เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรียงหนังหลังดูSilapa Junior
เพลงยุคซิกซ์ตี้กับแม่ชีตุ้งแช่: The Conjuring 2
  • คิดว่าคอหนังผีหลายคนน่าจะมีประสบการณ์คล้ายกัน คือหาคนดูด้วยยากมาก และความขลังของหนังจะลดลงไปหลายเท่าถ้าไม่ได้ดูในโรง (สำหรับเรานะ) ซึ่งมันมักจะมีกลุ่มคนดูที่เจาะจงอยู่พอสมควร อย่างเพื่อนๆ รอบตัวนี่รู้เลย ใครคอหนังผีใครไม่ The Conjuring อาจจะกำลังพยายามขยายกลุ่มเป้าหมายคนดู และก็ท่าทางจะเวิร์กซะด้วย

    ผัวเมียวอร์เรนคืนส่งสังเวียนอีกครั้ง หลังจากตั้งใจจะวางมือ เพราะภรรยารู้สึกกระทบกระเทือนหนัก และเป็นห่วงสวัสดิภาพของสามี ครั้งนี้ต้องบินไปช่วยไกลถึงเกาะอังกฤษ ลูกสาวในครอบครัวซิงเกิลมัมลูกสี่ กำลังตกที่นั่งลำบากจากการรังควานของผีชายแก่ที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ในยุคที่เทคโนโลยีเริ่มเฟื่องฟูและความเชื่อกำลังถูกสั่นคลอน อาจจะมีความชั่วร้ายที่น่าสะพรึงกว่าบ้านผีสิงทั่วไปรอพวกเค้าอยู่

    กลับมาที่ตัวหนัง ดีใช้ได้เลยทีเดียว แต่จะพูดยังไงดีหละ ผมว่ามันสูญเสียเสน่ห์ของหนังผีไปพอสมควร ในความคิดผม แก่นของหนังผีคือการสร้างความ อึดอัดน่าระแวงหรืออารมณ์ทางลบอื่นๆ มอบให้คนดู แล้วเลี้ยงส่งระดับอารณ์นั้น ไปสู่จุดพลิกสุดพีคของหนังได้อย่างแสบสันต์ เรียกว่า 'สยองขวัญ' คนดูได้สมชื่อ

    แต่ The conjuring ทั้งสองภาค ไม่ใช่ทำไม่ถึง แต่ไม่ได้ตั้งใจจะทำด้วยซ้ำ 

    อย่างที่ผมได้ยินคนพูดกันว่ามันไม่ใช่หนังผี เป็นเพียงหนังจานรา(Genre) อื่น ที่ใช้ผีเป็นหุ่นเชิดนำเนินเรื่องเท่านั้น ฉากน่ากลัวยังมีอยู่ไม๊ มี แต่ไม่ได้ใส่เข้ามาด้วยเหตุผลเดียวกับหนังผีทั่วไป เราสามารถติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ โดยไม่รู้สึกกดดันหรือต้องแบกรับอารมณ์ใดๆ ที่ปกติแล้วจะสั่งสมทวีความหนักหน่วงขึ้นตามทาง นั่นน่าจะเป็นประเด็นหลักที่คอหนังผีชอบหนังผี และคนไม่ชอบหนังผีจะทนรับไม่ไหว

    การตัดต่อในตอนกลางค่อนไปทางต้นมีลักษณะเป็นต่อนๆ เหมือนคิดลูกเล่นสถานการณ์ คน VS ผี ขึ้นมาได้ ก็เลยเอามาจัดกันเป็นยกๆ ไม่ค่อยสมูท เช่น
    นางเอก VS แม่ชี (แย่งกันเปิด - ปิดไฟ)
    น้องติดอ่าง VS crooked man (แย่งกันเล่นรถของเล่น)
    เด็กหญิงตัวหลัก VS ผีคนแก่ (แย่งรีโมตกัน)

    แต่ก็หยวนให้ได้ เพราะช่วงท้ายของหนังทำได้ดี ลุ้นกันตัวโก่ง

    การใส่เพลงที่โคตรจะไม่เข้ากับหนังผี เช่น เพลงคลาสสิกมั่งล่ะ เพลงเด็กมั่งละ ซาวด์แปลกๆมากมาย แต่สุดท้ายสร้างผลที่ลุกขนได้ทั้งร่าง มีมาให้เห็นบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ในหนังสยองขวัญ/ระทึกขวัญรุ่นหลัง (ความขัดกันมันสร้างมิติได้ดี ผมมักจะชอบจุดนี้เป็นพิเศษ)

    เรื่องนี้ ก็มีการใส่เพลงดังยุค 60's อย่าง Can't Help Falling In Love - Elvis Presley และ I Started A Joke - Bee Gees แต่ก็นั่นแหละ ไม่ได้หวังผลสยอง น่าจะหวังผลสร้างอารมณ์ให้มีหวังคลายและผิดหวังแทน


    สรุปเลยคือ หนังประสบความสำเร็จในการ 'ขยายกลุ่มเป้าหมาย' ด้วยเส้นเรื่องที่มันแมส น่าเอาใจช่วยและ แฮปปี้แอนดิ้ง ไม่มีความอึกอัดของหนังผีจนทำให้เกิดกระแสชวนปากต่อปากกันไปดูของคนที่ปกติไม่ได้ดูหนังผีมากตามคาด

    แต่สำหรับคอหนังผีอย่างผม ถึงจะไม่เสียดายเงินที่ได้ไปดู (เพราะมันก็สนุกจริงๆ) คงออกปากพูดไม่ได้เต็มปากว่า The Conjuring 2 เป็นหนังสยองขวัญที่ดี โถ แม้แต่จะจัดหมวดหนังเรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญ

    ยังพูดได้ไม่เต็มปากด้วยซ้ำ
    ผีแม่ชีอันเป็นที่เลื่องลือ สยองจริงอะไรจริง

    ปล. ลืมบอกส่วนที่ชอบสุดเฉยเลย ผมชอบการตีความของทีมงานและ ผกก. ที่ทรีทหนังเรื่องนี้ให้มันมีความ 'กึ่งสารคดี' อย่างการหานักแสดงที่หน้าคล้ายคนจริง การใช้โลเคชั้นและพร๊อพที่โคตรจะเหมือนกับในรูปถ่ายเหตุการณ์จริง ผมว่ามันช่วยเพิ่มความลึกและสร้างความน่ากัว มีของ ให้กับหนังอีกหลายเท่าตัว

    RANKINGS
    1. Money Monster
    2. Green Room
    3. Mr. right
    4. Captain America: Civil war
    5. The Conjuring 2
    6. The VVitch
    7. Equals
    8. Bad Neighbors 2
    9. If Cats Disappeared form the world
    10. Hardcore Henry

    เคดิตภาพ
    http://nerdist.com/wp-content/uploads/2016/06/The-Conjuring-2-Nun-06-12-16.jpg
    http://ilarge.lisimg.com/image/11641165/1118full-the-conjuring-2-screenshot.jpg
    http://cdn.traileraddict.com/content/ff/the-conjuring-2-trailer.jpg

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in