เราชอบพี่เต๋อ นวพล
เราชอบสำนักพิมพ์แซลมอน
เราชอบ BNK 48
โชคดีขนาดไหนที่วันนึงจะมีโอกาสได้ดูผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากสามสิ่งนี้รวมกัน (แอบอิจฉาพี่เต๋อหนักกว่าเก่าด้วย) ยอมรับเลยว่าตื่นเต้นมาก พอทีเซอร์กับตัวอย่างหนังออกมายิ่งตื่นเต้นหนัก นับวันดูอย่างใจจดใจจ่อเลย
Girls Don't Cry เป็นสารคดีที่ใช้การสัมภาษณ์เมมเบอร์(สมาชิก)วง BNK48 รุ่นที่หนึ่ง เล่าเรื่อง 'ชีวิต' ของพวกเธอในระยะเวลาตั้งแต่ได้รับนามสกุลดังกล่าวต่อท้าย เมมเบอร์แต่ละคนได้พาเราไปรู้จักกับลักษณะของวงที่มีระบบและรูปแบบที่แตกต่าง ไปพร้อมๆ พาคนดูรู้จักเมมเบอร์เอง ก่อนจะเริ่มมีคอนฟลิค ดำเนินความเข้มข้นไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ แล้วก็ปล่อยมันกลางอากาศ อย่างไม่ตัดสิน เป็นการตั้งคำถามและแง่คิดมากมายให้เราได้กลับไปคิดต่อ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ เป็นใครมาจากไหน มันก็จริงสำหรับทุกคนเลยนะ ที่ผมสรุปได้มีประมาณนี้ครับ
1. การตัดสินใจภายใต้ข้อแม้หรือเงื่อนไขบางอย่าง
ไม่มีใครรู้ว่า คุ้กกี้เสี่ยงทายจะกลายเป็น earworm ให้คนทั้งประเทศฮัมกันไม่รู้จบ ไม่มีใครบอกได้ว่า จะให้เห็นหน้าของน้องๆ ในสินค้าตั้งแต่ขนมยันรถยนต์ แล้วอะไรคือหลักการของการตัดสินใจของเด็กสาวเหล่านี้ เขาต้องเดิมพันด้วยอะไร คาดหวังเท่าไหน แค่ไหนคือลิมิตที่ตั้งไว้
บางคนอยากลองสนุกๆ
บางคนพ่อแม่บังคับ/แนะนำ
บางคนอยากเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่รัก
บางคนอยากจะได้สิ่งนี้เป็นขั้นบันไดที่จะส่งเธอไปในจุดที่สูงกว่าหรือฝันไว้
2. ความกดดันจากความจำกัดและไม่แน่นอนของโอกาสทุกๆ สามเดือนโดยประมาณ ทางทีมงานจะเลือกเพลงจากวง AKB48 มา rearrange แปลงเป็นภาษาไทย ปล่อยออกมาเป็นซิงเกิล ซึ่งในแต่ละซิงเกิล เมมเบอร์ 16 คนจะได้รับการคัดเลือกเป็น 'เซมบัตสึ' หรือเข้าใจง่ายๆ ว่านักกีฬาตัวจริง มาให้โปรโมตเพลงนั้นๆได้ออกอีเวนต์ และได้ร่วมแสดงในเอมวี (เมมเบอร์ที่เหลือจะอยู่ในสถานะ 'อันเดอร์เกิรลส์' หรือตัวสำรองไปโดปริยาย) ความแซ่บของมันอยู่ตรงที่การตัดสินใจขึ้นอยู่กับเบื้องบน ซึ่งเกณฑ์การเลือกก็สุดแสนจะคร่าว เช่น ความตั้งใจ มีพัฒนาการ มีความนิยมดี performance ดี ฯลฯ ไม่ได้ชัดเจนตรงไปตรงมา โอกาสที่ไม่ได้ถูกแจกจ่ายอย่างเสมอกัน ความแซ่บก็คือ ความไม่ชัดเจนของเกณฑ์การเลือกและจำนวนเก้าอี้นี่แหละ ที่เป็นตัวกระตุ้นและกดดันในเมมเบอร์พัฒนาศักยภาพในทุกๆ แง่มุม ให้เข้าตากรรมการ ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือแข่งขันกันนั่นเอง ทุกคนก็น่าจะรู้ดีวัฒนธรรมการแข่งขันของชาวตะวันออก เอาจริงก็นำโดยพี่ยุ่นกับพี่ไทยเลยนี่แหละ ที่มองการทับเกยกันของสถานะเพื่อน-คู่แข่ง การทำเพื่อส่วนรวม-ส่วนตน น้ำใจนักกีฬาและความเหมาะสม ได้ดีก็ต้องเป็นห่วงเพื่อน ไม่ได้ดีก็ต้องยินดีกับเพื่อนด้วย ก่อเกิดเป็นความซับซ้อนละเอียดอ่อนของความรู้สึกภายในใจของเมมเบอร์แต่ละคน
