เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
TURN ON THE WRITEminimore
รถติด-บีมฉันทีสก็อตตี้!-แฮร์รี่เล่มใหม่ เอาไปเขียนอะไรใน #TurnOnTheWrite ดีนะ
  • สวัสดีวันอังคาร *วางรูปดอกไม้สีชมพู* เอ้า อาทิตย์ก่อนเล่นไปแล้วเหรอ งั้นก็สวัสดีวันอังคารเฉยๆ ก็แล้วกัน วันนี้มินิมอร์มาพร้อมกับคอลัมน์ TURN ON THE WRITE ที่จะแจกโจทย์แล้วชวนทุกคนมาเขียนเรื่องราวลง Makers กัน 

    หลายคนอาจจะสงสัยว่าเอ๊ะ เราจะต้องเขียนบทความลึกซึ้งกินใจเท่านั้นเหรอ หรือว่าต้องแนวๆ เท่ๆ เคาะบรรทัดเก๋ๆ แบบได้ golden ratio หรือเปล่า

    ไม่ต้องเล้ย อยากเขียนอะไรก็เขียน *ยักไหล่แต่ไขมันส่วนอื่นกระเพื่อม* เพราะ Minimore Makers นั้นเปิดกว้างให้ทุกคนได้เขียนในสิ่งที่ชอบอยู่แล้ว ใครใคร่เขียนเรื่องสั้นเขียน จะเป็น fiction, non-fiction หรือกระทั่ง comics ก็ยังทำได้ จะแค่วาดภาพ / ถ่ายภาพประกอบแล้วเขียนคำบรรยายยังไม่ผิดนะเอ้อ 

    จะมีผิดอย่างเดียวก็คือเขียนแล้วไม่ส่งให้มินิมอร์ดูบ้าง *กระซิก*

    ถ้าใครเอาไปเขียนสามารถส่งลิงก์เรื่องราวที่ตนเองเขียนเอาไว้ใน Minimore Makers ได้ที่กล่องคอมเมนต์ของหน้านี้เลย หรือจะไปส่งที่โพสต์ปักหมุดของ fb page : minimore ก็ได้นะ เดี๋ยวทำไว้ให้ส่งกันง่ายๆ เลยจ้ะ 

    ใครที่เขียนแล้วและส่งลิงก์ มินิมอร์จะแชร์ลิงก์ให้เพื่อนๆ ได้ลองอ่านผลงานกันทุกวัน ทางเฟสบุ๊กเพจและทวิตเตอร์ @minimoreweb เมื่ออ่านแล้วก็แลกเปลี่ยนความเห็นกันได้เลยจ้ะ มีอะไรให้ทำเพลินๆ ระหว่างอู้งานหรืออู้เรียน (จะดีเหรอ) รับรองไม่เหงาแน่ 

    เดี๋ยวอาทิตย์นี้มินิมอร์ก็จะเขียนด้วยนะ! อยากอ่านกันล่ะซี้! (นี่คือให้กำลังใจตัวเองสุดๆ) งั้นเราไปลองดูหัวข้อกัน ว่ามีอะไรให้เขียน กติกาง่ายๆ คือมินิมอร์แจกโจทย์ทั้งหมด 5 หัวข้อ ให้เพื่อนๆ เลือกมา 3 อย่าง แล้วเอาไปสร้างเนื้อหาที่อยากเขียนได้เลย

    อ่านกติกาละเอียดๆ ได้ที่นี่อีกทีนะ หน้าแนะนำคอลัมน์  
  • โจทย์มีดังนี้


    รถติด - เตียงนอน - หนังสือ Harry Potter and the Cursed Child - ไปห้องน้ำอย่างด่วน

    และคำท้ายสุด


    จ้ะ บีมฉันทีสก็อตตี้!!! *ทำเสียงหมอโบนส์*

    ลองแต่งเป็นประโยคง่ายๆ....

