เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ยามปทุมมาแห่งอวิ๋นเมิ่งมัวหมอง Mpregnithion58_onuma
เกษียรธาร
  • หลังจากที่หลานวั่งจีเดินทางกลับกูซู เว่ยอู๋เซี่ยนเองก็พาอาเยวี่ยนเดินทางกลับล่วนจั้งกั๋งเช่นกัน บรรยากาศและสภาพของที่นั่นไม่ต่างอะไรจากที่เคยพบเจอทุกวัน ต่างกันตรงที่เขากลับไปยังที่พำนักของตนเองแล้วพบว่าเวินฉิงกำลังนั่งรอเขาอยู่ ข้างๆมีเวินหนิงยิ้มมอง แม้จะกล้ามเนื้อใบหน้านั้นยังแข็งค้างจนทำให้รอยยิ้มนั้นดูประหลาดๆก็ตาม

    "อาฉิง เวินหนิง"

    "คุณชาย...เว่ย..."

    "ว่าอย่างไร กลับมาจนได้นะ นึกว่าถูกพวกตระกูลเซียนฆ่าตายไปแล้วเสียอีก" เวินฉิงปรายตามอง ขณะที่รินน้ำส่งให้อีกฝ่าย  "หายไปสองวัน พาอาเยวี่ยนไปไหนมาบ้าง?"

    "ไปในเมืองนี่ล่ะ ที่จริงข้าจะกลับอยู่แล้ว พอดีเจอสหายเก่า เลยต้องอยู่ต่อ" เขาตอบแล้วรับน้ำมาดื่ม เป็นน้ำต้มจากรากบัวที่เขาเคยลงไปซื้อในเมืองเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน เอามาหั่นเป็นแว่นแล้วตากแห้ง เก็บไว้ทำอาหาร และต้มดื่มได้หลายมื้อ มีสรรพคุณบำรุงหลังคลอดดีในราคาย่อมเยาว์ เวินฉิงให้เขาดื่มแทนน้ำมาระยะหนึ่งแล้ว 

    "ใคร?"

    "ไม่บอก" เว่ยอู๋เซี่ยนแล่บลิ้นใส่อีกฝ่ายทำเอาเวินฉิงส่ายหน้า  

    "หึ ข้าก็ไม่ได้อยากรู้หรอก กลัวแต่ว่าจะไปเสียท่าใครก็เท่านั้น" นางเบือนหน้าไปทางหนึ่ง "เจ้าจะไปที่ไหนกับใคร ข้าไม่ว่า แต่อย่าได้ละเลยบำรุงร่างกาย ถึงเจ้าจะรอดตายจากการโดนแรงอาฆาตสิงสู่ร่าง ไหนจะคลอดอาเยวี่ยนแล้วไม่ได้ดูแลตัวเองอย่างดีอีก ตอนนี้ร่างกายเจ้าไม่เหมือนเดิมแล้ว อย่าได้ก่อเรื่องไม่เข้าท่าอีก"

    "รู้แล้ว" เว่ยอู๋เซี่ยนบุ้ยปาก นับตั้งแต่เวินฉิงรู้ว่าเขาคลอดอาเยวี่ยนมานานนับเดือนโดยไม่ได้อยู่เดือนตามธรรมเนียม อาหารการกินก็แทบไม่ได้ตกถึงท้องเพราะมัวแต่เอาเวลาไปค้นคว้าและเลี้ยงเด็ก นางถึงกับคว้าไม้เรียวมาตีเขาสองที ดุด่าเสียมากมายจนเขาทำได้แต่อุ้มอาเยวี่ยนโยกหลบไปมา

    .......

    เพียะ!

    "เจ็บนะ!!"

    เวินฉิงฟาดไม้เรียวลงกับโต๊ะไม้แล้วตวาด "อย่ามาร้องนะ! หลังคลอดบุตรไม่อยู่เดือน! ทั้งชี่และเลือดพร่องลงแบบนี้ จะเร่งให้ตัวเองอายุสั้นใช่หรือไม่!?"

    "ก็ข้าไม่รู้นี่ แค่คลอดอาเยวี่ยนแล้วข้าไม่ตายก็นับว่าดีเพียงใดแล้ว จะให้มาอยู่ดงอยู่เดือนอะไรกัน!"

    "ยังจะเถียง!"

