เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Dartmouthนี่เป็นอะไรกับDarth Vaderป้ะคะYanisa Sunthornyotin
Day6: ยูนิคอร์นบ้ายบุยนิวยอร์ก
  • 3 กันยายน

    วันนี้เราจะมูฟออนจากนิวยอร์กแล้วค่ะ ฮรึกๆ//ขอยาดตามเทรนพีชแพทหน่อย

    ในทางกลับกันเราจะมุ่งหน้าสู่Dartmouth college ณ เมือง Hanover รัฐ New Hamshire กัน!
    วิธีการในการเดินทางไปDartmouth(อ่านว่าดาร์ทมัท ไม่ใช่ดาร์ทเม้าเด้อ) คือการนั่งรถDartmouth coachไปค่ะ ตัวรถนี้สามารถขึ้นได้เลยจากสนามบินBoston(2ชม.ถึง ราคาเที่ยวละ40$) หรือ ถ้าใครอยากแวะมาเที่ยวนิวยอร์กก่อนก็สามารถขึ้นรถจากนิวยอร์กได้เช่นกัน(5ชม.ถึง ราคาเที่ยวละ80$) 

    สถานที่ขึ้นนั้นออกจะต้องใช้เวลาหานิดนึง เพราะแม้จะอยู่ในที่แจ้งที่ใครๆก็เห็น แต่มักจะถูกมองข้าม5555 ต้องนั่งรถไฟใต้ดินไปที่Grand central terminalค่ะ เดินข้ามถนนใหญ่ตรงหน้าMain entranceแล้วเลี้ยวซ้ายเดินไปเรื่อยๆ ที่จอดบัสคืออยู่ริมฟุตบาทเลย ถ้าเดินไปจนถึงStarbucksเมื่อไหร่ก็คืออยู่แถวๆริมถนนตรงนั้นแหละ



    ไหนๆก็นั่งรถย้อนขึ้นมาเหนือManhattanแล้ว ก่อนจะจากนิวยอร์กก็ฝากไว้ซักนิดสำหรับใครที่อยากจะมาพัก แนะนำให้จองที่พักแถวล่างๆของเกาะManhattanนะ พวกย่านDowntownหรือกลางๆหน่อย อย่าให้เหนือCentral parkขึ้นไป เพราะว่าถ้าเหนือขึ้นไปกว่านั้นจะเป็นย่านที่ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ ค่อนข้างเถื่อนพอควร อาชญากรรมเยอะ(ถึงจะไม่เท่าปารีสบางเขตก็เถอะ...) แถวบรอดเวย์ที่มิ่งอยู่ที่ว่าไม่ค่อยเถื่อนแล้วยังมีHomelessกับคนสติไม่ค่อยดีเดินตามถนนเยอะเหมือนกัน

    เอ้า ปล่อยเมืองอันแสนยุ่งเหยิงวุ่นวายเอาไว้ข้างหลังแล้วเดินทางกันต่อดีกว่า

    ในรถบัสมีที่ชาร์ตกับWifiให้แต่สัญญาณก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ติดๆดับๆเพราะทางมันก็คือการเลาะเขานั้นแหละนะแค่ว่ามันไม่ค่ดเคี้ยวแบบของไทย และด้วยความที่ใช้เวลาเดินทางนานก็เลยเตรียมพวกเสบียงอาหารกลางวันมากินบนรถด้วยเลย

    เมื่อมาถึงDartmouthก็จัดการเอาของเข้าโรงแรมSix South St. Hotel ก่อน เพราะหอจะเปิดให้ย้ายเข้าได้เร็วสุดวันที่5 ก่อนPre-orientation 1 วัน ก็เลยถือโอกาสได้เดินดูในเมืองให้พอผ่านๆตา แล้วคือออ มันดูไฮโซมากอ่ะ ถถถถ ร้านรวงจะเป็นแนวแบบ ขายของกระจุ๊กกระจิ๊ก เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้าเรียบๆสวยๆ ตึกราบ้านช่องก็จะเป็นบ้านไม้สีขาวเรียบร้อยๆ คือทำเอานิวยอร์กกลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนไปเลย5555 ว่างๆเดี๋ยวจะมาเดินถ่ายรูปเล่น โอ๊ะ มีสตาร์บัคด้วย อยู่รอดละเรา...

