๆ สับสน กับชีวิต จริง ๆ เนื้อเพลงน่ารักทั้งเพลงเลยค่ะ แต่อันนี้เป็นท่อนที่เราชอบมาก ๆ ท่อนนึง ยังไงก็เป็นชีวิตเราอ่ะเนอะ เราก็ยังโอเค ปกติดี ต่อให้ไม่มีโชคดีอะไรมากมาย ถึงเราจะหลงทาง แต่ก็ค่อย ๆ เดินไปอย่างช้า ๆ ก็ได้ นี่ชอบมากเลย แบบมันไม่ต้องรีบคิดเพื่อให้อะไรหลาย ๆ อย่างมันลงตัว หรือให้ลงล้อค ค่อย ๆ คิด ถึงแบบมันอาจมีเวลาจำกัด แต่นี่ว่าเพื่อ best solution ใจเย็น ๆ ก็ได้ เผื่อเราจะเจอทางออกที่ดี สิ่งที่ใช่ เหมาะกับตัวเราจริง ๆ
ขอบคุณเนื้อเพลงและคำแปลจาก : https://minimore.com/b/ffR88/42
ก็ยังเป็นเพลงของไอยูอยู่ 55555 จริง ๆ เพลงนี้ค่อนข้างเก่านิดหน่อย เป็นเพลงที่มี GD มาร่วมฟีทด้วยค่ะ จริง ๆ ตรงท่อนแร็ปของจีดี ก็ความหมายดีมาก ก็คือดีทั้งเพลงนั่นแหละ 55555
เคยมีช่วงที่สับสน ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรกันบ้างมั้ยคะ แบบไม่มั่นใจว่า สิ่งนี้คือสิ่งที่เราชอบจริง ๆ รึเปล่า หรือเราก็แค่นู้สึกดี โอเคกับมันเฉย ๆ หรือจริง ๆ แล้วอาจไม่ได้ชอบมากขนาดนั้น จริง ๆ เราว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือการที่เราลองไปลงมือทำสิ่งนั้นดูแบบจริงจังเลยว่าเราชอบมั้ย หรือแค่คิดไปเอง หรือไม่ก็พยายามคุยกับตัวเอง ถามตัวเองเยอะ ๆ เผื่อเราจะเจอคำตอบแบบที่เราไม่เคยคาดคิดเลยก็ได้
ขอบคุณเนื้อเพลงและคำแปลจาก : https://writer.dek-d.com/joongjandi/story/viewlongc.php?id=1083870&chapter=185
ได้ยินมาว่าบังทันได้รับแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้จากหนังสือเรื่อง Magic Shop ด้วยค่ะ จริง ๆ เพลงนี้ก็เพราะทั้งเพลงนะ ความหมายดีทั้งเพลงแหละ แต่นี่ชอบท่อนฮุคอันนี้ เหมือนในวันที่เราไม่ชอบตัวเอง ก็ให้เราถอยออกมาพัก อยู่ในจุดที่เป็น comfort zone ของเราอ่ะ ก็อาจไม่ได้หายดีในพริบตา แต่ก็ดีกว่าอยู่ในจุดที่เราไม่โอเคเนอะ
ขอบคุณเนื้อเพลงและคำแปลจาก : http://urikpopper.blogspot.com/2018/05/bts-magic-shop.html
ขอบคุณเนื้อเพลงและคำแปลจาก : https://almightyteoy.blogspot.com/2016/03/breathe-lee-hi.html
ฟังเพลงนี้ทีไร น้ำตาไหลทุกทีเลยค่ะ เพราะแต่ละท่อนมันจะมีความหมายในตัวของมันเอง ดีทั้งเพลงจริง ๆ ค่ะ อันนี้ยืนยันมาก ๆ T---T