    "อาฉิงคนดีอย่าตีข้าเลยนะ ปรมาจารย์อี๋หลิงแพ้แล้ว ยอมแพ้แล้ว!"

    "หุบปาก! นับตั้งแต่วันนี้ข้าจะเป็นกำหนดเองว่าเจ้าจะกินอะไรไม่กินอะไรได้ แล้วถ้าข้ารู้ว่าเจ้าแอบไปกินอะไรประหลาดๆจนป่วยกลับมาล่ะก็ เจอดีแน่!"

    "รู้แล้วๆ!"

    แต่ไหนแต่ไรเว่ยอู๋เซี่ยนกลัวหมาเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือการถูกตี เมื่อถูกสตรีที่ดุพอๆกับอวี๋ฟูเหรินไล่ตีเช่นนี้เล่นเอาเขากลัวหัวหด หลังจากวิ่งไล่อ้อมโต๊ะกันไปมาอยู่นาน เว่ยอู๋เซี่ยนก็ยอมเป็นเด็กดีให้อีกฝ่ายจัดยาและอาหารบำรุงมาให้ทุกวันมิได้ขาด ทั้งน้ำแกงปลาที่เคี่ยวจนเป็นสีขาวดังน้ำนม หมูต้มถั่วลิสง (เอ่อ...ที่จริงอันนี้ควรเป็นขาหมูแต่ว่าเงินทองของสกุลเวินที่เหลือรอดใช่ว่าจะมีมาก) บางบ้านที่รู้ว่าผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือเจ็บป่วยจึงยอมฆ่าไก่แก่นำเนื้อผัดขิง นำกระดูกมาต้มน้ำแกงบำรุง อีกทั้งเวินหนิงที่ดูสติสัมปชัญญก็จะผ่าฟืนต้มน้ำร้อนให้อาบกับต้มน้ำขิงใส่กาเอาไว้ให้เว่ยอิงดื่มในวันที่อากาศหนาวมากๆด้วย 

    สิ่งเหล่านี้แม้จะไม่ใช่สมุนไพรเลิศล้ำสูงค่าหรืออาหารราคาแพง แต่เขากลับรู้สึกดีมากกว่าที่มีคนรักและห่วงเขามากถึงขนาดนี้

    ........

    เว่ยอู๋เซี่ยนหลุดจากความคิดของตนเมื่อได้ยินเสียงอาเยวี่ยนในอ้อมแขนตนร้องโยเย "โอ๋ๆ อาเยวี่ยน เพิ่งมาถึงบ้านก็ร้องเลยหรือ?" เขาปลอบขณะที่สังเกตปี่เซียะที่ข้อมือเด็กน้อยก็เห็นว่ามันยังอยู่ดีแสดงว่าไม่ได้ถูกไอมารเล่นงาน ผ้าอ้อมไม่หนัก แสดงว่าไม่ได้ไม่สบายตัวหรือปวดหนักปวดเบา อีกทั้งขยับตัวขยับหน้าเข้าหาอกเขาแบบนี้ อาการเช่นนี้ก็มีอย่างเดียว "หิวนมสิท่า?"

    เมื่อวานตลอดทั้งวันหน้าที่ดูแลอาเยวี่ยนตกเป็นของหลานวั่งจีเสียส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเปลี่ยนผ้าอ้อมที่เขายอมให้อีกฝ่ายเวลาอาเยวี่ยนถ่ายเบา แต่ถ้าเป็นถ่ายหนักหานกวงจวินจะทำคิ้วขมวด เบือนหน้าหนีน้อยๆ ยกแขนเสื้อปิดจมูก ใบหน้าซีดขาว อาจจะเพราะทำใจไม่ได้หรืออย่างไร แต่ท่าทีนั้นน่าสงสารนักจนเว่ยอิงต้องเป็นคนมาเปลี่ยนเอง รวมไปถึงการให้นมที่หลานวั่งจีก็เป็นฝ่ายป้อนด้วยตนเองโดยที่เขาไม่มีโอกาสจะให้นมเองเสียด้วยซ้ำ

    ถึงจะรู้สึกสบายที่มีคนช่วยเลี้ยง แต่ก็แค่ชั่วคราว อย่างไรเสียอาเยวี่ยนก็ต้องอยู่กับเขา ดื่มนมจากอกเขา ให้เขาเลี้ยงดูป้อนน้ำป้อนข้าวไปจนโตอยู่ดี...

