เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
TOKYO WITHOUT BANANABUNBOOKISH
คำนำ
  • ตอนที่รู้ว่ามีต้นฉบับเกี่ยวกับโตเกียวมานำเสนอ ความคิดแรกที่แวบขึ้นมาคือ ญี่ปุ่นอีกแล้ว...ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ตอบรับอะไรในทันที

    จริงอยู่สำนักพิมพ์บัน ยังไม่เคยมีหนังสือเกี่ยวกับโตเกียวหรือญี่ปุ่นมาก่อน แต่ถ้ามีชอยส์ให้เลือกระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศอื่น เราว่า—เราน่าจะสนใจประเทศอื่นก่อนเป็นแน่

    ไม่ใช่ว่าญี่ปุ่นไม่น่าสนใจ แต่เพราะเรายังไม่ได้นึกไว้ว่า หากจะมีหนังสือเกี่ยวกับญี่ปุ่นขึ้นมาอีกสักเล่ม จะมีมุมมองไหนที่พวกเราอยากนำเสนอ

    แต่วันดีคืนดี เราก็เอาโครงต้นฉบับหนังสือเล่มนี้มาอ่าน (อธิบายสักหน่อย—โครงของหนังสือจะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของทั้งเล่ม) พอได้อ่านแล้วก็คิดว่าอยากจะพูดคุยและทำความรู้จักกับเจ้าของเรื่องทันที เพราะโตเกียวในแบบของมิ้นต์—ณิศรา ไม่ใช่โตเกียวแบบที่เราคิดไว้ โตเกียวที่ใครก็บอกว่า ไปง่ายๆ เที่ยวง่ายๆ กลับกลายเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก เมื่อต้องไปหัดใช้ชีวิตนักศึกษาแลกเปลี่ยนถึงหนึ่งปีเต็ม

    Tokyo without Banana จึงเป็นตัวแทนของเสียงเล็กๆ ที่แอบกระซิบกระซาบบอกเราว่า ไม่ว่าญี่ปุ่นในสายตาคนทั่วไปจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าได้ไปใช้ชีวิตในฐานะผู้อาศัย ก็เหมือนเวลาที่เราได้ทำความรู้จักและคุ้นเคยกับอะไรมากขึ้น เราก็จะรู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิดไปเสียหมด...

    ลำพังต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมแบบญี่ปุ่นก็น่าสนใจแล้ว ยังไม่รวมถึงประสบการณ์อยู่ร่วมหอพักนักศึกษากับเพื่อนจากหลายประเทศอีก มิ้นต์ทำให้เราอยากรู้จักญี่ปุ่นในมุมมองของคนที่ไปอาศัยพักพิง

    เราคิดว่าเรื่องแบบนี้ ใช่ว่าไปญี่ปุ่นแล้วจะได้เจอกันง่ายๆ


  • ฮัลโหลๆ เทสต์ๆ!

    ทุกคนกำลังอ่านตรงนี้อยู่ใช่มั้ย?

    ถ้าใช่ (หรือแค่เหลือบตามาเห็นผ่านๆ ก็ได้) เราอยากจะบอกว่านี่เป็นหนังสือเล่มแรกในชีวิตของเราเลยนะ! อาจดูเหมือนเด็กขี้เห่อ อวดของใหม่ให้เพื่อนดู แต่ความรู้สึกครั้งแรกที่เราได้เห็นสิ่งที่ตัวเองลงมือ ลงแรง ลงเวลา ลงความคิด และลงพุงกับมัน มาเป็นเวลาเนิ่นนานออกมาเป็นของสามมิติที่จับต้องได้ ความรู้สึกมันปลื้มปริ่มแบบหยุดไม่อยู่จริงๆ

    หนทางก่อนที่ทุกตัวอักษร ทุกหน้ากระดาษ ทุกลายเส้นของภาพประกอบจะมารวมตัวกันได้อย่างลงล็อคและออกมาเป็นหนังสือที่เธอกำลังถืออยู่เนี่ย มันไกลยิ่งกว่าหมื่นลี้ซะอีก จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ก็คือ ‘โอกาส’ ที่พี่ๆ หยิบยื่นให้ แต่สิ่งที่ตามมาติดๆ ก็คือเรื่องอุปสรรคด้านเวลา เป็นเพราะว่าเราเองก็มีงานประจำ เป็นกองบรรณาธิการนิตยสารด้วย แถมต้องทำงานตามเวลาออฟฟิศอีก พ็อคเก็ตบุ๊คเล่มนี้ก็เลยเหมือนไดอารี่ที่เราเอาไว้เล่าเรื่องในอดีตอันแสนหวานเวลาว่างๆ นั่งร้านกาแฟสวยๆ ตอนเริ่มเขียน และกลายเป็นเครื่องมือทดสอบความแข็งแรงของหนังตาช่วงเร่งปั่นต้นฉบับตอนท้ายๆ ที่เข้มข้นและดุเดือดยิ่งกว่ากระทิงจนบางคืนที่เหนื่อยจากงานมาทั้งวัน พอกลับบ้านเริ่มเปิดคอมพ์ทำงาน ก็หลับไปด้วยบ้าง ละเมอสลับกันไปบ้าง และโดนแม่ปลุกกลางดึกให้ “ขึ้นห้องไปนอนบนเตียงดีๆ” เป็นประจำ

    ผลผลิตของเวลาแปดเดือนแห่งความสนุก ความอดทน ความบ้าคลั่ง และการใช้มันสมองเยอะที่สุดตั้งแต่เรียนจบมาก็คือ Tokyo without Banana เล่มนี้ ถ้าจะให้ #ฝากร้านแบบคร่าวๆ หนังสือเล่มนี้จะพาเธอไปรู้จักกับชีวิตของนักเรียนต่างชาติคนหนึ่งในโตเกียวที่มีทุกรสชาติยำกันอยู่ข้างใน ทั้งประสบการณ์ฮาๆ ที่คิดย้อนกลับไปก็ยังอมยิ้มได้ เรื่องโหดๆ ที่ได้เจอและยังกลายเป็นปมในใจ ความเศร้า ความบ้า ความป่วง หรือความลุย...เอาเป็นว่าเล่มเดียว อร่อยยิ่งกว่าส้มตำ แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ไกด์บุ๊คนะจ๊ะ ถ้าพยายามจะเที่ยวตามนี่หลงชัวร์!

    ร่ายมาซะยาวขนาดนี้แล้ว เราว่าไม่ให้เสียเวลา ไปอ่านกันเลยดีกว่าเนอะ…

    Tokyo without Banana Yokoso!

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in