เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ROAD TO INTERNSHIP หนทางสู่การเป็นนิสิตฝึกงานที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบpadmeekrached
บทที่ 7 เครื่องเล่นจำเป็น
  • วันจันทร์ ที่ 12 กรกฎาคม

         หลังจากที่โรงเรียนปิดมานานพอสมควรก็ได้เวลาเปิดสักที นับว่าเป็นครั้งแรกที่รอมาเนิ่นนาน น้ำตาจะไหล T T หลังจากที่ได้กลับมาสอนที่โรงเรียน นอกจากเราจะสอนน้องเขียนอ่านพื้นฐานแล้ว ด้วยความที่หายไปนานเราก็เลยตัดสินใจที่จะเล่านิทานอีกครั้ง เราก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เล่านิทานนะ และก็หวังว่าน้อง ๆ ก็คงจะชอบเหมือนกัน 

         ตอนที่โรงเรียนกลับมาเปิดอีกครั้ง ตอนเช้าเราก็ไปโรงเรียนตามปกติแหละ แต่เด็ก ๆ ที่นี่น่ารักมาก ๆ วิ่งเข้ามาทักทายบ้าง สวัสดีบ้าง บางคนก็วิ่งเข้ามากอด เราจำได้ว่าครั้งหนึ่งเราเคยลางานไปทำธุระ 2 วัน หลังจากวันที่กลับมาสอนก็ยังมีน้องเข้ามาถามว่า "   พี่หายไปไหนมาตั้ง 2 วัน  " พร้อมชูนิ้ว 2 นิ้ว ไม่คิดว่าเด็กเค้าจะนับวันด้วยแฮะ ก็อย่างว่าแหละ มีเด็กที่น่ารักก็ยังมีเด็กที่ขึ้นชื่อว่านรกอยู่เช่นกัน รายนั้นหน่ะรับมือยากสุด ๆ ไปเลย พูดแล้วก็อยากจะร้องไห้

    วันพฤหัสบดี ที่ 15 กรกฎาคม

         นับว่าได้ฤกษ์เล่าสักที คือวันนี้ช่วงพักกลางวันฝนดันตกพอดี จึงทำให้เด็ก ๆ ไม่สามารถไปเล่นกลางสนามได้ เราจึงเปิดการ์ตูนให้น้องดู แต่จู่ ๆ ก็มีน้องคนหนึ่งชวนออกไปเล่นข้างนอกห้อง ซึ่งที่ตรงนั้นก็กว้างพอสมควรและก็ไม่เปียกด้วย ทั้งห้องจึงตัดสินใจที่จะปิดการ์ตูนแล้วออกไปเล่นกัน ยอมรับว่าวันนั้นเป็นวันที่สนุกมาก เปลืองตัวมาก และก็เจ็บตัวมากเหมือนกัน เพราะโดนน้องดึงแย่งกัน แล้วพอคนนึงอยากให้อุ้มขึ้นแล้วไกวต้วเหมือนชิงช้า เราไม่รู้ว่าคนอ่านพอจะนึกออกมั้ยคะว่า แบบจับตรงรักแร้น้องท้องสองข้างแล้วยกขึ้นแล้วเหวี่ยงซ้ายขวาเบา ๆ ประมาณนั้น พอมีคนหนึ่งเห็นตามคาดเลย อีกคนก็อยากที่จะเล่นเหมือนกัน แล้วแล้วเด็กทั้งหมดตรงนั้นก็อยากที่เล่นเหมือนกัน จึงทำให้เกิดการทะเลาะกันแซงคิวกันขึ้น เราจึงจัดการปัญหาด้วยการให้ต่อแถวทีนี้แหละ ก็อุ้มวนไป 2-3 รอบต่อแถวได้ เยอะเหมือนกันนะแต่สุดท้ายไม่ไหว เลยพูดขึ้นว่า 

    " เครื่องเล่นเสีย เครื่องเล่นไม่ไหวแล้วขอพักก่อนนะ "

         จากนั้นเราก็ตัดสินใจไปนั่งพักที่เก้าอี้บริเวณนั้น มันปวดแขนจริง ๆ นะ เด็กตัวเล็กก็เล็กจริง ๆ แต่เด็กบางคนก็สูงมากนะสำหรับวัยอนุบาล ด้วยความที่น้องอยากเล่นอีก เลยเข้ามาลุมกันนวดให้เรา นวดขาบ้างแขนบ้างไหล่บ้าง สุดท้ายเราก็บอกว่าไม่ไหวจริง ๆ พรุ่งนี้ค่อยมาเล่นด้วยกันใหม่นะ ทีนี้พอกลับไปถึงบ้านก็กินยายาพาราแล้วนอนทันที ได้แต่พูดกับตัวเองว่า

    " นี่เราไปสอนหรือไปสู้รบกันแน่ "

    วันศุกร์ ที่ 16 กรกฎาคม

        เหตุการณ์เมื่อวานยังตราตรึงใจเราอยู่เลยยังไม่ทันหายปวดวันนี้ก็ต้องตื่นเช้ามาทำงานอีกแล้ว       พักกลางวันวันนี้ขณะที่เรากำลังทานข้าวในห้องเรียนอยู่นั้นก็มีเด็กอนุบาลกลุ่มหนึ่งมาเกาะที่หน้าต่างแล้วก็เริ่มตะโกนเรียกชื่อเรา 

    " ครูบี ครูบี "

    แต่พอเราหันไปน้องก็ก้มหลบ เป็นแบบนี้อยู่หลายรอบ กินข้าวไปเป็นสุขเลยก็ว่าได้ ฮ่า ๆ ๆ พอเห็นแบบนี้แล้วเราเลยเดินไปที่หน้าต่างแล้วพูดขึ้นว่า

    " ขอกินข้าวก่อนนะ เดี๋ยวไปเล่นด้วย " 

    ทานข้าวไปได้สักพัก ก็เล่นโทรศัพท์ขึ้นมาถู ๆ ไถ ๆ บ้าง ทีนี้เจ้าตัวแสบก็เข้ามาถามไถ่ทันที

    " กินข้าวเสร็จหรือยัง เมื่อไหร่จะกินเสร็จ มัวแต่เล่นแต่โทรศัพท์อยู่นั่นแหละ " 

         กำหมัดแล้วนะตอนนั้น ฮ่า ๆ ๆ หยอก  ๆ ก็เลยรีบจัดการตัวเองให้เสร็จ แล้วก็โดนลากออกไปเล่นด้วยทันที จะบอกว่าวันนี้เราเล่นวิ่งไล่แปะกัน จะบอกว่าเป็นภาพที่ประหลาดมาก  " นิสิตที่วิ่งไล่แปะเด็ก  " ถ้าไม่ได้ใส่ชุดนิสิตคงจะเคลื่อนไหวและวิ่งได้สนุกมากกว่านี้

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in