เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Song ReviewEARWAXED
[Song Review #3] 24 เพลงที่มี 'ผี' ออกมา 24 Songs with the Word 'Ghost'
  • กลับมาอีกแล้วกับการเขียนรีวิวเพลงแบบที่เราได้ไอเดียมาจาก Billboard ที่มักจะหยิบเอาเพลงที่มีลักษณะแปลก ๆ มาพูดถึงโดยใช้ theme บางอย่างมาเป็นจุดเด่นหลัก

    และในช่วงนี้เทศกาล Halloween ที่ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปีก็มาถึงแล้ว เราจึงขอหยิบยกไอเดียจาก Billboard มาเล่นอีกแล้ว โดยครั้งนี้เราจะหยิบเอาเพลงที่มีคำว่า 'ghost' อยู่ในชื่อเพลงมารีวิวให้นักอ่าน minimore ได้อ่านและฟังกันครับผมมม

    คำว่า 'ghost' หรือ 'ผี' นั้นก็จัดว่าเป็นคำที่แสนจะ cliche มากในวงการเพลงทุกแนว นักร้องมากมายมักจะชอบหยิบเอาประเด็นของการเป็นผีหรือวิญญาณมาแต่งเป็นเพลงที่สื่อเรื่องราวต่าง ๆ ในเช่น ความรัก หรือ การใช้ชีวิต ทั้งในด้านโลกสวยหรือโลกหม่น

    และทั้ง 24 เพลงต่อไปนี้ก็เพลงที่เรารู้จักและมีอยู่ใน library (คลังเพลง) ของเราเอง มาดูกันเลยว่าในช่วง Halloween นี้มีเพลงอะไรน่าฟังบ้าง

    [***ranked alphabetically according to the artist's name***]

    1. Adam Lambert - Ghost Town
        from The Original High (2015)


    เปิดมาเพลงแรกกับ "Ghost Town" ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มชุดที่สามThe Original High ของพ่อหนุ่ม Adam Lambert งานเพลงที่โปรดิวซ์โดย Max Martin นี้ได้เป็นการเปลี่ยนแนวเต็มตัวของ Adam จากสาย pop rock มาเป็น electropop ที่ใช้ house มาเป็นตัวเพิ่มมิติของเพลง เพลงนี้เล่นกับประเด็นผีในแง่การเปรียบเปรยจิตใจอันแสนว่างเปล่าเหมือนกับ "เมืองร้าง" โดยหนุ่ม Adam โอดครวญกับการหาตัวตนและที่พึ่งหลังจากผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายในชีวิต "Ghost Town" เป็นงานเพลงที่ชวนโยกชวนเลื้อยในผับที่เปิดไฟมืด ๆ บวกกับเสียงผิวปากที่โคตรทำให้ล่องลอยเหมือนวิญญาณจริง ๆ


    2. Against The Current - Chasing Ghosts
        from In Our Bones (2016)


    ต่อกันเพลงที่สองจากวง pop rock ที่เพิ่งมาเปิดคอนเสิร์ตที่บ้านเราเมื่อเดือนที่แล้ว Against The Current ผู้เขียนได้เขียนชมอัลบั้มชุดนี้ไปแล้วในการรีวิวอัลบั้มยอดเยี่ยมของเราในปี 2016 และเพลงนี้ก็คือหนึ่งในไฮไลท์ของอัลบั้มชุดนี้ เพราะด้วยเสียงร้องอันทรงพลังที่ทำให้หลงในภวังค์ของความเศร้าจากความรัก "Chasing Ghosts" เป็นงาน power ballad ที่พูดถึงความรักที่จืดจางไป เหมือนกับคนรักของเราได้กลายเป็นวิญญาณที่เราไม่สามารถสัมผัสได้อีกต่อไป


    3. American Authors - Ghost
        from Oh, What a Life (2014)


    American Authors ที่วงร็อคที่เรารักมาก ด้วยการเพลงที่เป็นเอกลักษณ์มากจากการผสมผสานดนตรี folk, rock, และ pop ให้เข้ากันได้อย่างดี และ "Ghost" ก็เป็นงานจาก debut album ที่มีจังหวะ uptempo ให้กำลังใจจากการใช้ชีวิตที่ต้อง move on จาก 'ghosts in the past' หรืออดีตที่คอยตามหลอกหลอนเรานั่นเอง หากใครติดใจเพลง "Believer" หรือ "Best Day of My Life" ที่เปิดกันกระหน่ำตามวิทยุ เพลงนี้ก็น่าจะเข้าไปอยู่ในใจได้ง่าย ๆ เหมือนกัน


