เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The GiftedBANLUEBOOKS
CHAPTER 1



  • “สวัสดีค่าาาาาา ขอต้อนรับสู่เว็บเด็กดื้อดอทค้อมมม!! อีกครั้งนะคะเพื่อนๆ ชัดเจนกันไปอีกแล้วนะคะวันนี้ ผีห้อง 601 จัดการกับอาจารย์กีรนิตไปเรียบร้อยตามคาดค่าาาาา! ยินดีกับเพื่อนๆ ห้อง 8 ที่ไม่ต้องเรียนสังคมในคาบแรกด้วยนะคะ แล้วใครที่วางเดิมพันไว้แล้ว อย่าลืมมารับได้ตอนเย็นที่ใต้ตึก 7 นะ ฮิฮิ และวันนี้ในส่วนของสินค้าสำหรับการโกงข้อสอบนั้น เราขอเสนอ ‘ดินสอ 99B’ ค่าาาาา หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันทำงานยังไง สังเกตนะคะว่าแถบตรงนี้จะดูเหมือนดินสอ 2B ทั่วไปใช่ไหมคะ แต่ไม่ค่ะ! มัน หมุน ได้ ค่า! หมุนได้ตั้งแต่เลข 1-99 เลยทีเดียว คราวนี้ในห้องสอบ ถ้าเราจะบอกคำตอบเพื่อน เช่นข้อ 6 ตอบ ก.ไก่ เราก็แค่ต้องหมุนแบบนี้ค่ะ ‘06A’ เห็นไหมคะ เท่านี้ปัญหามิดเทอมก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงมือทุกท่านก่อนสอบกลางภาคแน่นอน วันนี้ขอลาไปก่อนนะคะ สะ-หวัด-ดี-ค่าาาา”

    เสียงสดใสร่าเริงสไตล์พริตตี้รถยนต์ของคลิปวิดีโอในอินเทอร์เน็ตจบลง ‘แอร์’ นักเรียนสาวชั้น ม.4 นั่งดูคลิปของตัวเองที่เพิ่งอัพโหลดเสร็จอยู่ในห้องเรียน ตัวจริงของเธอดูสวยน้อยกว่าในคลิปค่อนข้างมาก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เป็นพรีเซนเตอร์ของเว็บไซต์ Dek-Deu.com หรือเว็บ ‘เด็กดื้อ’ ซึ่งเป็นเว็บที่รวบรวมเรื่องต่างๆ ที่เด็กนักเรียนผู้สนใจในอนาคตอันสดใสจะไม่เปลืองสมองมาอ่าน เช่น เรื่องตำนานลึกลับในโรงเรียน วิธีการหลีกเลี่ยงการตรวจผม คลิปละครเลียนเสียงครู แถมยังขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนฉบับเด็กขี้เกียจ ที่ทำยังไงก็ได้ให้สอบผ่านโดยไม่ต้องอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะเป็น ที่ปั๊มลายเซ็นอาจารย์แบบเหมือนจริง หน้าปกสมุดการบ้าน ‘นายต้อม’ นักเรียนคนโปรดของอาจารย์สุวิมล ที่เมื่อเอามาห่อปกสมุดการบ้านใครก็ตาม อาจารย์สุวิมลก็จะลำเอียงให้คะแนนคนคนนั้นเยอะเป็นพิเศษทันที ไปจนถึงดินสอ 99B ที่เพิ่งเปิดตัวไปวันนี้ด้วย

    แอร์ยิ้มอ่อนให้กับความสวยที่ดูเกินใบหน้าจริงของตัวเองในคลิป ก่อนจะเหลือบไปเห็นข้อความที่ส่งเข้ามาสั่งจองดินสอ 99B อย่างล้นหลาม
  • “เฮ้ย! ไอ้แปงงง!! คนสั่งเต็มเลย รอบนี้ขายดีมาก มาดูเร็ว”

