เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Makers Tipsminimore
แนะนำ 10 Tumblr Blogs พัฒนางานเขียน ถ้าอยากเซียนต้องอ่านและฝึกฝน! - Part.1
  • เพื่อนรัก Tumblr ไม่ได้มีเอาไว้ reblogged เรื่องติ่งแต่อย่างเดียว วันนี้มินิมอร์ขอนำเสนอ 10 Tumblr Blogs เด็ดๆ รวบรวม Tips สำหรับงานเขียน ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูล คำศัพท์ รวมถึงการให้กำลังเหล่านักเขียนผู้ท้อแท้ จะมีอะไรบ้าง ไปดู Part 1 กันเลย! (คือมันยาว ต่อพาร์ท 2 พรุ่งนี้นะ)

    บางคนอ่านโปรยวันนี้แล้วอาจคิดว่า อุ๊ย มินิมอร์ หล่อนเป็นใคร ทำไมมาจี้ใจดำฉัน มินิมอร์ก็ไม่ต่างจากทุกคนหรอก...เปิด Tumblr แล้วหายไปเลย หายไปจากสารระบบโลก ติ่งยาวไป ค้นรูปจนเพลิน นี่มันเว็บไซต์หรือตู้เสื้อผ้าที่เปิดแล้วหลุดไปนาร์เนียกันฮึ

    มินิมอร์เลยจะมาชวนทุกคนหาประโยชน์จาก Tumblr นอกจากการเข้าไปหลั่นล้าในแฟนด้อมของตัวเอง ด้วยการลองเข้าบล็อกเหล่านี้ ลองอ่าน ทำตาม แล้วพัฒนางานเขียนของตัวเองกันเถอะ!

    ขอบคุณทางเว็บไซต์ hongkiat.com ที่รวบรวมเอาไว้ มินิมอร์เลยได้เอามาบอกต่อจ้ะ

    10 Tumblr Blogs เพื่อนักเขียน



    "หนึ่งกลเม็ดต่อวันไล่อาการ สมองตันให้มันหายไป" 

    ผู้แนะนำบล็อกนี้กล่าวไว้ว่าถ้า The Right Write มีข้อความที่เป็น tagline ของตัวเองสักอันก็คงเป็นอันนี้แหละ ที่บล็อกนี้แตกต่างจากที่อื่น เพราะไม่ได้ให้โควต้าว่า "เฮ้ วันนี้เราจะหายหัวตันนี่จะต้องเขียนสองพารากราฟ" อะไรแนวนี้ แต่เขาจะแนะนำให้เรา "โฟกัส" ในรายละเอียดและการสร้างผลงาน เรียกว่าจริงจังกันตั้งแต่รากฐานเลย เพราะรายละเอียดคือสิ่งที่จะเปลี่ยนจากงานเขียน   ธรรมดาๆ ให้กลายเป็นงาน Craft คืองานฝีมือ มีเอกลักษณ์ มีเส้นสาย ลวดลาย และกลายเป็นอัตลักษณ์ของตนเองในที่สุด

    ตัวอย่างที่เขายกมา และมินิมอร์คิดว่าเป็นประโยชน์มาก คือเรื่องของ "ระยะเวลา" ที่สามารถสร้างได้ด้วยการเรียงประโยค ขออนุญาตแปลตัวอย่างและแปลงเป็นอะไรไทยๆ ที่เข้าใจง่ายเนาะ

    (1)
    "คุณรักฉันหรือเปล่า" หญิงสาวถาม
    เขาตอบเธอโดยปราศจากความลังเล "รัก"