    4. BØRNS - Holy Ghost
        from Dopamine (2015)


    ต่อกับเพลงที่สาย indie จะต้องร้องกรี๊ด "Holy Ghost" จากพ่อหนุ่ม BØRNS หรือ Garrett Borns เป็นเพลงจากอัลบั้มชุดแรกของพี่เค้าที่โดดเด่นมากทั้งในเรื่องเสียงร้องที่ทรงสเน่ห์และดนตรีที่ผสม alternative rock กับ psychedelic pop และ electropop ได้แบบโคตรเจ๋ง เราติดใจงานเพลงจากศิลปินคนนี้จาก "Electric Love" จึงทำให้เราเข้าถึงเพลง "Holy Ghost" ได้อย่างง่ายดาย แล้วพอไปอ่านเนื้อเพลงก็ยิ่งติดใจในการสร้างสรรค์งานเพลงของ BØRNS มาก อย่างในเพลงนี้ก็เป็นการแต่งเพลงรักที่ใช้การเปรียบเปรยคนรักเป็นเหมือนวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่จะมาช่วยปลดปล่อยตัวเขาจากบาปและเติมเต็มชีวิตของเขาทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ


    5. Coldplay - Ghost Story
        from Ghost Stories (2014)


    อีกหนึ่งเพลงผีที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของวงร็อคขวัญใจนักฟังเพลงทั่วโลก Coldplay กับ "Ghost Story" เพลงจาก deluxe edition ของอัลบั้มชุดที่ 6 Ghost Stories ธีมหลักของอัลบั้มชุดนี้จะวนเวียนอยู่กับความโศกเศร้าของการสูญเสีย และในเพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงหนึ่งที่แม้ว่าจะมีเมโลดี้ที่ค่อนข้างฟังสบาย ๆ แต่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความเศร้าเบอร์ใหญ่ พี่คริสได้โอดครวญถึงคนรักที่จากไป โดยธีมเพลงนี้ก็จะคล้าย ๆ กับเพลงผีทั่วไปที่ใช้ผีเป็นสัญลักษณ์ของคนรักที่ออกไปจากชีวิตไป ในขณะที่ตัวเรายังคงโหยหาตัวตนหรือความรักจากคนรักคนนั้น


    6. Ella Henderson - Ghost
        from Chapter One (2014)


    Ella Henderson คือสาวอังกฤษจากเวที The X Factor Season 9 ที่ซิงเกิ้ลเปิดตัว "Ghost" จากอัลบั้มชุดแรกของเธอในฐานะศิลปินได้กลายเป็นปรากฎการณ์ให้กับวงการเพลงด้วยการขึ้นอันดับ 1 ทั้งใน UK และอันดับต้น ๆ ของ chart เพลงในหลายประเทศ แม้ว่าตัวเธอนั้นจะได้แค่ที่หกจากการแข่งขันก็ตาม ส่วนนึงของความสำเร็จนี้อาจเป็นเพราะเสียงของ Ella ที่ทรงพลังและเพลง soul pop ที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และ "Ghost" ก็เป็นเพลงที่ได้ Ryan Tedder มาช่วยแต่งและโปรดิวซ์ให้ ธีมเพลงนี้ก็ยังเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่พูดถึงการโดนหลอกหลอนจากความรักอันขมขื่นที่เปรียบแฟนเก่าเป็นเหมือนผีร้ายตามหลอก เพลงนี้เราฟังอย่างบ้าคลั่งมากตอนที่ปล่อยมา และทุกวันนี้เราก็ยังคงกดฟังเพลงนี้อยู่เรื่อย ๆ ถ้าใครไม่เคยฟัง อย่ารอช้า กดฟังเลย!!


    7. Fefe Dobson - Ghost
        from Joy (2010)


    ขอดักแก่กันบ้างกับเพลงของ pop rocker จาก Canada Fefe Dobson ที่โด่งดังจากเพลง "Bye Bye Boyfriend" และอื่น ๆ อีกมากมาย และเพลง "Ghost" ก็มาจากอัลบั้มชุดที่สาม Joy ที่มีเอมวีตลกมากเพราะ Fefe ทำตัวเหมือนเป็นผีที่ไปตามหลอกหลอนแฟนเก่าที่ทิ้งเธอไป ใครที่เป็นสาวกเพลงจากศิลปินอย่าง Avril Lavigne หรือ P!nk น่าจะชอบเพลงแบบนี้ได้ไม่ยาก pop rock แบบ old school อะไรแบบนี้