3. ความพยายามและการเปลี่ยนแปลงตัวเอง'เป็นตัวของตัวเอง' และ 'ทำให้เต็มที่ก็พอ' เป็นคำพูดสวยหรูที่อาจจะไม่ได้จริงเสมอไป ในเมื่อปัจจัยสู่ความสำเร็จหลายข้อถูกกำหนดด้วยคนอื่น เมมเบอร์จึงประสบกับวิกฤต Identity ขั้นรุนแรง ต้องเป็นคนแบบไหนแฟนคลับถึงจะชอบ ต้องมีจุดเด่น-จุดขายของตัวเองรึเปล่า การเปลี่ยนสไตล์หรือขับนิสัยบางอย่างให้ชัดขึ้น เท่ากับว่าเรายังซื่อสัตย์กับตัวตนอยู่หรือไม่ ต้องพยายามที่สุดไหน แล้วพยายามแค่ไหนถึงจะพอ
4. ความจริงบางอย่างที่อาจไม่มีวันเข้าใจได้ หรือน่ากลัวเกินกว่าที่จะยอมรับ
หลายอย่างในโลกนี้ไม่ได้มีแต่ตัวแปรเพียงไม่กี่ตัวตามในสมการ ทำไมเฌอปรางที่ร้องและเต้นไม่เป็นถึงได้เป็นกัปตัน อาจจะเป็นเพราะภาวะความเป็นผู้นำหรือเพียงรูปร่างหน้าตา ทำไม่จิ๊บที่ทุกคนต่างให้ความเห็นว่าร้องและเต้นได้เก่ง ถึงได้เป็นอันเดอร์ อาจจะเป็นเพราะเหตุผลเดียวกันก็เป็นได้
ในขณะที่เราได้เห็นเรื่องราวของการ rise to the top ของปูเป้ ตั้งแต่ อันเดอร์ในซิงเกิลแรก สู้เซมบัตสิในซิงเกิลที่สอง สาม และ สี่ควบกับตำแหน่งโปรดิวเซอร์คอนเสิร์ต ยังมีเรื่องราวของ น้ำหอม แคน อิสึรินะ ติดเซมฯแค่ครั้งเดียว แล้วจากนั้นไม่ติดอีกเลย
จากคำพูดของเคทที่น้ำใสยกมาว่า "ตลอดการเป็น BNK48 เราจะไม่ติดเซมฯเลยสักครั้งเหรอวะ" เราได้เห็นน้องมาย ติดเซมฯครั้งแรกในซิงเกิลที่สี่แล้ว แต่ จิ๊บ นิ้ง เปี่ยม แม้แต่ตัวน้ำใสและเคทเอง ก็ยังไม่เคยติดอยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นยังมี คิทแคท ซินซิน ผู้ซึ่งไม่เคยติดเซมฯ และได้จบการศึกษา(ออกจากวง)ไปแล้วด้วย
“ถ้าเป็นไปได้ หนูก็อยากมีความสุขนะพี่”
คำพูดของเมษา ผู้ซึ่งไม่เคยมีเสียงของตัวเองอยู่ในเพลงของ BNK48 แม้แต่เพลงเดียวได้กล่าวเอาไว้
ในความคิดเห็นของผม ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถอดแบบมาจากชีวิตจริง เราสามารถแทนค่าเหตุการณ์แทบทุกอย่างในชีวิตกับ ระบบของ 48group ได้อย่างง่ายดาย สอบเข้ามหาวิทยาลัย สมัครนักบิน ประกวดนางงาม หรือแม้แต่กับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนเชิญธงชาติ มนุษย์เราดำเนินชีวิตไปด้วยการแข่งกัน การถูกเลือก การได้รับการอนุมัติและได้รับโอกาส อย่างไม่เท่าเทียม บนความไม่เท่าเทียม
สิ่งสำคัญคือการยอมรับและเข้าใจ ไม่ว่าเราจะอยู่จุดไหนในชนชั้นของสิ่งเหล่านั้น มีคนที่อยู่สูงกว่า และ ต่ำกว่าเราเสมอ
เราทุกคนต้องอยากติดเซมบัตสึในชีวิตตัวเองอยู่แล้วจริงไหมครับ บางคนอาจจะติดเซมฯในชีวิตการทำงาน แต่ยังเป็นอันเดอร์ในด้านความรัก คนที่ติดแล้วก็ไม่มีใครอยากจะเสียตำแหน่งไปแน่