    แอร์หันไปพูดกับ ‘แปง’ นักเรียนชายที่ผมดูจะยาวเกินกว่าที่เด็ก ม.ปลาย โรงเรียนรัฐบาลจะไว้ได้ เขานอนฟุบอยู่ข้างๆ แอร์ อย่างเซื่องซึม เขานี่แหละที่เป็นเบื้องหลังความสำเร็จของเว็บไซต์เด็กดื้อ เพราะเป็นคนคิดเนื้อหาและไอเดียทำอุปกรณ์เสียเป็นส่วนใหญ่

    “ไม่เหมือนครั้งที่แล้ว ‘ดินสอตัวโน้ต’ บ้าอะไรก็ไม่รู้ ใครจะไปใช้ได้”

    แอร์พูดถึงผลิตภัณฑ์ดินสอโกงข้อสอบตัวที่แล้ว เป็นดินสอสี่แท่งมีเสียงเป็นโน้ต ลา ที โด เร หรือถ้าเป็นตามสัญลักษณ์ตัวโน้ตก็คือ A B C D เทียบเป็น ก ข ค ง แต่ติดปัญหาตรงที่ไม่มีใครฟังเสียงโน้ตออก เลยขายได้แค่ประปรายกับพวกห้องท้ายๆ ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตไปกับการเล่นกีตาร์ แถมยังติดปัญหาต่อมาคือตัวคนต้นทางการส่งสัญญาณก็ดันไม่ซื้อดินสอไปใช้อีก

    “เฮ้ย ไอ้แปง ไม่ต้องไปเครียดหรอก ห้องนั้นมันไม่มีใครติดมาตั้งนานแล้ว”

    แอร์ปลอบใจเมื่อเห็นแปงนอนซึมไม่ยอมลุกขึ้นมาสักที แต่คำปลอบใจนั้นก็ไม่ช่วยให้แปงรู้สึกดีขึ้นเท่าไหร่ อันที่จริงไม่มีอะไรที่จะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นได้มากกว่าการสอบติดห้อง ‘กิฟต์’ อีกแล้ว

    ห้อง ‘กิฟต์’ หรือที่เด็กๆ เรียกว่าห้อง ‘กิฟต์เต็ด’ หรือที่ชาวต่างชาติจะเรียกห้อง ‘Gifted’ หรือที่เหล่าคณาจารย์จะเรียกห้อง ‘โครงการพิเศษ’ หรือที่ใครจะเรียกห้องอะไรก็แล้วแต่ ช่างมันเถอะ ห้องนี้เป็นห้องเรียนที่มีคุณภาพที่สุดในโรงเรียนฤทธานุภานุสรณ์วิทยาคมแห่งนี้ นักเรียนจากทุกสารทิศทั้งในและนอกโรงเรียนต่างก็ใฝ่ฝันจะย้ายเข้าไปเรียนในที่แห่งนั้นด้วยเหตุผลหลักๆ คือห้องนั้นเป็นแหล่งรวมตัวของเด็กเก่งระดับเหรียญทองโอลิมปิกวิชาการ และเหตุผลรองคือห้องนี้มักจะได้รับอภิสิทธิ์ในการปล่อยให้ผมยาวโดยที่อาจารย์ไม่มายุ่มย่าม
  • สำหรับแปง เมื่อปีที่ผ่านมา เขาพยายามจะสอบเข้าห้องนี้ให้ได้ แน่นอนว่าเป็นเพราะเหตุผลที่จะได้ไม่ต้องตัดผมทรงหัวเกรียน เขาเกลียดการถูกบังคับให้ตัดผมเป็นที่สุด เพราะก่อนที่เขาจะย้ายเข้ามาเรียนในชั้น ม.3 ที่โรงเรียนแห่งนี้ เขาเรียนโฮมสคูลกับแม่ของเขามาโดยตลอด และแน่นอนว่าไม่มีกฎไร้สาระอย่างการตัดผมทรงหัวเกรียนแน่นอน แต่อยู่ๆ เมื่อปีที่ผ่านมาเขาก็ได้ย้ายเข้ามาโรงเรียนนี้ และแม่ของเขาก็อยากให้เขาได้อยู่ห้องกิฟต์มากแต่เขากลับสอบไม่ติดจนตกมาอยู่ห้อง 15 ซึ่งเป็นห้องบ๊วยสุดของโรงเรียนแทน

    สิ่งที่ทำให้เขาเสียใจมากที่สุดคือ การเข้าห้องกิฟต์ให้ได้เป็นสิ่งเดียวที่แม่เคยขอและคาดหวังจากเขา แต่เขากลับทำให้ไม่ได้ อันที่จริงเขาไม่มีโอกาสทำให้แม่ได้เห็นอีกแล้ว...