    8. Foxes - Talking to Ghosts
        from Glorious (2014)


    อีกหนึ่ง popgirl ขวัญใจผู้เขียนที่เพลงผี ๆ เหมือนกัน Foxes และเพลง "Talking to Ghosts" opening track จาก debut album ที่เปิดมาด้วยเมโลดี้แบบอลังการณ์ตามสไตล์เพลงแบบ synthpop ถ้าคุณได้กดฟังทุกเพลงที่ผ่านมาจะพบว่า 'ghost' ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของคนรักที่จากไป และในเพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่ใช้ความหมายในเชิงนี้ โดยที่ตัวนักร้องสาวพยายามติดต่อสื่อสารกับวิญญาณตนนี้ (ซึ่งแน่นอน หมายถึงแฟนเก่าของเธอ) ให้กลับมาเป็นผู้เป็นคนปกติเหมือนเดิม แต่เสียที่ตัวคุณผีนั้นกลับไม่ให้ความร่วมมือ ปฏิเสธความหวังดีของตัว Foxes ซะงั้น


    9. Halsey - Ghost
        from BADLANDS (2015)


    ถ้าหากพูดถึงเพลงผี ๆ "Ghost" จากสาว alternative pop Halsey ก็เป็นอีกงานที่ต้องพูดถึง ซิงเกิ้ลนับว่าเป็นงานแรกที่ทำให้โลกแห่งดนตรีได้รู้จักกับศิลปินสาวคนนี้จริงจัง "Ghost" ได้ปูทางให้กับคนฟังเพลงได้รู้จักการแนวทางของเพลงจาก Halsey รวมไปถึงตัวตนของเธอที่แสนจะเต็มเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ สำหรับเพลงผีของ Halsey นั้นก็ัยังเป็นเรื่องเดิม ๆ นั่นคือการเปรียบความสัมพันธ์ที่ไม่ประสบความสำเร็จ โดยการที่ตัว Halsey ไม่สามารถเข้าถึงคนรักของเธอได้ เหมือนกับตลอดการคบกัน เธอได้อยู่กับสิ่งที่จับต้องไม่ได้ตลอดเวลา


    10. Harry Styles - Two Ghosts
          from Harry Styles (2017)


    เพลงที่เกี่ยวกับผีเพลงแรกจากปี 2017 กับพ่อหนุ่มสุดหล่ออย่าง Harry Styles เพลงนี้จาก self-titled debut album ก็เป็นงานไฮไลท์ในอัลบั้มของเค้าก็ว่าได้ เพราะด้วยชั้นเชิงในการแต่งเพลงที่ใช้สัญลักษณ์มากมาย บวกกับ reference ถึงเพลงอื่น ๆ [ถ้าใครอยากอ่านการตีความละเอียดเชิญที่นี่เลยครับ >>> genius.com] แต่ความสนุกในการตีความเพลงนี้คือข่าวที่ว่า "Two Ghosts" เป็นการเขียนถึงความสัมพันธ์ลับ ๆ กับเพื่อนร่วมวง 1D Louis Tomlinson แต่ทั้งสองก็ปฏิเสธข่าวลือนี้ แต่เราจะไม่พูดถึงตรงนั้น 55555 เพราะเพลงนี้กลับเป็นงานคุณภาพที่โชว์ความเป็นศิลปินของ Harry ได้อย่างดี ยอมรับตรง ๆ ว่าเราตามฟังเพลงของ 1D มาตลอด และ Harry ก็เป็นสมาชิกที่เราไม่ชอบขี้หน้าที่สุดด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ แต่เพลงต่าง ๆ จาก self-titled กลับทำให้เราเปลี่ยนมุมมองกับศิลปินคนนี้จริง ๆ 


    11. Howie Day - Ghost
          from Australia (2002)


    ขอ throwback กันกับ Howie Day เจ้าของเพลงรักคลาสสิก "Collide" ที่นักฟังเพลงยุคปี 2000 ต้น ๆ ต้องรู้จักกันแน่นอน และในรีวิวชิ้นนี้เราก็ขอหยิบเอาเพลงจากอัลบั้มชุดแรกจากพี่ Howie มา เพลง "Ghost" นี้ก็มีเนื้อหาที่ไม่ต่างอะไรจากเพลงข้างต้นที่พูดถึงการใช้ชีวิตต่อไปข้างหน้าและก้าวผ่านอดีตอันแสนเลวร้ายที่มีผีจากอดีตคอยตามหลอกหลอนเรา แม้ว่าเนื้อหาเชิงนี้จะดูเฝือมากในวงการเพลง แต่ศิลปินแต่ละคนก็มีวิธีการถ่ายทอดออกมาไม่เหมือนกัน อย่างเพลง folk pop นี้ที่เต็มไปด้วยความหม่นหมองในการพูดถึงเรื่องราวในอดีต แต่ทั้งนี้ Howie ก็ยังร้องถึงเรื่องราวในอนาคตด้วยความหนักแน่นที่จะเดินต่อไปได้