    (2)
    "คุณรักฉันหรือเปล่า" หญิงสาวถาม
     "รัก" เขาตอบเธอโดยปราศจากความลังเล

    สังเกตได้ว่าการใส่คำบรรยายไว้ข้างหน้าก่อน ในกรณีของ (1) ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างเหตุการณ์ และเพียงช่วงเวลาสั้นๆ นั้น อาจทำให้คนอ่านรู้สึกว่าเอ๊ะ จริงๆ ก่อนจะตอบว่ารัก [เขา] ชะงักไปนิดหนึ่งหรือเปล่า แตกต่างกับ (2) ที่ได้เมื่ออ่านจะความรู้สึกว่าอีกฝ่ายตอบแบบทันทีทันใด 

    minimore extra tips 

    แต่! ทุกอย่างมีข้อยกเว้นนะเอ้อ ลองแบบนี้ดูไหม

    (3)  
    "คุณรักฉันหรือเปล่า" หญิงสาวถาม
    เขาเลิกคิ้วน้อยๆ มองดวงตาที่มีแววมุ่งมั่นของอีกฝ่าย ชายหนุ่มเอ็นดูความตรงไปตรงมาของเธอมานานแล้ว ไม่เหนียมอายในเรื่องที่ควรพูด ไม่พูดและคิดเองเออเองจนทำให้เรื่องลุกลามบานปลาย
    เพราะแบบนี้แหละ เขาถึงได้สับสนมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ว่าแท้จริงแล้วเขารู้สึกกับหญิงสาวตรงหน้าเช่นไร
    ทว่าตอนนี้เขาตัดสินใจได้แล้ว ชายหนุ่มจึงตอบเธอโดยปราศจากความลังเล 
    "รัก"

    แน้...หวานนนน *มินิมอร์ขูดตัวเองไปเติมกาแฟ* การใส่คำบรรยายแบบนี้ ทำได้เพราะเขียนอยู่ในมุมมองของ [เขา] เมื่อเราลองบรรยายเพิ่มไป แน่นอน มันทำให้เกิด gap ของเวลาอยู่แล้วล่ะ แต่เราสามารถใช้ช่วงเวลานั้นให้เป็นประโยชน์ได้ ด้วยการใส่ความรู้สึกนึกคิดของ [เขา] ลงไป ทำให้ตัวตนของชายหนุ่มที่ตอบว่ารักนั้นชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าก่อนที่เขาจะพูดน่ะ มันมีสตอรี่และบางอย่างอยู่นะ!

    งานเขียนมันพลิกแพลงได้นะ จริงไหม ต้องลองเขียนดูเองล่ะ เพราะทุกงานรวมถึงงานเขียน เราจะมีทักษะได้ต้องลงมือทำเท่านั้นนน
  • 2. Quotes From Books


    ผู้แนะนำได้บอกว่า หากเราต้องการคำแนะนำจากนักเขียนชื่อก้องของโลก นี่ Quotes From Books นี่แหละ แห่งสร้างแรงบันดาลใจชั้นดีเลย เนื่องจากเขาได้ยกเอาข้อความที่น่าประทับใจจากหนังสือของนักเขียนดังมา ซึ่งโควทดีๆ จากหนังสือชื่อดัง ย่อมมีความแยบคาย และคม ด้วยไอเดียและการใช้ภาษาอยู่แล้ว นอกจากนี้ Quotes From Books ยังได้แนะนำหนังสือให้เราอีกด้วย  

    ที่เราต้องหาหนังสือน่าสนใจอ่าน...เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่อยากจะเขียนไง ก่อนจะเขียนได้ต้องอ่าน (สะสม) มาก่อน หรือบางทีหนังสือและโควทเหล่านั้นอาจจะไม่ได้ทำให้เราอยากอ่าน แต่กระตุ้นให้เราอยากเขียนเสียด้วยซ้ำไป
     




    ถ้าเจอ Writer's Block รบกวนใจอยู่ ให้ไปที่นี่เลย เพราะมีเรื่องราวมากมายหลายอย่างที่อาจจะสอดคล้องกับอาการที่เป็นตอนนั้น เพราะใน Writing Quotes นั้นมีหัวข้อที่เจ้าของบล็อกให้ไอเดียไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง อะไรที่ควรเขียน อะไรที่ไม่ควรเขียน หรือควรอ่านอะไรดีนะ เมื่อเจอเรื่องที่รู้สึกว่า เฮ้ย ใช่อะ ปัญหาเราตรงนี้เลย เราก็สามารถ reblogged เก็บไว้ในบล็อกเราเองได้เลย (มันเป็นฟีเจอร์ของ Tumblr ไง 

    น่าจะใช้เป็นน่า....รีบล็อกเรื่องติ่งกันบ่อยหรือเปล่า เรารู้นะ!