สิ่งที่หนังสอนผมมากที่สุดคือเมื่อไรก็ตามที่เราได้รับตำแหน่งเซมบัตสึ จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ จงทำมันให้ดีที่สุด ในวันที่ภาระในจิตใจเริ่มจะหนักเกินไปทุกๆ วัน ระลึกไว้เสมอว่า มีคนที่พยายามทุกอย่าง เพื่อให้ได้มายืนในที่ๆ เรายืนอยู่
แต่เมื่อไรก็ตามที่เราเป็นอันเดอร์ฯ ให้ถามตัวเองว่าเรายังมีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่หรือไม่ พร้อมไหม ที่จะพยายามต่อไปภายใต้ขอบเขตอันคลุมเครือไม่แน่นอนว่าเราจะได้เป็นเซมฯเมื่อไร จงซื่อตรงกับความรู้สึก(ฉัน) ถ้าคำตอบคือใช่ ก็อยากจะขอยกนิ้วให้แรงๆ
ขอให้เมมเบอร์ทุกคนโชคดี ให้คุกกี้ทำนายกัน
Random thoughts
- สิ่งที่ประทับใจมากคือแอร์ไทม์ของปูเป้ รู้สึกว่าพี่เต๋อร้ายมากที่ตัดซีน ‘หนูว่าหนูออกมาแค่สองนาที’ ใส่ลงไปในตัวอย่าง วันที่เจ้าตัวมาดูรอบสื่อคงจะหงายเงิบไปเลย
- คนที่ทำให้เราประทับใจอีกคนคือไข่มุก จากที่ไม่เคยชอบเลย รู้สึกว่าเค้าเป็นคนที่จริงๆ แล้วมีอะไร ดูแล้วยิ้มไปกับเขา
- จิ๊บเองก็ด้วย เป็นคนที่มีออร่าน่าเอาใจช่วยมากๆ ฟังจิ๊บพูดแล้วก็รู้สึกเอ็นดูน้องคนนี้จัง
- น้ำหนึ่งออกน้อยเกินไปน้า สงสาร
- แอบรู้สึกท้าทายเล็กน้อยกับคำพูดที่ว่า ‘ถ้าไม่ติดเซมฯ หนูก็ไม่เสียใจ’ ของซัทจัง แต่น้องก็ยังติดอย่างต่อเนื่อง (ฮา)
- ชอบความคอนทราสต์ของหนังกับเส้นเรื่องในชีวิตจริง ที่ ณ วันทำหนัง ฉายหนัง และปัจจุบัน สถานะและสถิติบางอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว (แคนแกรด มายติดเซมฯ) รู้สึกเซอร์เรียลดีแฮะ
- ชอบความเรียลของอรกับครูแก้ว
- เจนเป็นคนที่พูดไม่เก่ง แต่ถ่ายทอดอารมณ์ได้พิเศษมาก ขึ้นกล้องอีกด้วย
- จริงๆ อยากจะไปซ้ำรอบสองแต่ยังไม่มีโอกาสเลย ของให้หนังอยู่ไปนานๆ มี #Jennisweek ด้วยยิ่งดี (ฮา)
RANKINGS
1. Arrival
2. Nocturnal Animals
3. Last life in the univers
4. Sing street
5. Money Monster
6. Green Room
7. Kubo and the Two Strings
8. Wonder
9. Train to Busan
10 La La Land
11. Your name
12. Trolls
13. Nerve
14. The Glass Castle
15. Where to Invade Next
16. Mr. right
17. Ghostbusters
18. The shallows
19. A Cure for Wellness
20. Kiseki
21. BNK48 : Girls Don't Cry
21. Mother!
22. Bad Moms
23. Finding dory
24. Captain America: Civil war
25. The Conjuring 2
26. The VVitch
27. Lights out
28. February
29. High-rise
30. Me Before You
31. Equals
32. Blair Witch
33.Don't breathe
34. Bad Neighbors 2
35. Café Society
36. If Cats Disappeared form the world
37. Hardcore Henry
เครดิตภาพ
https://www.youtube.com/watch?v=XLID310BFog
https://www.youtube.com/watch?v=5txOhaAtb7Y
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in