    12. Hunter Hunted - Ghost
          from Ready for You (2015)


    ต่อกันกับ "Ghost" ของวงร็อคอินดี้จากอเมริกา Hunter Hunted ถึงแม้ว่าเนื้อหาจะเป็นการโอดครวญถึงการจากไปของคนรักที่ยังคงทิ้งร่องรอยหรือความทรงจำไว้ให้กับอีกคน (ประเด็นเดิม ๆ อีกแล้ว!!) เราเขียนมาเรื่อย ๆ จนถึงเพลงที่ 12 ก็เริ่มรู้สึกเอียนกับความซ้ำซากในด้านการใช้ผีเป็นสัญลักษณ์ในเพลงรักเหมือนกัน แต่ก็อยากแนะนำเพลงเพราะ ๆ ให้กับคนอ่านกัน อย่างวงนี้ก็เป็นวงที่ทำเพลง pop rock ได้เข้าหูมาก ๆ ถ้าใครจำวงแบบ The Click Five หรือ Boys Like Girls ได้ Hunter Hunted ก็เป็นวงที่ทำเพลงแนวคล้าย ๆ กับวงดังกล่าว แต่ดนตรีจะดูมีมิติมีความสดใหม่มากกว่าเมื่อเทียบกับวงอื่น ใครที่ชอบเพลงแนวแบบนี้ก็ลองกดฟังกันดูได้นะ


    13. Katy Perry - Ghost
          from PRISM (2013)


    หนึ่งในแทรคที่เราชอบมากจากอัลบั้มชุดที่สามของ Katy Perry PRISM ที่ออกมาเมื่อสี่ปีที่แล้ว ว่ากันว่าเพลงนี้เป็นการแต่งถึงการหย่าร้างจากสามีเก่าของเธอ Russell Brand เพลงนี้ก็เดิม ๆ อีกแล้ว 555555 เพราะพอเลิกรากัน คนรักอีกฝ่ายก็กลายเป็นผี เป็นวิญญาณที่จับต้องไม่ได้ เป็นสสารที่ล่องลอยไปมา ทิ้งให้เราโศกเศร้ากันไป Katy เป็นคนที่ทำเพลงเศร้าได้ดีนะในความคิดเรา เพราะแทนที่จะขยี้คนฟังให้จมดิ่งกับเนื้อเพลงของเธอ เธอมักจะใส่จังหวะแบบ midtempo หรือ uptempo เพื่อให้เพลงโยกได้ขณะที่น้ำตาอาบหน้า เพลงอื่นที่เป็นแบบนี้ก็เช่น "The One That Got Away" ที่จังหวะเพลงฉึกฉักมาก แต่เนื้อเพลงคือเศร้าแบบร้องไห้น้ำตาหมดตัวจริง ๆ


    14. Madonna - Ghosttown
          from Rebel Heart (2015)


    ศิลปินตัวแม่อย่าง Madonna ก็มีเพลงผีเหมือนกันนะ และแทรคผีจาก Rebel Heart ที่ออกมาในปี 2015 ที่ไม่ได้รับกระแสเท่าที่ควร แต่ ballad "Ghosttown" นี้กลับเป็นเหมือนเพชรในตมที่อยู่ในอัลบั้มนี้ สำหรับจากใช้คำว่า 'ghost' ในเพลงนี้มีความแปลกจากเพลงอื่น ๆ ที่กล่าวมา (ซักที!!!!) โดยป้าหยิบเอาธีมเมืองร้างและวันโลกแตก (apocalypse) มาใช้ทั้งในการแต่งเพลงและตัว visual โดยเพลงกล่าวความรักในช่วงเวลาที่ทุกอย่างแตกสลาย เพลงใช้ปรัชญาที่ว่าทุกสิ่งไม่จีรังมาใช้ แต่ป้ากลับพูดถึงว่าความรักระหว่างเราสองจะเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการล่มสลายของทุกสิ่ง บอกเลยว่าไม่ใช่แค่เราจะได้ฟังเสียงที่ไพเราะของตำนานท่านนี้ แต่เราจะได้ชื่นชมความ cool ของศิลปินที่สามารถต่อต้านกระแสความเปลี่ยนไป และสามารถอยู่ยงคงกระพันต้านเวลาได้จริง ๆ