  • "ศาสตราวุธที่ทรงอานุภาพของนักเขียนคือการใช้มิสไซล์คำ" 


    คำโปรยของเขาได้ใจมากจริงๆ *ที่กาทิ้งฝีมือมินิมอร์เอง* บล็อกนี้รวบรวมเอาคำแปลกๆ ทั้งจากภาษาอังกฤษและภาษาอื่นเอาไว้ แปลกชนิดเห็นแล้วอุทานว่า 'มีคำนี้ในโลกด้วยเรอะ!' คือถ้าไม่อ่านคำอธิบายจะคิดว่าเป็นคำที่เรียงผิด เรียกว่าถ้าเจอในเกมอักษรไขว้ก็วงไม่ได้อะ ไม่รู้จัก!  และเขาทำพรีเซนต์สวยด้วยนะ เป็นไฟล์ gif ที่ขยับได้ ดูดีมากเลย

    ilunga (น.) คนที่พร้อมจะให้อภัยและลืมเมื่อถูกรังแกในคราวแรก 
    อดทนเมื่อเจอหนที่สอง แต่จะไม่มีครั้งต่อไปที่มา


    นอกจากนี้แล้ว WordStuck ยังมีการตอบคำถามที่คนทิ้งเอาไว้ด้วยนะ มินิมอร์ยกตัวอย่างให้ดูอันหนึ่ง


    "มีคำไหนที่มีความหมายแบบ ไม่เคยมีความสุข หรือไร้สุขอะไรพวกนี้ไหม?"

    Cherophobia - ความกลัวต่อการมีความสุข ความรื่นเริง ความรื่นรมย์ 
    มาจากรากศัพท์ภาษากรีก (ตามภาพ) หมายถึงการจงเกลียดจงชังการมีความสุข เจตนาที่จะเลี่ยงการมีประสบการณ์ที่ก่อความสุข ความรื่นเริง หรืออารมณ์ในด้านบวก เหตุผลหนึ่งของความรู้สึกเช่นนี้

    minimore extra tips

    มินิมอร์ว่านักเขียนที่เก่งไม่ใช่แค่คิดเรื่องราวซับซ้อนได้แต่อย่างเดียว ทว่าสิ่งที่จะดึงให้คนรู้สึกคล้อยตาม ขัดแย้ง หรือกระทั่งรู้สึกด้านชาเช่นที่ใจคนเขียนอยากให้เป็นนั้น เกิดขึ้นได้เพราะการใช้ภาษาที่เหมาะสมกับเหตุการณ์และบริบท และนักเขียนที่เก่งจะสามารถใช้ 'ระดับของภาษา' ให้แตกต่างออกไปในแต่ละแนวงานเขียนด้วยนะ สมมติว่าเราเขียนเรื่อง 'ยืนมองพระจันทร์ ลมพัดมารู้สึกหนาว' ถ้าเราเขียนแค่นีก้็ดูทื่อๆ ใช่ไหม (คือไม่ผิดนะ แต่ถ้าอยากให้มัน ว้าว มากขึ้น) ก็ได้เวลาดึงคลังคำในหัวมาใช้แล้วล่ะ อาจจะเปลี่ยนเป็นบทกวีก็ได้นะ

    ยืนเดียวดาย
    ตาจ้อง...ใจหมายจันทรา
    วายุไล้...กายสะท้าน

    *เอาจริงๆมินิมอร์ก็ไม่ใช่สายกวีนะแค่ลองเจ๋ยๆ* 

    ถ้าเรามีคลังคำเยอะๆ ก็เหมือนเราเป็นผู้วิเศษที่จะเสกเวทมนตร์ให้เรื่องราวที่เราเขียนกลายเป็นสิ่งต่างๆ ได้มากมาย ราวกับเทคคอร์สวิชาคาถามาเลยล่ะ!