    เด็กหนุ่มคลายสาบเสื้อตัวเองลง  ประคองศีรษะทุยของทารกน้อยให้ดื่มนมจากอกเขาได้สะดวก หลังจากเข้าที่เข้าทางเด็กน้อยก็ยกมือเล็กๆบีบนิ้วเขาเล่น เขาเองก็ลูบมือน้อยๆตอบ ท่าทางสุขใจและผ่อนคลายเหมือนทุกที ทว่า หลังจากที่อาเยวี่ยนดูดนมไม่เท่าไหร่ ก็ผละออก ซ้ำยังร้องไห้แทบขาดใจจนเว่ยอู๋เซี่ยนประหลาดใจ 

    "เอ๋? ทำไมล่ะ ไม่หิวหรือ?" เว่ยอู๋เซี่ยนประหลาดใจ แล้วประคองใบหน้าเล็กให้เข้าหาอกเขา ทว่าร่างจิ๋วกลับบิดตัวไปมา ทั้งยังส่งเสียงร้อง

    "ไม่น่านะ อาการแบบนี้น่ะ คือหิวมาก" เวินฉิงจ้องมองที่อกของเว่ยอิงแล้วย่นคิ้ว ก่อนเอ่ยถาม "หรือว่าน้ำนมจะมีปัญหา"

    "หา จริงหรือ?"

    เวินฉิงพยักหน้า "รสชาติของนมจะเปลี่ยนไปแต่ละวัน ตามอารมณ์ หรืออาหารการกิน เช่นนั้นเจ้าควรหาเวลาชิมนมตัวเองบ้าง ถึงปกติคนทำจะเป็นสามีก็เถอะ..."

    "สามีหรือ?" เว่ยอิงทวนคำ ในขณะที่ในหัวเริ่มนึกภาพตาม...

    ....

    เว่ยอิงคลายสาบเสื้อออก เผยให้เห็นร่างท่อนบน เกษียรธารหยดซึมเล็กน้อย เขากลืนน้ำลาย หน้าแดงก่ำ มองหน้าหลานวั่งจีที่นั่งรอเขาอยู่ที่เตียงและรวบรวบความกล้า

    //พี่รองหลาน รบกวนท่านชิมนมของข้าที//

    หลานวั่งจีเบิกตาน้อยๆ เขายืนอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายจนเห็นลูกกระเดือกของคุณชายรองสกุลหลานขยับขึ้นลงช้าๆ ดวงตาสีใสคล้ายคมกริบวาววับ ก่อนพยักหน้าเบาๆ

    //ได้...// ว่าจบ ใบหน้าคมคายพลันโน้มเข้าหา เขาได้แต่หลับตานิ่ง รู้สึกถึงริมฝีปากที่ประกบทาบที่ปลายยอด ทั้งยังลิ้นร้อนที่แตะต้องจนเขาสะดุ้งวาบ

    //อ๊ะ หลานจ้าน//

    ..........

    "เว่ยอิง!"

    เสียงเวินฉิงดังขึ้น  เว่ยอู๋เซี่ยนทำหน้าเลิ่กลั่กแล้วเอ่ย "หา?"

    "ข้าขอชิมนมของเจ้าหน่อย แค่หยดเดียวก็พอแล้ว" ไม่พูดเปล่า อีกฝ่ายยังเขยิบตัวเข้ามาใกล้ ยังไม่ทันจะตั้งตัว ปลายนิ้วก็ปาดน้ำนมนั้นเข้าปากนาง อีกฝ่ายได้แต่ตกตะลึงตาค้าง จู่ๆพลันนึกกระดากอยากหาอะไรมาปกปิดร่างกายตนเองขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

    ทันทีที่หยดนมเข้าปาก เวินหนิงย่นคิ้วจนแทบจะผูกติดกัน จากนั้นก็จ้องเว่ยอู๋เซี่ยนเขม็ง แล้วเอ่ยถามช้าๆ "เว่ยอิง เจ้าตอบ ช่วงสองสามวันนี้เจ้ากินอะไรลงไปบ้าง?"

    "เรื่องนั้น"

    "ตอบ!"