    15. Mumford & Sons - Ghosts That We Knew
          from Babel (2012)


    Mumford & Sons เป็นวงที่เรายอมรับเลยว่าแทบจะเข้าไม่ถึงกับเพลงของพวกเขาจริง ๆ เพราะด้วยเป็นคนที่ติดการฟังเพลงสาย mainstream หรือ alternative ที่มีดนตรีหนัก ๆ แต่ก็ได้ตามฟังเพลงของเขาบ้างที่ดัง ๆ เช่น "I Will Wait" จากอัลบั้ม Babel (2012) หรือ "Believe" จาก Wilder Mind (2015) แต่ตอนมานั่งเลือกเพลงที่จะเขียนในรีวิวชิ้นนี้ก็พบว่าวงนี้ก็มีเพลงที่มีคำว่า 'ghost' อยู่เหมือนกัน และพอได้ลองกดฟัง "Ghosts That We Knew" บวกกับดูไลฟ์จากคลิปข้างบนก็เกิดติดใจกับความโฟล์กช้า ๆ ชิว ๆ ของเพลงนี้ เลยขอหยิบมาเขียนพูดถึง โดยเพลงนี้มีความโรแมนติกในแง่ของการพูดถึงความรักระหว่างคนสองคน โดยที่ฝ่ายชายดูขอฝากชีวิตไว้กับฝ่ายหญิง ให้ตัวเธอได้เป็นเหมือนเสาหลักของเขาในการใช้ชีวิตต่อไปได้ แม้ว่าตัวเขาจะมีผ่านความผิดพลาดมามากแค่ไหนก็ตาม แต่เธอคนนี้ก็ยังอยู่ข้างเขา และพร้อมมองผ่านอดีตร้าย ๆ (ที่เปรียบเป็นวิญญาณร้าย) ไปได้นั่นเอง


    16. My Chemical Romance - The Ghost of You
          from Three Cheers for Sweet Revenge (2004)


    ขอดักสาวกอีโมกันหน่อยกับซิงเกิ้ลสุดท้ายก่อนการยุบวงของ My Chemical Romance กับเพลงที่ชื่อว่า "The Ghost of You" วงนี้ขึ้นชื่อในการทำเพลงที่มืดมัวบวกกับเนื้อหาของเพลงที่เกี่ยวข้องกับความตาย และเพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่ใช้หัวข้อนี้เป็นธีมหลัก โดยเพลงโฟกัสไปที่การสูญเสียคนรักทีี่ส่งให้อีกหนึ่งชีวิตที่ยังต้องอยู่ในโลกที่แสนเลวร้ายนี้เกิดความคิดที่จะฆ่าตัวตายตามคนรักไป ballad rock คุณภาพชิ้นนี้จึงเป็นอีกเพลงที่ต้องถูกพูดถึงหากนึกถึงเพลงที่มีคำว่า 'ghost' คิดว่าหลายคนที่อ่านอยู่แล้วเป็นแฟนคลับวงนี้คงจะคิดถึงเพลงดาร์ค ๆ จากวงนี้แน่นอน


    17. Paramore - Misguided Ghosts
          from Brand New Eyes (2009)


    งาน acoustic ชั้นเทพจากอัลบั้มชุดที่สามของ Paramore ที่มีความละมุนโดดเด่นออกมาจากเพลงแรง ๆ ที่อยู่ในอัลบั้มนี้ บทเพลงนี้ถ่ายทอดเรื่องราวของคนที่ต้องการหนีออกจากโลกที่แสนวุ่นวาย ออกเดินทางอย่างไร้จุดหมายเหมือนวิญญาณเร่ร่อน โดยมีจุดประสงค์ที่ต้องการเรียนรู้การใช้ชีวิตในมุมมองใหม่ จากการเป็นติ่ง Paramore มาตั้งแต่แรก ตอนได้ฟังเพลงที่ใน Brand New Eyes ถึงกับงงตึ้บกับการทำเพลงแนวนี้ เพราะถ้าจำไม่ผิดหรือไม่ได้ตกหล่นเพลงไหน สองอัลบั้มก่อนหน้านี้เพลงที่เป็น acoustic แบบใช้ guitar เดินเมโลดี้อย่างเดียวแทบจะไม่มี เพลงนี้จึงดูใหม่สำหรับเรามาก ณ ตอนนั้น และก็แอบฟินกับการได้ฟังเสียงของ Hayley Williams แบบใส ๆ ไม่แหกปากร้องเหมือนกับเพลงร็อคแน่น ๆ เพลงอื่น


