เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
my writings.anonym.
[OS] Tricky Baby


  • Special part of [SF] Come Rain or Shine


    Pairing: Hwang Minhyun x Kim Jonghyun

    Rating: General Audiences

     แนะนำให้กลับไปอ่าน Come Rain or Shine ก่อนนะคะ ทั้งนี้ ฟังนี่เพื่ออรรถรส











    มือเย็นแตะบนหน้าผากของผมอย่างแผ่วเบา ทาบตามใบหน้าและลำคออยู่สองสามที คิ้วหนาขมวดมุ่นอย่างน่าชัง ก่อนที่รูมเมทหมาด ๆ ของผมจะยื่นแก้วช็อกโกแลตร้อน ไม่ใช่สิ... เขายัดแก้วใบนั้นใส่ในมือผมเลยต่างหาก


    "ดื่มซะ... ค่อย ๆ ล่ะ มันร้อน" จงฮยอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบและติดห้วนนิด ๆ ซึ่งในความเห็นของผมแล้ว มันขัดกับหน้าตาน่ารักของเขามากทีเดียว


    หน้าอย่างเขาเหมาะกับเสียงออดอ้อนให้ผมเอาใจมากกว่า อยากจะบอกเจ้าตัวแบบนี้อยู่เหมือนกัน แต่ก็... อย่าดีกว่า เดี๋ยวแมวจะข่วนเอา ผมน่ะใจปลาซิวจะตายไป เผื่อคุณไม่รู้


    "อย่าเอาแต่มองหน้าฉันสิ มินฮยอน แล้วเมื่อไหร่นายจะได้กินยา"


    เนี่ย เห็นไหมล่ะว่าแมวตัวนี้ดุขนาดไหน ผมก็ทำได้แค่ยิ้มและพยักหน้างึก ๆ รีบเบนสนใจมาที่แก้วสีเหลืองนวลในมือทันที พยายามเป่าไล่ความร้อนจากเครื่องดื่มหอมกรุ่น ทั้งที่เรี่ยวแรงไม่ค่อยจะมีเท่าไร ไม่รู้เหมือนกันว่าระหว่างเจ้าช็อกโกแลตที่อยู่ในมือกับอุณหภูมิร่างกายของผมตอนนี้ อะไรจะร้อนมากกว่ากัน


    "นายนี่นะ... เอามานี่เลย เป่าแบบนี้กี่ชาติจะได้ดื่มเนี่ย" คนตัวเล็ก (ในสายตาผม) ฉวยแย่งแก้วที่อยู่ในมือของผมไป น้ำเสียงและใบหน้าของเขาฉายแววรำคาญและหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด นั่นทำให้ผมรู้สึกผิดไม่น้อยที่ทำให้เขาต้องเสียเวลาทำงานเพื่อมาดูแลผม


    ตั้งใจจะเอ่ยบอกให้อีกฝ่ายกลับไปจัดการงานที่ค้างคา แต่พอเห็นเขาตั้งอกตั้งใจเป่าจนแก้มทั้งสองข้างพองลมแล้ว เห็นแก่ตัวสักวันคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง ... อย่ามองผมแบบนั้นสิ คุณไม่รู้หรอกว่าใบหน้าหล่อปนน่ารักที่ดูจริงจังไม่ต่างกับตอนรัวนิ้วบนเครื่องนินเทนโด มันน่ามองขนาดไหน ในความตั้งใจนั้นแฝงความน่าเอ็นดูจนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา แม้ว่าสภาพร่างกายในตอนนี้ของผมจะไม่เอื้ออำนวยเท่าไรก็ตาม


    และผมก็หลุดหัวเราะออกมาจนได้ เมื่อเห็นเขาลองจิบเครื่องดื่มสีเข้มเพื่อทดสอบว่าอุ่นพอดีหรือยัง