    รถติดมาก...ไม่ไหวแล้ว อยากไปเข้าห้องน้ำ บีมฉันไปห้องน้ำทีสก็อตตี้! (จบ)

    แต่สั้นไปมั้ยอะ! เรามาเขียนอะไรยาวๆ และสนุกดีกว่า แต่มินิมอร์จะชวนทุกคนเล่น มินิมอร์ก็ควรเริ่มเล่นเองด้วยใช่ไหมล่ะ งั้นไปลองอ่านกันเลย
  • บอกเลยนี่ด้นสด ไม่ได้เตรียมเลยนะ สาม สอง หนึ่ง...เริ่ม


    ผมเป็นชายวัยยี่สิบปลายธรรมดาๆ คนหนึ่ง

    งานรองของผมคือการขายเสื้อผ้าทางอินเทอร์เน็ต ส่วนงานหลักคือการขายอาหารที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมในวันหยุด  มันเป็นกิจการของครอบครัว แต่ผมก็ยินดีทำ เพราะไม่ได้รู้สึกอยากทำอะไรเป็นพิเศษอยู่แล้ว

    ผมไม่มีความฝันไง
    คุณนึกออกใช่ไหม?

    ผมก็เรียนหนังสือ เข้ามหาวิทยาลัย จบจากคณะสายนิเทศ ทำงานในโปรดัคชั่นเฮาส์อยู่สองสามปี แล้วก็ออกมาขายของ ขายเสื้อผ้าผ่านไอจี โดยมีแฟนเก่าเป็นคนแนะนำ (ตอนนั้นเธอขายครีม แต่ผมดูกระบวนการการผลิตแล้วรู้สึกไม่โอเค เลยเลือกขายเครื่องประดับ)

    เมื่อพูดไปว่าเป็นเว็บเดเวลลอปเปอร์ ทุกคนมักจะทำหน้างง ผมจึงต้องบอกอีกหนว่าเป็นโปรแกรมเมอร์ แล้วทุกคนก็จะ 'อ๋อ...' จากนั้นก็เงียบไป และคิดเอาไปว่า

    ไอ้นี่มันคงทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับคอมแหละวะ
    มันเป็นแบบนี้ตลอดแหละ ช่างเถอะ ผมชินละ แล้วผมก็ไม่ได้ทำงานนั้นอีกแล้ว

    นอกเหนือไปจากนี้ผมชอบอ่านหนังสือ...ผมชอบมาก โดยเฉพาะ Harry Potter ผมรัก ผมบ้า ผมถึงขนาดไปประเทศอังกฤษเพื่อไปเยี่ยมชมสตูดิโอถ่ายทำ แย่ขนาดแอบยิ้มเยาะในใจเมื่อเห็นคนข้างๆ สะบัดข้อมือร่ายคาถา หวิงก๊าเดียม~ เหละหวิโอ๊วส่าาา แบบไม่ถูกต้องเช่นศาสตราจารย์ฟลิตวิกทำ

    ครับ ผมเป็นติ่งแฮร์รี่

    ด้วยเหตุนี้ผมเลยทิ้งตัวลงเตียงอันแสนร้อนผ่าว กดรีโมทเปิดแอร์คอนดิชั่นเนอร์ ตั้งใจนอนตั้งแต่บ่ายสอง เพื่อที่จะได้อาบน้ำและออกจากบ้านตอนสี่ทุ่ม จากนั้นจะได้ตรงตรงไปยังห้างใหญ่ริมถนนสุขุมวิท เพื่อร่วมงานเปิดตัวหนังสือ

    ทำไมผมต้องไปไวน่ะหรือ?
    เพราะผมอยากเป็นคนแรกๆ ที่ได้จับหนังสือเล่มนี้ยังไงล่ะ

    ผมนั่งแท็กซี่ผ่านถนนบรมราชชนนีที่ติดกระทั่งตอนสามทุ่มกว่า ข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และไปเรื่อยจนถึงแยกราชประสงค์ที่ตอนนี้ไร้รถแน่นขนัดเช่นในตอนเย็น...

