ถึงจะห่างหายจากการเขียนรีวิวหนังไปเกือบ 4 ปี (ตกใจมาก!) ผม และเชื่อว่าทุกคนก็ไม่เคยหยุดเสพสื่อบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นหนัง นิยาย หรือ รายการทีวีต่างๆ ส่วนตัวแล้ว ผมมักจะชอบ หรืออินกับเรื่องหรือตอนที่มีตัวละครสำคัญหลายตัว คือยังเกตแหละว่าใครเป็นพระเอก นางเอก แต่ตัวละครอื่นๆ ก็อาจจะเรียกได้ไม่เต็มปากว่าเป็นตัวประกอบ เพราะพวกเขาเหล่านั้นก็ play important role ใน narrative เหมือนกัน
หลังจากไปทำการถามพี่กูฯ ก๊อกๆ แก๊กๆ ก็ได้รับรู้ว่ามันมีการนิยามสิ่งนี้ว่า ‘Ensemble Casts’ ถ้าให้ยกตัวอย่างเลยก็เช่นหนังตระกูล Ocean’s หรือ Don’t Look Up สองอันนี้คือใช้ดาราชื่อใหญ่มาชนกันเพื่อสร้างความหวือหวาน่าดู แต่ก็มีบางเรื่องที่เป็น cast ปกติ เช่น Drive My Car น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี รวมไปเรื่องนี้ ด้วย
หนังพูดถึง Barefoot เด็กมัธยมที่หลงใหลในหนังซามูไรย้อนยุค เมื่อถูกกระตุ้นจากการไปปิ๊ง รินทาโร่หนุ่มที่เล็งเห็นว่าจะมาเป็น ‘นักแสดงคู่บุญ’ กับความแค้นอยากจะเอาชนะเพื่อนคู่แข่งที่กำลังทำโปรเจคหนังรักรอมคอมฉายในงานโรงเรียน นางจึงแทกทีมกับเพื่อนซี้ Kickboard และ Blue Hawaii รวมถึงคนอื่นๆ ฟอร์มเป็นทีมทำหนัง ‘ซามูไรวัยละอ่อน’ ขึ้นมา
เรื่องราวดำเนินไปตามสเตปหนังวัยรุ่นฟีลกู๊ดติดตลกทั่วไปประมาณหนึ่ง แต่เล่าได้อย่างสนุกและมีสเน่ห์ โดยไม่วายที่จะใส่ twist ที่ค่อนข้างแปลกเข้ามาเสริมความสดใหม่ในพลอตเข้าไปด้วย เกิดการฝ่าฟันอุปสสรค มี conflict หลักให้พระเอกและนางเอกได้ก้าวผ่านและใกล้ชิดกัน ได้เรียนรู้และเข้าใจกับคู่แข่ง บลา บลา build up ไปถึงองค์สามซึ่งเป็นงานโรงเรียนและไปไคลแมกซ์ในช่วงการฉายหนังของชมรม
สิ่งที่เราสัมผัสได้คือการพูดถึงประเด็นของ ‘ความจีรังยั่งยืน’ ของสิ่งรอบตัว ซึ่งเอาจริงๆ โลกนี้ไม่มีอะไรถาวร แต่พอเกิดการชี้แจงเน้นย้ำถึงความ ’อายุสั้น’ ของมัน อย่างในเรื่องคือการที่รินทาโร่จะต้องกลับไปในโลกอนาคต หรือ การที่ ‘หนังซามูไรวัยละอ่อน’ จะถูกฉายเพียงแค่ครั้งเดียวก่อนจะต้องลบไปตลอดกาล ความรู้สึกเศร้า เสียดาย เสียใจ ที่เข้มข้นก็จะเกิดขึ้นในใจของทุกคน ซึ่งก็เป็นยาขมสอนใจตัวละครและคนดูได้ดีมากๆ ว่า เอ้อ จง cherish the moment นะเว่ย enjoy while it lasts เข้าใจไหม
ความพิเศษอีกอย่างคือหนังทำให้เรามี attachment กับตัวละครไป 7 คน (จาก 10 คนที่มีบทพูด) เราถูกทำให้เชื่อว่าตัวประกอบเหล่านี้ไม่ได้มีอยู่เพื่อทำหน้าที่ต่อบทหนังเฉยๆ แต่พวกเขาเหล่านั้นก็มีความคิด motive และ agenda ของตัวเองเหมือนกัน อีกหนึ่งความพิเศษคือในขณะที่หนังกำลังไฮไลต์แนวคิดสไตล์ ‘การต่อสู้เพื่อความฝัน ทำตามเสียงที่เรียกร้องในใจ ไปไขว่คว้ามาให้ได้ ไม่ลองไม่เสี่ยงไม่รู้หรอก’ ผ่านตัวละครหลักอย่าง Barefoot แบบเต็มที่ หนังเองก็ไม่ลืมที่จะ เหลือไว้ ถึงการเลือกที่จะยับยั้ง ไม่ทำ หรือถอยออกมา ของตัวละครรอง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in