    “ไม่ว่าโลกนี้จะพยายามดูถูกเราแค่ไหน ลูกจงจำไว้ว่าอย่าดูถูกตัวเอง”

    คำพูดสุดท้ายของแม่ที่เขาจำได้ ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตไปด้วยโรคหัวใจล้มเหลวที่โรงเรียนแห่งนี้ แม่ของเขาเป็นอดีตผู้อำนวยการของโรงเรียนนี้เมื่อหลายปีก่อน ก่อนจะมีเรื่องราวข่าวฉาวเรื่องการโกงจนถูกเชิญให้ออกจากตำแหน่งในที่สุด ทิ้งให้แปงต้องอยู่บ้านแต่เพียงลำพัง มีเพียงคุณยายข้างบ้านที่คอยมาดูแลเขาเป็นครั้งคราวเท่านั้น

    “ก็แกเล่นเขียนเรื่องผีห้อง 601 ไปสอบแบบนั้นนี่หว่า ใครรับเข้าก็บ้าแล้ว”

    ‘วิชัย’ นักเรียนชายผิวดำเข้มผู้มีผมดกดำ เดินเข้ามาตบไหล่เขา วิชัยเป็นเพื่อนซี้ของแปงตั้งแต่ ม.1 แรกๆ แปงก็ไม่นับเป็นเพื่อนด้วยนิสัยขี้กวนของเขา แต่พอวิชัยตามติดเขามากเข้า ไปไหนตามไปทุกที่ พวกเขาเลยกลายมาเป็นเพื่อนซี้กันมาจนถึงทุกวันนี้

    ตำแหน่งหน้าที่ของวิชัยในกิจการเว็บเด็กดื้อคือเขาจะเป็นคนที่คอยแอบเอาของที่ผิดกฎโรงเรียนพวกนี้ไปส่งให้คนนู้นคนนี้ตามห้องต่างๆ และเขาก็ทำงานได้ดีเพราะไม่เคยถูกจับได้เลยสักครั้ง นอกจากนี้เขายังเป็น 1 ในนักเรียนไม่กี่คนที่รอดจากการตรวจผมของอาจารย์ ‘ถนอม ฉุยฉาย’ อาจารย์หัวหน้าฝ่ายปกครองได้สำเร็จด้วย

    “พวกเด็กกิฟต์เต็ดมีแต่พวกเทพนี่หว่า เด็กอย่างพวกเราไม่มีทางไปเทียบชั้นได้อยู่แล้ว อย่าคิดมาก” วิชัยพูดเสริม แต่มันไม่ได้ช่วยให้แปงรู้สึกดีขึ้นเลย ตอนนี้สำหรับแปงแล้วอะไรในโลกนี้ก็ไม่อาจทำให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้อีกแล้ว นอกไปเสียจาก...
  • “นายวสุธร ผมยาวเหมือนกันนะ”

    สิ้นเสียงปริศนา แปงสะดุ้งโหยง ขนลุกเกรียวไปถึงปลายเท้า ไม่ผิดแน่เพราะนี่คือเสียงของอาจารย์ถนอม ฉุยฉาย อาจารย์หัวหน้าฝ่ายปกครองจอมโหด ตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกถึงการดึงผม เสร็จแน่ๆ เขาโดนตัดผมแน่ๆ

    “เหวอ!!!”