    ผมมาตอนรถไม่ติด...และผมจะกลับในตอนเช้าที่รถไม่ติดเช่นกัน
    ฉลาด ชมผมสิ

    แต่จะบอกอะไรให้นะ ผมไม่ใช่คิวแรกหรอก คนแรกเขามาตั้งแต่หกโมงเย็นโน่นแน่ะ ผมนับถือเขาจริงๆ คนนอกอาจจะมองว่าบ้า แต่ไม่หรอก คนมันรักนี่นา เพราะเหตุนี้ผมเลยเข้าใจน้องสาวเวลาเธอไปเฝ้ารับอปป้าที่สนามบินสุวรรณภูมิเหมือนกัน 

    ผมรออยู่นาน...จนช่วงตีห้าขบวนก็เริ่มคึกคักขึ้น
    ผู้ที่มารอรายแรกได้หนังสือไปแล้ว จนถึงผม
    ผมขอให้ทางเจ้าหน้าที่ร้านหนังสือวางหนังสือที่เพิ่งถูกแกะลงบนกล่องที่ผมทำมาเป็นอย่างดี ผมวัดกะขนาดและทำกล่องโดยเฉพาะเลยคุณรู้ไหม เจ้าหน้าที่ดูมีสีหน้าประหลาดใจแต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี

    ตอนนี้ผมอยู่บ้านแล้ว
    นั่งมองกล่องตรงหน้าด้วยใจระทึก
    ความปลื้มปิติ ความอิ่มเอมบ่าท่วมท้นในใจทั้งที่ยังไม่ได้เปิดอ่านสักบรรทัด ผมบรรจงเปิดกล่องนั้นออก มองหนังสือสีเหลืองทองข้างในราวกับมันเป็นสมบัติล้ำค่าที่เจ้าปุกปุยหมาสามหัวเฝ้าเอาไว้ แล้วผมก็หยิบมันขึ้นมา

    โลกกลายเป็นภาพหมุนวนราวตัวผมอยู่ใจกลางของพายุทอร์นาโด
    ไม่สิ เหมือนตัวผมกลายเป็นผ้าที่ถูกบีบรัด ปั่นเป็นเกลียวด้วยเครื่องซักผ้าเสียมากกว่า
    ผมแหกปากลั่นแต่ก็ไม่มีใครได้ยิน ผมร้องอยู่นานจนเหมือนแทบขาดใจตาย แล้วร่างผมก็หล่นกระทบกับพื้นอย่างรุนแรง

    จมูกผมสัมผัสกลิ่นหญ้า

    ทำไมมีหญ้าวะ

    ผมคิด
    คือบ้านผมเป็นทาวน์เฮาส์ เราไม่มีหญ้า
    ผมหยัดร่างขึ้นมา สะบัดหัวแรงๆ เพื่อไล่ความมึนงงจากเหตุที่เพิ่งผ่านมาและยังระบุไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมพยายามสู้กับอาการปวดหัว ลืมตามองภาพเบื้องหน้าเพื่อหาคำตอบว่าแท้จริงแล้วผมอยู่ที่ไหน หรือหนังสือ Cursed Child เล่มนี้มันจะเป็นกุญแจนำทางกันนะ แล้วทำไมคนขายถึงไม่เป็นอะไรล่ะ?

    แสงแดดอ่อนๆ สาดสลายหมอกที่ปกคลุมแถวนั้นไปเสียหมด
    ผมอยู่บนเนินใหญ่ และภาพที่ปรากฏตรงหน้า...

    "ไอ่ซัส!"

    ทำให้ผมสบถลั่น
    เพราะมันคือฮอกวอตส์!


    not to be continued...


    ไม่เขียนต่อแล้ว ยังจะให้เขียนต่ออีกเหรอออ

    เห็นไหม เราเขียนอะไรได้หลากหลายมากเลยนะเนี่ย ไม่ต้องเขียนยาวนักก็ได้ ย่อหน้าเดียวก็แจ่มแล้ว หรือจะลองวาดก็ได้นะ มินิมอร์รออ่าน

    ถ้าใครอยากเอาภาพ cover ไปใช้ตอนเขียน ก็เซฟไปเลยนะ



    แล้วสัปดาห์หน้าจะมีโจทย์อะไรมาให้ลองเขียนกันอีก หรือเพื่อนๆ อยากจะลองเขียนแนวไหน sci-fi มั้ย หรือจะเป็นลึกลับ คอมเมนต์ทิ้งไว้ได้นะ แล้วเจอกันใหม่ใน TURN ON THE WRITE สัปดาห์หน้าจ้ะ :>


    ขอบคุณที่มาภาพจาก
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in