    18. Passion Pit - Cry Like a Ghost
          from Gossamer (2012)


    เวลาคนคุยกันเรื่องผี สิ่งหนึ่งที่ทำให้รู้สึกหลอนสันหลังวาบกันก็การถูกหลอกด้วยเสียงอันโหยหวนของเหล่าวิญญาณ และ Passion Pit ก็เอาเรื่องการโหยหวนของผีมาใช้เป็นสัญลักษณ์ในเพลงของเขา ความแปลกของเพลงนี้คือตัว Michael Angelakos หรือเจ้าของโปรเจค Passion Pit ไม่ได้ร้องคำว่า 'ghost' ออกมาในเพลงเลย แต่กลับใช้เมโลดี้ที่โหยหวนเหมือนเสียงมาตั้งเป็นชื่อเพลงแทน และเนื้อเพลงนี้ก็เจ๋งตรงเป็นการที่ Michael แต่งถึงโรค alcoholic ของตัวเองนั่นเอง พี่เขาได้ถ่ายทอดชีวิตของเขาในช่วงที่ต้องทรมานจากโรคนี้ โดยในเพลงจะมีตัวละครที่ชื่อ Sylvia ที่เป็นเหมือนเพื่อนนิสัยไม่ดีคนหนึ่งที่คอยชักจูงให้ตัวพี่ไมเคิลต้องดื่มสุราอยู่ตลอดเวลา เพลงนี้จึงเป็นการแต่งเพื่อสะท้อนจิตใจของคนที่เป็นโรคติดสุราออกให้คนฟังได้เข้าใจถึงสภาวะทางจิตของผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้อย่างดี


    19. Secret Weapons - Ghost
          from As the setting sun comes crashing down on me (2017)


    อีกหนึ่งเพลงผีจากปี 2017 ของดูโอ้หน้าใหม่ Secret Weapons วงนี้เพิ่งได้ปล่อยอัลบั้มชุดแรกที่มีชื่อยาวเฟื้อยออกมา เราได้ทำการเจอวงนี้จากการกดฟังเพลงมั่ว ๆ แล้วตามอ่านพวกเวปเพลงอินดี้ และพบว่าเพลงของ Secret Weapons ถูกจริตเรามาก เพราะด้วยการทำเพลงด้วยดนตรี pop แต่ผสม rock, synth, และ electronic ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมจริง ๆ และ "Ghost" ก็เป็นเพลงเปิดตัวจากอัลบั้มแรกที่ใช้เสียงเครื่องเป่าผสมออกมาเป็นเพลง disco ชวนเต้น ซึ่งเพลงนี้มีการใช้ reference ถึง Ghost in the Shell ที่เป็นฉบับ animation หรือหนังก็ไม่รู้ เราพยายามอ่านแล้วแต่ก็ไม่เข้าใจ 555555 แต่เพลงน่าจะพูดการออกไปใช้ชีวิต ไม่เป็นผีที่เก็บตัวอยู่ภายใต้ร่างที่กักขังเราเอาไว้ ฝากเพลงจากดูโอ้นี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยนะ ใครชอบฟังเพลง pop ที่มีเมโลดี้ไม่ซ้ำซาก และดนตรีหนัก ๆ กระชากใจ ลองฟังดูรับรองติดใจแน่