    เขาดีดตัวเองออกจากโต๊ะอย่างไวว่อง หันไปมองทางต้นเสียง ที่ไหนได้ เสียงของอาจารย์ถนอมที่เขาได้ยินนั้นกลับกลายเป็นเสียงของ ‘แพรว’ นักเรียนสาวผมสั้นจอมแก่นผู้ชอบแต่งหน้าจัด ทาปากแดงและพกผ้าเช็ดหน้าสีชมพูในกระเป๋าเสื้อตลอดเวลา แม้แต่สก๊อยยังต้องเรียกเธอว่าแม่ เธอเป็นคนที่เลียนเสียงครูทุกคนในโรงเรียนได้เก่งและเหมือนมากๆ แถมยังเป็นเจ้าของเสียงพากย์ตัวละครครูลงในเว็บเด็กดื้ออีกด้วย แพรวและเพื่อนคนอื่นๆ ในห้องขำกันลั่นที่เห็นแปงตกใจเพราะเสียงหลอกของเธอ

    “แกน่าจะได้เห็นหน้าตัวเองนะแปง ตกใจอย่างกับเห็นครูถนอมแน่ะ ฮ่าๆๆ” แอร์พูดด้วยเสียงกลั้วขำ

    “โหยนี่ ถ้าครูมาจริง พวกข้าวิ่งหนีวงแตกกันหมดแล้ว ไม่เหลือหรอก ฮ่าๆๆ” วิชัยพูดเสริมด้วยสำเนียงบ้านนอกตามสไตล์

    “นายวสุธร บุญส่งลาภ มาเจอครูหน่อย” เสียงของครูถนอมดังขึ้นอีก วิชัยก็นึกตลกที่แพรวล้อเสียงครูซ้ำเป็นครั้งที่สอง เขาเลยหันไปพูดกับแพรว

    “ฮ่าๆๆ ซ้ำเติมไม่หยุดเลยนะแพรว”

    “...”

    วิชัยเริ่มสังเกตว่าเหลือแค่เสียงของเขาคนเดียวที่ยังหัวเราะอยู่ เขามองไปยังแพรว ก็เห็นว่าเธอยืนตัวแข็ง แลไปทางขวาก็เห็นทุกๆ คนในห้องมองเป็นตาเดียวไปที่ประตูหน้าห้อง อืม... บรรยากาศชักไม่ค่อยดีแล้ว หรือว่า... บ้าน่า... เป็นไปไม่ได้... วิชัยหันหลังกลับไปมองที่ประตู สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา คืออาจารย์ผู้หญิงสูงวัย รัดผมรวบตึง แว่นตาชี้สูงเป็นเอกลักษณ์และไม้เรียวในมือขวา... อ่าห์... ใช่แล้วล่ะ...ครูถนอม......

    “วิ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
  • สิ้นเสียงตะโกนของวิชัย เหล่าเด็กนักเรียนห้อง 15 แตกฮือยิ่งกว่าผึ้งแตกรัง สามคนกระโดดออกนอกหน้าต่างไปตายเอาดาบหน้า ออมและแพรววิ่งหนีออกทางประตูด้านหลัง มีคนนึงไม่รู้จะทำยังไงเลยแกล้งหลับฟุบอยู่มุมห้อง แปงคือหนึ่งในสามคนที่หนีออกนอกหน้าต่าง วิชัยดูเหมือนจะยังสับสนไม่รู้จะวิ่งไปทางไหน ยืนประจันหน้าอยู่กับครูถนอมซึ่งยืนดูสถานการณ์อันสับสนที่เกิดขึ้นอย่างเยือกเย็น

    แปงกระโดดออกนอกหน้าต่างแล้วแยกทางกับเพื่อนอีกสองคน ห้องเรียนของห้อง 15 นั้นไม่ค่อยเหมือนห้องอื่นๆ ตรงที่มันเป็นห้องเรียนเดียวที่ตั้งอยู่ใกล้เรือนเกษตรที่อยู่ห่างจากส่วนกลางของโรงเรียนมากๆ และยังเป็นที่ที่ถ้าอาจารย์ไม่มีวิชาสอนก็จะไม่ค่อยมากัน หรือถึงแม้จะมีคาบสอนบางทีก็จะโดดสอนไปเลย รอบๆ อาคารเป็นคลองที่ใช้ผันน้ำเข้าแปลงเกษตร แปงไม่สามารถจะวิ่งไปให้ไกลกว่านี้ได้เพราะหน้าต่างที่เขากระโดดออกมามันสุดขอบรั้วโรงเรียนแล้ว เขาตัดสินใจมุดลงไปใต้เรือนอาคารเรียน ซึ่งเป็นที่ที่เขาและวิชัยใช้หนีเวลาอยากโดดเรียนหรือซ่อนตัวก่อนที่พวกครูจะมา อาจารย์ถนอมไม่เคยมาที่นี่ด้วยตัวเองมาก่อน เมื่อกี้ครูเรียกชื่อเขาทำไมกัน? หรือจะรู้แล้วว่าเขาหนีตรวจผมช่วงต้นปีมาได้ตลอด? หรือจะเข้มงวดกับเขามากขึ้น?