เวลาที่เราผ่านเรื่องราว เหตุการณ์หนัก ๆ มา การถอนหายใจก็ถือเป็นวิธีคลายเครียดอย่างนึงนะคะ นี่ก็ชอบถอนหายใจบ่อย ๆ ล้ะบางทีดังมาก จนคนรอบตัวยังขำ มันเป็นการระบายความเครียดรูปแบบนึงนะ นี่ว่า 555555 สบายใจขึ้นเยอะเลย เราจะโตมากับคำสอนที่ว่าอย่าถอนหายใจบ่อย ๆ ใช่มั้ย แต่พอโตขึ้น เดี๋ยวมันก็จะเลิกสนไปเองอ่ะ เน้นที่สุขภาพจิตใจ ความเครียดของเราดีกว่า ถ้าถอนหายใจแล้วมันทำให้เราสบายใจขึ้น ก็ทำเถอะค่ะ ถือเป็นการระบายความเครียดได้ดีอยู่เหมือนกันนะ
---
ก็มีประมาณนี้ค่า สำหรับช่วงนี้ ใน playlist ของเรา
หวังว่าเพลงเหล่านี้ จะสามารถฮีล เยียวยาจิตใจเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านได้นะคะ
สำหรับเรา เราว่าถ้าเราเจอความทุกข์ใจแสนสาหัสอะไรมา ถ้าการร้องไห้ หรือการถอนหายใจ
หรือการได้คุยกับใครสักคน มันถือว่าเป็นการระบายสำหรับใครหลาย ๆ คนก็ทำเถอะค่ะ
มันสบายใจขึ้นจริง ๆ นะ พอเราได้ปลดปล่อยออกมาบ้าง
ถึงหลังจากนั้น มันอาจไม่ได้ดีขึ้น 100%
แต่มันจะค่อย ๆ ดีขึ้นนะ
อย่าไปคิดว่าไม่เป็นไร หรือเราทนเก็บความทุกข์นั้นไหว
ในวันที่เราเจ็บปวด หรือมีบาดแผลมา ก็อยากให้ยอมรับมันให้ได้
เพราะการที่เราจะก้าวผ่านมันไปได้ เราต้องยอมรับมันให้ได้ก่อน
รู้สึกตัวก่อนว่ามันทำให้เราเจ็บจริง ๆ
เคยมีอาจารย์ท่านนึงพูดไว้ว่า
บางทีเราอาจแค่มีผ้าคลุมวิเศษ ปิดความเจ็บปวดของเราไว้
จริง ๆ มันก็ไม่ได้หายไปไหนหรอก มันก็ยังอยู่กับเรา แต่เราแต่ทำเป็นมองไม่เห็น
หรือไม่สนใจสิ่งนั้นแค่นั้นเอง
แต่จะไม่นับว่ามันหายดีนะ สักวันมันก็อาจเจ็บขึ้นมาอีก
เพราะงั้น ถ้าเป็นไปได้เราคิดว่า อันนี้คหสตนะ 5555
ยอมรับให้ได้ จะช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร ให้เรารู้ตัวเองว่าเราไม่โอเค เราเจ็บจริง ๆ
แล้วค่อย ๆ ปลอบตัวเอง คนเราก็ล้มลุกคลุกคลานได้
ผิดพลาดกันได้ โมโหตัวเองได้ มันไม่มีใครมากำหนดกฎเกณฑ์ที่เราเป็นเรา
สุดท้ายชีวิตนี้ก็เป็นของเรานะ มีความสุขให้มากดิ
อะไรไม่ไหว ทำแล้วฝืนความรู้สึกตัวเองก็ไม่ต้องทำ
รักตัวเองให้เยอะ ๆ ค่อย ๆ ทำ ไม่จำเป็นต้องเดี๋ยวนี้ วันนี้
แต่ว่า วันนึงเราจะรู้สึกรักตัวเองมากขึ้น โดยที่เราไม่รู้ตัวเลย
แล้วเราก็จะใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เพราะเรารู้แล้วว่าจุดไหนคือจุดที่เราโอเค
จุดไหนเราไม่โอเค
แบบเศร้าก็เศร้า ท้อก็ท้อเถอะ
เหนื่อยก็พัก หันไปทำอะไรที่ชอบ
ฟังเพลงเยียวยาหัวใจกันไป พักให้พอ
ถ้ารู้สึกดีขึ้น หรือคิดว่าไหวแล้ว
ค่อยลุกขึ้นมาสู้ต่อ
เย้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in