    "ก็มี..." เว่ยอู๋เซี่ยนเห็นท่าทีจริงจังของเวินฉิงก็ไม่กล้าจะโกหก จำต้องจาระไนของกินที่กินตอนที่ลงจากล่วนจั้งกั๋งมายังอี๋หลิงจนหมดเปลือก หลังจากฟังจบสีหน้าของเวินฉิงก็บัดเดี๋ยวเขียวบัดเดี๋ยวแดง กว่าจะเค้นคำพูดออกมาได้ 

    "ประเสริฐ กินแต่ของมันๆ แป้งข้าวเหนียว นี่ยังดื่มเหล้าเข้าไปด้วย นมมันถึงได้ออกมารสชาติบัดซบแบบนี้!"

    "หา!? ม...ไม่จริงน่ะ อะไรมันจะ..."

    "ลองกินดูเอง!" เวินฉิงตวาดใส่ นางไม่น่าปล่อยให้เด็กนี่คลาดสายตาเลยจริงๆ พับผ่าสิ!

    เว่ยอิงอึกอัก ก่อนหันหลังให้กับผนังถ้ำ ขยับตัวยุกยิกครู่หนึ่ง ก็เบือนหน้าไปทางอื่นพร้อมกับถ่มอะไรบางอย่างออกมา

    "ค...เค็ม!" ถึงมันจะเค็มอ่อนๆก็เถอะ แต่มันก็เค็ม! "อย่าบอกนะว่าเพราะข้ากินของพวกนั้นเข้าไป! ถึงเป็นแบบนี้!"

    "ใช่! ถ้าคิดว่าการเป็นแม่คนมันง่าย เขาคงไม่มีตำราสำหรับดูแลสตรีมีครรภ์ให้วุ่นวายหรอก! คิดว่าที่ข้าให้เจ้ากินแต่ของจืดๆเหมือนพวกสำนักกูซูหลานเพราะอยากกลั่นแกล้งเจ้าหรือ เปล่าเลย แต่เพราะว่าของมันๆมันส่งผลเสียกับร่างกายเจ้าข้าถึงได้ไม่ให้เจ้ากิน แล้วยังมีหน้าไปแอบดื่มเหล้าอีก จริงๆเลย!" อีกฝ่ายบ่นยืดยาว จากนั้นจึงอุ้มอาเยวี่ยนหมายเดินเข้าไปในหมู่บ้าน "ข้าจะพาอาเยวี่ยนไปในหมู่บ้าน พอดีมีสตรีเพิ่งคลอดบุตร น้ำนมก็มาก น่าจะแบ่งให้ได้"

    เว่ยอิงย่นคอ เสียงบ่นว่ายังดังอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าคมนึกเคืองคนที่พาเขาไปกินของต่างๆจนต้องมาถูกเวินฉิงดุแบบนี้

    หลานจ้าน!

    เพราะเจ้า! เพราะเจ้าเลย! หึ 'ถ้ามีเรื่องเดือดร้อนให้เขียนจดหมายมาหาข้า' งั้นหรือ นี่อย่างไร! ข้าเดือดร้อนแล้ว! เดือดร้อนเพราะเจ้า! คอยดูนะ จดหมายสักฉบับข้าก็จะไม่เขียน! ให้รอไปจนเฉาตายนั่นล่ะดีแล้ว!

    .........

    อวิ๋นเซินปู้จื่อฉู่ หลายสัปดาห์ต่อมา

    ยามไฮ่แล้ว แต่หลานวั่งจียังไม่เข้านอน เขานั่งอยู่ที่โขดหินใหญ่ใต้ต้นอิงฮวา ดวงตาสีอ่อนยังจับจ้องไปยังท้องฟ้า

    อาการนี่เกิดขึ้นมาได้หลายวันแล้ว ผู้ที่ผ่านไปยังแถวนั้นย่อมไม่มีใครกล้าทักด้วยเกรงว่าจะรบกวนสมาธิของหานกวงจวิน หลานซีเฉินเองก็แปลกใจ แต่ก็เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้เป็นน้องชาย จึงไม่ได้เข้าไปถามอะไร

    แต่ท่าทาง 'ผิดหวัง' นั่นมันอะไรกัน?

    ประมุขสกุลหลานได้แต่เก็บความสงสัยในใจ

    สงสัยว่าตอนที่ประชุมที่จินหลิงไถคราวหน้าเขาจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาอาเหยาดูก็แล้วกัน...



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in