    แปงคลานเข้าไปสุดใต้ถุนเรือนอาคาร จากตรงนี้มีช่องเล็กๆ ที่มองลอดขึ้นไปข้างบนได้ เขามองเห็นวิชัยยืนขาสั่นอยู่หน้าครูถนอม เหงื่อแตกพลั่กเต็มตัวไปหมดทั้งๆ ที่ไม่ได้วิ่ง ถ้าเหงื่อออกมากกว่านี้อีกนิดคงจะไหลลอดรูลงมาโดนแปงแน่

    “นายวสุธร บุญส่งลาภ อยู่ที่ไหน?” อาจารย์ถนอมพูดขึ้นด้วยเสียงเยือกเย็น

    วิชัยตกใจสะดุ้งเฮือกก่อนจะตอบกลับไปด้วยเสียงที่สั่นระรัว
  • “อะ..เอ่อ.. กระโดดออกนอกหน้าต่างไปแล้วครับ”

    “ไอ้เพื่อนชั่ว!!!!” แปงตะโกนด่าวิชัย..ในใจ นี่เจ้าวิชัยมันกลัวจนขายเพื่อนเชียวหรือ

    “… อย่างนั้นเหรอ...” ครูถนอมพูดเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ เดินสำรวจห้อง เอามือจับผมที่ยาวผิดระเบียบของวิชัย ขยี้เล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้บริเวณที่แปงซ่อนตัวอยู่ราวกับรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้ แปงก้มหน้าลงมองพื้น ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่เขารู้สึกว่าการมองครูจะทำให้ครูรู้สึกถึงเขาได้

    “ครูรู้สึกได้ถึงนักเรียนที่ผมยาวเกินไปสองคนยังอยู่บริเวณนี้”

    “ครับ..?”

    “คนแรก............................................. ก็คือเธอ!!!!!!!!!!!!!!!”

    ฉับพลันทันใด ครูถนอมฟาดไม้เรียวไปที่วิชัย ฟุ่บ!!! เสียงไม้เรียวแหวกอากาศดังราวกับเสียงการหวดของดาบญี่ปุ่น แปงเงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกใจ เขามองไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้วิชัยยืนหัวเกรียนอยู่ด้วยทรงผมนักเรียนที่ถูกระเบียบพร้อมกับละอองผมสีดำที่กระจายไปติดบอร์ดด้านหลัง เขาตกใจอย่างมาก งงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่มีเวลางงมากนัก เมื่อครูถนอมเปลี่ยนท่าเตรียมทิ่มไม้เรียวลงพื้น

    “และคนที่สอง!! ก็คือเธอ!!!”

    ตู้ม!!! ไม้เรียวทะลุช่องว่างบนพื้นไม้ มาปักอยู่ตรงหว่างขาของแปงพอดี เขานั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นไม่กล้าขยับไปไหน อีกนิดนึงก็จะปัสสาวะราดตรงนี้แล้ว

    “นายวสุธรรึเปล่า?”

    ครูถนอมถามเขาด้วยเสียงอันเยือกเย็น แปงตอบออกไปเพราะคิดว่าคงไปไหนไม่รอดแล้ว

    “...ใช่ครับ”

    ครูถนอมเก็บไม้เรียวขึ้นอย่างใจเย็น แล้วเรียกเขา

    “เธอสอบติดห้องโครงการพิเศษ ตามครูมา”




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in