    20. Selena Gomez & The Scene - Ghost of You
          from A Year Without Rain (2010)


    Throwback กันอีกรอบกับเพลงจาก Selena Gomez ในช่วงที่ยังทำวงกับ The Scene อยู่ "Ghost of You" มาจากอัลบั้มชุดที่สอง A Year Without Rain เพลงนี้เป็น electropop ballad ช้า ๆ ที่มีเมโลดี้แบบ minimal ลอย ๆ หลอน ๆ เหมือนกับมีผีโผล่ในเพลงจริง ๆ หากอ่านเนื้อเพลงคร่าว ๆ ก็คงคิดว่าเป็นการพูดถึงการอกหักจากคนรักเก่า และความทรงจำต่าง ๆ ก็ยังคงตามหลอกหลอนให้เศร้าโศกอยู่ แต่จริง ๆ เรื่องการตีความก็เป็นศาสตร์ที่แล้วแต่บุคคลจริง ๆ ซึ่งสำหรับเรา 'ghost' ที่อยู่ในเพลงของ Selena เพลงนี้ก็อาจมองว่าเป็นความผิดพลาดหรือเหตุการณ์การสูญเสียต่าง ๆ ที่คนหนึ่งเจอมา และยังไม่สามารถก้าวข้ามผ่านความรู้สึกแย่ ๆ เหล่านั้นไปได้ ใครชอบฟังเพลงช้า ๆ mood หดหู่ก็น่าจะติดใจกับเสียงงุ้งงิ้งของสาว Selena และท่อนฮุคที่ติดหูหนึบได้ง่าย ๆ เลย


    21. Sir Sly - Ghost
          from You Haunt Me (2014)


    อีกหนึ่งวง alternative rock ที่เราคลั่งมาก Sir Sly วงนี้มาจากอเมริกาที่ได้อยู่ภายใต้ค่ายใหญ่อย่าง Interscope แต่ด้วยความอินดี้เลยไม่ได้สามารถทะลุกระแสหลักไปได้ สไตล์เพลงของ Sir Sly จะผสมผสาน alternative rock กับ electronic หรือ synth หน่อย ๆ ยิ่งในสตูดิโออัลบั้มชุดแรก You Haunt Me ก็มีเมโลดี้ที่หลอน ๆ เสียงร้องของนักร้องนำที่โหยหวนหน่อย ๆ และใน "Ghost" ก็เป็นการพูดถึงประเด็นความตายเป็นหลัก ที่เราลองหาข้อมูลอ่านดู นักร้องนำของวงให้สัมภาษณ์ว่าเพลงนี้เป็นการพูดถึงความหมกมุ่นกับความตายของคนรักและการคิดถึงอดีตที่เคยได้พูดคุยกับคนเหล่านั้น ซึ่งตัวนักร้องนำที่พูดถึงว่าบางคนตีความเพลงนี้ในเชิงเพลงอกหัก ซึ่งเขาก็รู้สึกโอเคกับการที่บางคนจะตีความเชิงนั้น title track ของอัลบั้มนี้ก็ยังคงธีมเรื่องผีไว้ ซึ่งเราชอบมากกว่า "Ghost" อีก ถ้าใครสนใจเพลงจากวงนี้เราก็ขอแนะนำเพลงนี้ด้วยนะ หากใครชอบเพลงของวง The Neighbourhood ลองฟังเลย เพลงจาก Sir Sly มีสไตล์ที่คล้ายกันมาก


    22. Sky Ferreira - Ghost
          from Ghost - EP (2012)


    Sky Ferreira คือ superstar จากดนตรีฝั่ง alternative pop ที่ทำเพลงโคตรเจ๋ง (ใครสนใจลองหาอัลบั้ม Night Time, My Time (2013) มาลองฟังดูเลย) เราขอหยิบเพลงจากอีพีหนึ่งของสาว Sky มาที่มีชื่อเป็นผี โดยเพลงนี้บวกกับอีพีนี้จะมีทิศทางที่ค่อนข้าง pop มาก แต่ใน Night Time, My Time กลับเป็นเพลงแบบ grunge rock หนัก ๆ ฟังยาก ๆ ที่ผสมกลิ่น pop ได้อย่างน่าทึ่ง สำหรับ "Ghost" เป็นเพลงที่ผสมดนตรี soul, folk, และ rock ออกมาเป็น ballad ช้า ๆ เศร้า ๆ พูดถึงจุดจบของความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคนรัก และใช้สัญลักษณ์ของผีมาเปรียบเป็นการจากไปของคนรัก (ก็เดิม ๆ อีกแล้วอะนะ)