    แต่ เอ๊ะ บล็อกนี้เป็นภาษาอังกฤษนี่นา แล้วถ้าเราเขียนนิยาย/เรื่องสั้น/บทกวี/บทความ เป็นภาษาไทยล่ะ? เราจะมีคำในหัวเยอะๆ ได้ไง?

    มินิมอร์ตอบแทนเขาได้เลยว่าเราก็ต้องอ่านยังไงล่าาา การอ่านคือการเติมชุดคำศัพท์เพิ่มเข้าไปในสมองเรา ยิ่งถ้าเราอ่านหนังสือที่มีการใช้ภาษาหลากหลาย นิยาย บทความ บทกวี เราจะรู้เลยว่าคำๆ เดียวนั้นมีคำที่ใช้แทนกันได้มากมาย เช่นคำว่า [พระจันทร์] สามารถเขียนได้ทั้ง ดวงจันทร์ พระจันทร์ จันทรา ดวงแข แข ศศิ ศศิธร ติชิลา และอื่นๆ อีกมากมาย หรือถ้าเป็นคำกริยาอย่างการ [มอง] ถ้าเราอ่านสะสมคำศัพท์มา เราจะรู้เลยว่า มอง นั้น มีกริยาแยกย่อยออกไปอีกมาก เช่น ปรายตา เหลือกตา เหลือบ มองด้วยหางตา เขม้นมอง เหม่อมอง อะไรทำนองนี้จ้ะ

    หรือ! ตัวช่วย

    หนังสือ "คลังคำ" ฉบับปรับปรุงล่าสุด (ภาพจาก Readery )

    หนังสือคลังคำ คือหนังสือที่รวบรวมคำ สำนวน ภาษาไทยตามหมวดหมู่ความหมาย หาพระจันทร์อย่างเดียว ได้คำอื่นๆ พ่วงมาด้วย แบบนั้นเลย คือดีมาก ควรเป็นหนังสือติดโต๊ะอะ มินิมอร์แนะนำจริงจังอะ                                                                                                                                                                      


    ที่นี่แม้จะเป็นบล็อกที่ให้คำแนะนำเรื่องงานเขียน หนังสือ หรือแจกโจทย์ให้เขียนคล้ายๆ ที่อื่น แต่จุดเด่นคือมีการเขียนเรื่องราว ข่าวสารของวงการหนังสือ สายการผลิต (โอ้โห แอดวานซ์) คือเพื่อนๆ อาจจะคิดว่า เอ เป็นนักเขียน แค่เขียนก็พอนี่ แต่มินิมอร์บอกได้เลยว่าไม่ใช่ นักเขียนในยุคนี้หลายคนต้องศึกษาไปถึงงานสิ่งพิมพ์ การตลาด รวมถึงดูแนวโน้มเศรษฐกิจเพื่อวางแผนชีวิต อนาคต รวมถึงหาลู่ทางการเสนองานเขียนของตัวเองด้วย *เป็นนักเขียนยุคเศรษฐกิจดีมีสุขต้องสตรอง* 

    นอกจากนี้ Yeah Write ยังเป็นศูนย์รวบรวมคนทำงานสายสิ่งพิมพ์ (ในแง่การสร้างสรรค์งานเขียนนะ) ไม่ว่าจะนักเขียน อีดิเตอร์ นักพิสูจน์อักษร ไม่ใช่แค่มาเจ๊าะแจ๊ะพูดคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ แต่รวมกันเพื่อเสนอโปรไฟล์และงานตัวเอง เผื่อว่าใครจะสนใจจ้างไงล่ะ


    จบ Part.1 แล้วล่ะ เห็นไหม เล่น Tumblr ก็ก่อประโยชน์ได้! มีอะไรดีๆ เยอะเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาดูกันต่อ ว่าอีก 5 Blogs ที่เหลือจะมีอะไรบ้าง ถ้าใครชอบก็กดแชร์ส่งต่อๆ กันได้นะจ๊ะ แล้วมาเขียนอะไรสนุกๆ ลง Minimore Makers กัน จะเขียนเรื่องยาว เรื่องสั้น จะเป็น fiction หรือ non-fiction ก็ได้หมด เพราะเราเปิดกว้างให้ทุกคนแสดงออกไง :>

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in