    เสร็จแล้วเราก็เข้ามาทำธุระต่างๆภายในมหาลัย ไล่ไปตั้งแต่ที่Mcnutt hall ที่ๆเราทำบัตรนักศึกษา ตัวบัตรนี้สำคัญมากกกก รักษาเยี่ยงชีพ เพราะว่าใช้สำหรับการรูดเข้าโรงอาหาร(พวกบุฟเฟ่ห์ของเค้า)แล้วก็ใช้จ่ายจิปาถะ อย่างเครื่องซักผ้า แล้วก็ตามcafeต่างๆในมหาลัย แม้กระทั่งฟิตเนสก็ต้องใช้บัตรนี้ในการเข้าใช้(ฟรี) 

    ต่อด้วยDick’s houseเพื่อส่งตัวจริงเอกสารภูมิคุ้มกัน Immunization formและTB formที่มิ่งไปเดินสายฉีดวัคซีนก่อนมานี่แหละค่ะ ก็สำเร็จด้วยดีไม่มีปัญหาอันใด(ถึงจะส่งช้าเกินกว่ากำหนดก็เถอะ ขี้เกียจเสียค่าไปรษณีย์ข้ามประเทศ) ตัวDick’s houseก็จะเป็นคล้ายๆโรงพยาบาลของที่นี่ แต่ดันอยู่ทางบนนนนนนสุดของcampusเลย ให้ตายเถอะ ขืนป่วยทีสงสัยได้ตายกลางทางก่อนถึงคลีนิคชัวร์ กว่าจะเดินถึงน่อ
    แล้วเราก็แวะไปดูหน้าตาหอเสียหน่อย พอมาถึงก็ถึงกับชะงักแรง
    มีสุสานตั้งอยู่หน้าหอค่ะทางผู้โชมมมม
    อร้ากกกก //ให้จินตนาการเสียงPorgจากStar Wars
    พุทธังอารธนาธัง...หนึ่งในมหาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของอเมริกา...
    ข้อดีเพียงอย่างเดียวคือมันอยู่ใกล้คณะวิศวะ...ซึ่งก็อยู่หน้าสุสานเหมือนกัน ถถถถ 
    เราอยู่ห่างจากความตายแค่เพียงเอื้อมมือออ~ 
    อย่างว่า...โรงพยาบาลอยู่ไกลปานนั้น ลงหลุมเลยน่าจะเร็วกว่า

    เสร็จแล้วก็ไปเปิดบัญชีที่Bank of Americaดูเพราะไม่อยากพกเงินสดให้กังวลใจ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมด้วย วิธีการไม่ยุ่งยากเลยค่ะ ต้องการแค่PassportกับHinman addressของหอเพิ่อส่งบัตรเดบิตมา บัญชีที่มิ่งเปิดจะเป็นแบบCheckingไม่ใช่Saving บัญชีSavingก็มี ได้ดอกเบี้ยด้วยแต่ต่ำมากกกก แค่0.03% เลยเอาเป็นธรรมดาๆง่ายๆแล้วกัน

    เมืองนี้เป็นเมืองที่เล็กมากค่ะ ใช้เวลาครึ่งวันก็เดินทั่วแล้ว โชคดีที่ยังมีคนที่มาพักผ่อนตากอากาศบ้างเลยดูไม่เงียบเหงาช่วงที่ปิดเทอมอยู่
    ตอนเย็นไปกินร้านMollyที่อยู่ห่างจากCampusมาหน่อยนีง ขอนิยามร้านนี้ว่าเป็นโอบัสเซอร์สาขาNew Hamshireเรยทีเดียว มีเบียร์และFlammekucheให้กินอย่างเอร็ดอร่อย ให้เยอะมากก ควรชวนเพื่อนมากินแล้วแชร์กันอย่างยิ่ง


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in