    จงฮยอนหันมามองค้อนใส่ผมทันที แก้มทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำ "หัวเราะอะไรน่ะ รีบ ๆ ดื่มไปสิ จะได้กินยาสักที"


    "อือฮึ..." ผมแกล้งตอบรับเสียงสูงเย้าเขา ก่อนจะจรดริมฝีปากตรงตำแหน่งเดียวกับที่เขาจิบช็อกโกแลตร้อนเมื่อครู่ 


    ... ใช้สายตาที่รู้ว่าเขาแพ้จ้องมองเข้าไปในดวงตากลมโตคู่นั้น เป็นการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผมตั้งใจเติมเฉดสีระเรื่อน่ามองบนใบหน้าและปลายใบหูของเขา


    แน่นอนว่าผมทำสำเร็จ


    ถึงอย่างนั้น คิมจงฮยอนก็คือคิมจงฮยอน ดวงตาสีเข้มมองผมอย่างไม่ยอมแพ้ คล้ายกับจะชวนเล่นเกม 'ใครหลบตาก่อน คนนั้นแพ้' ผมตอบรับคำท้าทายอย่างเต็มใจ พลางละเลียดรสชาติหวานหอมปนขมนิด ๆ ขณะที่จับจ้องใบหน้าของเขาไปด้วย


    ดวงตาคู่หวาน ... ที่สะกดให้ผมหลงใหล จนต้องแวะมาเยือนคาเฟ่ของอดีตลูกค้าเกือบทุกวัน อา ผมคงยังไม่ได้บอกพวกคุณสินะว่างานตกแต่งเรียบง่ายสบายตาในคาเฟ่แห่งนั้นคือผลงานของผมเอง ต่อดีกว่านะครับ เหตุผลที่ทำให้ผมได้กลับไปคาเฟ่แห่งนั้นอีกครั้ง จนได้ค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 8 คุณตาหวาน ก็เพราะคำชวนของเพื่อนร่วมงานเนี่ยแหละ หมอนั่นขอร้องแกมบังคับ บอกว่าอยากยืมตัวผมสักวันสองวันมาเป็นไม้ประดับส่งเสริมภาพลักษณ์ ... 


    'จะจีบคนที่ทั้งโลกมีแต่เพื่อนติดเกม หมาแมว ขนมหวาน กาแฟ แล้วอะไรอีกวะ ใช่ ๆ เยลลี่ไข่ดาว มันก็ต้องทำแบบนี้แหละ'


    ทำแบบนี้ที่ว่าก็คือ เดินเก็กหน้าหล่อ ล้วงกระเป๋าไปโผล่แถว ๆ คลินิคที คาเฟ่ที หรือแม้กระทั่งหน้าอพาร์ทเมนท์ของคุณสัตวแพทย์คนนั้นที ... 


    'พรหมลิขิตแม่งมีที่ไหนกัน ชีวิตเรา เราต้องลิขิตเองสิวะ' นี่คือประโยคเด็ดขององซองอูเขาล่ะ


    แต่ผมขอบายวิธีนี้ดีกว่า แค่ไปคาเฟ่ทุกวัน ได้มองเขา ได้พูดคุยบ้างเมื่อมีโอกาส แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับผม ... แต่ก็ต้องขอบคุณโชคชะตาที่พี่อาร่อนส่งคอนแทคของผมให้เขา และความสำเร็จของซองอูที่ทำให้ผมได้สืบข้อมูลบางอย่างจากคุณเพื่อนสนิทของเขาอย่างเนียน ๆ



    รวมถึง ... เรื่องที่เขาแอบหวั่นไหวกับผมด้วย











    "ขอบคุณนะ..."



    ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย


    "อะ อะไรของนาย?"


    "ขอบคุณที่มาอยู่ด้วยกัน ขอบคุณ"


    "หยุดเดี๋ยวนี้นะ!"