    23. St. Vincent - Dancing With a Ghost
          from MASSEDUCTION (2017)


    ถ้าใครมีโอกาสได้ฟังอัลบั้ม MASSEDUCTION ของสาวเท่ Annie Clark หรือ St. Vincent มาแล้วคงงงว่าจะใส่เพลงนี้มาทำไมวะ!? เพราะ "Dancing With a Ghost" เป็นแค่ intro สั้น ๆ ประมาณ 40 วิและยังไม่มีเนื้อร้องบ้าบออะไรทั้งนั้น ผู้เขียนบอกเลยว่าอยากเอามาลงเพราะจะอวยอัลบั้มนี้เฉย ๆ 55555555 แต่ก่อนไม่เคยฟังเพลงของ St. Vincent เลย แต่ตั้งแต่ที่เราเริ่มฟังเพลงอินดี้หรือเพลงที่มีแนวแปลก ๆ เราก็เริ่มตามพี่คนนี้มา และพบว่า MASSEDUCTION เป็นงานที่ได้ Jack Antonoff มาช่วยทำให้!!!!! (ขออภัยในความติ่ง Bleachers ครับ ขอขายของด้วยการตามไปกดอ่านรีวิวได้นะ อิอิ) จึงทำให้เราคลั่งเพลงอัลบั้มนี้ เพราะด้วยคุณภาพที่อัดแน่นบวกกับการเล่น crossover ดนตรีระหว่าง rock และ electronic ที่แจ่มมาก!!! ลองไปฟังดูกันได้นะ ขอแนะนำ "Pills" และ "Los Ageless"


    24. Two Door Cinema Club - Standing On Ghosts
          from Four Words to Stand On - EP (2009)


    ปิดลิสต์เพลงที่มี "ผี" ออกมาด้วยเพลงจากวงขวัญใจชาวอินดี้ Two Door Cinema Club โดยเพลง "Standing On Ghosts" มาจากอีพี Four Words to Stand On ที่ปล่อยออกมาก่อนที่จะปล่อย debut album จึงจัดได้ว่าเป็นเพลงลึกลับของวงนี้ก็ว่าได้ "Standing On Ghosts" มีสไตล์ที่โดดเด่นของวงนี้มาก ซึ่งเป็นเพลงแบบเมโลดี้กีต้าร์ติดหูบวกกับความโจ๊ะที่ฟังแล้วรู้ว่าเป็นเพลงของ Two Door Cinema Club แน่นอน และเนื้อหาเพลงนี้บอกเลยว่ายากที่จะเข้าใจมาก เพราะมีทั้งเรื่องของการเปิดเผยความลับระหว่างคนสองคน หรือการออกไปตามง้อคนรักเก่าที่จากไปแล้วให้กลับมา พยายามจะเข้าใจหลายรอบมาก แต่ก็ตามสไตล์ของวงอินดี้ที่มักจะแต่งเพลงโดยใช้ symbol แบบเข้าใจกันเอง ปล่อยให้คนฟังงงกันไป เอาเป็นว่าฟังเอามันละกัน 555555 แต่เกร็ดเล็ก ๆ คือ "Standing On Ghosts" คือเพลงแรกที่วงนี้ทำขึ้นมาเลยนะ

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    และลิสต์ใหม่ที่เราอยากเขียนมานานก็สิ้นสุดลงแล้ว ทั้งหมดคือ 24 เพลงที่มีคำว่า 'ghost' มาแนะนำให้กับผู้ที่ชอบฟังเพลงได้ฟังและอ่านเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ กัน

    จากการที่เราได้เขียนบทความนี้ขึ้น สิ่งหนึ่งที่ฉุกคิดขึ้นมาได้ก็คือ แม้ว่าวงการเพลงทั้งในกระแสและนอกกระแสจะมีการใช้ 'ผี' มาใช้เป็นสัญลักษณ์หลักในเพลง บวกกับความหมายที่ต้องการสื่อให้คนฟังเข้าใจก็แทบจะไม่ได้ต่างกันมาก เรากลับมองว่าตรงนี้แหละคือสเน่ห์ของดนตรี จุดนี้ทำให้เราเข้าใจว่ามนุษย์เรา แม้จะมีความเป็นตัวเอง หรือแนวคิดต่าง ๆ ที่สื่อความเป็นตัวเองก็ยังคงมีความคิดอะไรที่คล้าย ๆ กัน และด้วยดนตรีนี่แหละที่ช่วยดึงความแตกต่างของคนเราทั้งในเรื่องของภาษา เชื้อชาติ วัฒนธรรม หรือความเชื่อ ให้สามารถเข้าใจกันได้ เพราะอย่างเพลงไทย การพูดถึงวิญญาณหรือผีในเพลงก็มีความหมายที่แทบจะไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากจากเพลงภาษาอังกฤษเลย

    แล้วเจอกันใหม่กับรีวิวชิ้นต่อไปนะครับ ใครมีคำแนะนำอะไรหรืออยากพูดคุยเรื่องเพลง เหมือนเดิมเลย คอมเม้นกันด้านล่างเลยนะครับ และสุดท้าย Happy Halloween คร้าบบบ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in