เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Kettle MoodyPopeny Teerapan
ฉลองปีใหม่กับเป้าหมายในชีวิต
  • ผมนั่งกดไลค์ในอินสตาแกรมให้กับเพื่อนๆของผมในช่วงเวลาเทศกาลปีใหม่ ภาพที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ บรรยายกาศดีของเหล่าเพื่อนกับคนที่พวกเขารัก หากจ้องรูปไปสักระยะก็ชวนคิดถึงวันเก่าๆที่เราเคยมีร่วมกัน ใช่ผมไม่ค่อยได้มีเวลาพบเจอเพื่อนสมัยมัธยมบ่อยนัก จะว่าไปเพื่อนมหาลัยก็ด้วย ในรอบสองสามปี หากมากสุดก็ได้พบไม่เกินสี่ห้าคน

    ความรู้สึกเมื่อได้เห็นเพื่อนของเรา ประสบความสำเร็จหรือได้ทำในสิ่งที่พวกเขารักนั้น ความยินดีนั้นคือสิ่งที่เพื่อนอย่างเราสามารถมอบให้ ผมจะชื่นชนบุคคลเหล่านี้อยู่เสมอ บุคคลที่สร้างทุกอย่างในชีวิตด้วยความสามารถของตัวพวกเขาเอง มันจึงเป็นเหมือนพลังที่ส่งมาถึงเราเวลาที่เรากำลังหมดแรงขับเคลื่อนในเส้นทางของชีวิต

    ในตลอดปีที่ผ่านไปเพื่อนๆหลายคนของผมจัดการชีวิตของพวกเขาได้ค่อยข้างดี ทั้งเรื่องการงาน การเงิน หรือแม้กระทั้งความรัก พวกเขาชั่งมีพรสรรค์ในการจัดการออกแบบชีวิตเพื่อประสบเป้าหมายที่ตั้งไว้ เหมือนกับนัก Life planners ที่รังสรรค์ให้ชีวิตหนึ่งได้พบเจอแต่ความสำเร็จ แต่ในขณะเดียวกันนั้นก็มีเพื่อนบางคนที่ล้มเหลว ติดขัดไปทุกอย่างในรอบปีแม้ว่าจะวางแผนทุกอย่างไว้เป็นระบบแล้วก็ตาม



    แต่หากสิ่งหนึ่งที่เหล่าคนสองกลุ่มนี้มีร่วมกันคือ เมื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะดีหรือร้ายเกิดกับชีวิตแล้ว พวกเขาหลงไปกับสิ่งเหล่านั้นมากจนเกินไป คนที่ไปได้ในเส้นทางดีนั้น หลงกับมันไปมากเสียจนว่ายอมที่จะแลกทุกอย่างเพื่อไม่ให้ตัวเองได้กลับไปในจุดที่ได้จากมา ผมสังเกตุได้ถึงความมุ่งมั่นของพวกเขาผ่านบทสนทนา และก็สามารถสัมผัสได้ถึงการไม่ยอมรับความแพ้พ่ายให้กับชีวิต ไม่ให้อภัยตัวเอง

    บ่อยครั้งเหมือนกันที่ตัวผมเองก็หลงไปกับการทุ่มเท่ แรงกายและแรงใจ รวมไปถึงแรงคาดหวัง กับชีวิตบางอย่าง อย่างสุดขีดเพียงเพราะเพื่อต้องการจะไปให้ถึงจุดที่เราเรียกว่าประสบความสำเร็จ แม้ว่าการกระทำของผมจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นที่พอใจในหลายๆครั้ง แต่ทำไมผมกลับรู้สึกสิ้นหวัง ว่างเปล่า และเกิดคำถามว่าสิ่งที่เรากำลังทำนั้น มันจะพาเราไปสู่จุดที่เราตั้งเป้าไว้ได้จริงหรอ

    จนจะมาได้สติก็ต่อเมื่อได้อัพเดตชีวิตตัวเองให้อาจารย์ที่ปรึกษามหาลัยเดิมของผมฟัง อย่างน้อยการได้พูดคุยกับบุคคลที่เห็นเรามาตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่ได้มีอะไรนั้น เขาอาจจะเป็นเหมือนกระจกสะท้อนตัวเราเองก็ได้ การใช้ชีวิตไปตามสิ่งที่เราตั้งเป้าหมายนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่หากจะดีไปด้วย ถ้าหากเรายอมรับผลลัพธ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการไม่ไปคาดหวังจนเกินไป จนทำให้เรานั้นเสียสุขภาพจิต ทำในสิ่งที่เรามีหน้าที่ต้องทำก่อน และทำในสิ่งที่เราอยากทำด้วยความสนุก หรือมี passion กับมัน เธอกล่าว



    ผมเริ่มต้นจากการทำในสิ่งที่เรามีหน้าที่ต้องทำให้เสร็จทุกอย่างก่อน วางสิ่งที่ตัวเองถือไว้และมันหนักเหลือเกินลง ซึ่งก็ยากเหมือนกันที่จะสามารถทำให้ได้ภายในครั้งแรก "Don't put all your eggs in one basket" การกระจายความเสี่ยงสามารถนำมาปรับใช้กับการตั้งเป้าหมายในชีวิตได้ด้วย การกำหนดเป้าหมาย เป็นจุดเล็กๆและไม่ยากจนเกินไปสำหรับความสามารถของเรา ขณะเดียวกันต้องไม่ทำให้เครียดด้วย

    เตือนใจตัวเองว่าการประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช้ทุกอย่าง แต่ระหว่างทางที่เราได้ฝ่าฟันอุปสรรค์ต่างหาก คือกระบวนการที่สำคัญของการเรียนรู้ แม้ว่าผลลัพธ์จะออกมาดีหรือล้มเหลว แต่สิ่งที่เราจะได้รับอย่างแน่นอนเลยคือประสบการณ์ของการลงมือทำ ผมกับเพื่อนๆเดินทางไปพักผ่อนที่พัทยา ทริปนั้นทำให้มอบพลังให้พวกเราอย่างมาก หากว่าไปแล้วเพื่อนมัธยมและมหาลัยคือเพื่อนที่เราควรรักษาพวกเขาไว้ให้ดีที่สุด เพราะพวกเขาเหล่านี้เองที่มอบความเป็นเพื่อนให้เราในขณะตอนที่เรายังไม่ได้มีอะไร

    หากช่วงเวลาในการเริ่มต้นปีใหม่ของผมในปีนี้ ผมไม่ขอตั้งเป้าหมายอะไรให้ชีวิตหรอก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ไม่เคยทำมาทุกๆปีอยู่แล้ว แต่แค่อยากเตือนตัวเองในสิ่งที่กำลังจะทำในอนาคต คาดหวังในความไม่คาดหวัง แค่นั้นพอ




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in