    "ที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตของผ"


    นิ้วชี้ป้อม ๆ ยกขึ้นปิดปากของผม ดวงหน้าน่ารักขึ้นสียิ่งกว่าเดิม







    "แม่ง... ขี้โกงว่ะ..."


    และเกมจ้องตาของเราจบลงด้วยชัยชนะของผม เพราะคนตัวเล็กดันเป็นฝ่ายหลบสายตาไปเสียก่อน คนแพ้หมาด ๆ ก็เลยฮึดฮัดพลางก้มหน้าก้มตาจัดยาให้ผมแก้เขินไป


    มันเขี้ยวเป็นบ้า...


    “วางยาไว้ตรงนี้นะ ง่วงก็นอนไปก่อนเลย ไม่ต้องรอฉัน เข้าใจไหม?”


    ยังไม่ทันจะอ้าปากตอบ เขาก็โน้มตัวเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ (ที่ผมชอบมาก) จากตัวเขา




    จุ๊บ...


    กว่าผมจะรู้สึกตัวว่า ริมฝีปากนุ่มของอีกฝ่ายได้แตะแผ่วกลางหน้าผากของผม แล้วเลื่อนลงมางับเบา ๆ ที่ปลายจมูก ก่อนจะจบที่ริมฝีปาก ... ก็หลังจากที่เขาเดินออกไปและปิดประตูห้องนอนของเราเรียบร้อยแล้ว


    ตอนนี้จึงเหลือแค่ผมกับเสียงดังระรัวในอกเท่านั้น


    ผมยกมือทาบทับแก้มทั้งสองข้างที่ร้อนผ่าว มั่นใจเลยว่าความร้อนตามผิวหน้าตอนนี้ไม่ได้เกิดจากพิษไข้อย่างเดียวแน่


    "ขี้โกงชะมัด..."


    คิมจงฮยอนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ แบบนี้ ไม่ดีต่อหัวใจของผมจริง ๆ 
     

    แค่นี้ก็ยอมแพ้จนไม่เหลืออะไรอยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว


    ดวงตาเสมองแก้วช็อกโกแลตร้อนที่พร่องไปเกือบครึ่ง ขยับยิ้มกับตัวเองยามนึกถึงสัมผัสอบอุ่นจากเจ้าของแก้วสีเหลืองพาสเทลนี้



    ผมก้มลงประทับจูบทางอ้อมตรงปากแก้ว ตำแหน่งเดียวกับที่ผมแกล้งเขาเมื่อครู่นี้ ... อีกครั้ง









    End














    ? ครั้งก่อนเขียนเพราะฝนตกหนัก ครั้งนี้เขียนเพราะอากาศร้อนค่ะ แดดแรงเกินไป

    ? ธีมหลักของเรื่องนี้คือ จูบทางอ้อม นะคะ

    ? ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่มั้ยว่าเขาคบกันแล้ว คู่ข้าวใหม่ปลามัน /จุดพลุ แอบหยอดคู่คุณประธานบริษัทกับคุณสัตวแพทย์มาเล็กน้อย พอจะเดาออกมั้ยคะว่าใครคู่ใคร 5555555

    ? อยากรู้ว่ามินฮยอนรู้สึกยังไงกับแมวของเขา เพลง Everything ของ Michael Buble จะบอกทุกอย่างค่ะ

    ? ถือโอกาสลงฟิคสรรเสริญความคนจริงของฮวังด้วยเลย ตั้งแต่มมคีบเสื้อน้องแล้ว รู้สึกได้ว่าคนๆนี้ไม่ธรรมดา 55555 ยกให้เขาเป็นพระเอกของน้อง(ในฟิค)ก็เพราะงี้แหละ แมนชห เป็นคนประเภท I do what I want ที่ชวนให้ใจเต้นจริงๆ 


    ❤️ สุดท้ายนี้มีอะไรติชมบอกได้ที่ #anonymfics หรือ @anonymfics นะคะ ขอให้สนุกกับการอ่านค่ะ





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in