เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ดูแล้วอยากบอกต่อthefirstofmine
King Arthur: Legend Of The Sword ทำไมถึงสร้างศัตรู ในเมื่อเราสร้างมิตรได้




  • วันนี้มีหนังเข้าใหม่ 2 เรื่อง ประจวบเหมาะกับการที่ต้องออกมาข้างนอกอยู่แล้ว เราก็ตัดสินใจเดินเข้าโรงหนัง แต่เมื่อคืนมีรอบสื่อใช่มั้ยล่ะ เราก็เจอกับคอมเม้นท์หนังอีกเรื่องที่มีคนไม่ค่อยโอเค บวกกับความที่เราไม่ได้พิศวาสอะไรเทือกนั้น (เพราะกลัว) เราก็เลยเลือกเรื่องที่เราคิดว่าเราดูได้แน่นอน นั่นก็คือเรื่อง King Arthur: Legend Of The Sword แทน



    แต่เราก็ไม่ได้สนใจดูเทรลเลอร์ก่อน รู้แต่แค่ว่า Jude Law แสดงด้วย กับลุง Aiden ก็เลยดูเรื่องนี้ก็แล้วกัน ตอนแรกคิดว่าในโรงคนจะน้อย ปรากฏว่าเต็มไปหมดเลยจ้า ทั้งไทย จีน ฝรั่ง เต็มเกือบทุกแถวเลย




    กำกับโดย Guy Ritchie (ที่เคยกำกับ The Man from U.N.C.L.E., Sherlock Holmes เป็นต้น)
    บทภาพยนตร์โดย Joby Harold, Guy Ritchie, Lionel Wigram 
    เรื่องโดย David Dobkin และ Joby Harold 
    ความยาว 126 นาที 


    สถานที่ถ่ายทำก็จะมีที่
    • Snowdonia, Gwynedd, Wales, UK
    • Leavesden Studios, Leavesden, Hertfordshire, England, UK
    • Capel Curig, Conwy, Wales, UK
    • Scotland, UK


    มาดูเหล่านักแสดงกันบ้างดีกว่า
    Charlie Hunnam รับบทเป็น Arthur Pendragon 
    Astrid Bergès-Frisbey รับบทเป็น The Mage (หลายๆ ที่ตั้งข้อสังเกตว่าเธอแสดงเป็น Guinevere ในอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง) (The Mage = The Magician)
    [เธอเป็นสาวสเปน พ่อเป็นชาวสเปน แม่เป็นชาวอเมริกันที่มีเชื้อสายอังกฤษและฝรั่งเศส พูดได้ทั้งภาษาสเปน ฝรั่งเศส คาตาลัน อังกฤษ][[เจอครั้งแรกเราก็หลงเลยอ่ะ ช่วยด้วย ฮืออออออ]]

    Jude Law รับบทเป็น Vortigern 
    Eric Bana รับบทเป็น Uther Pendragon
    Katie McGrath รับบทเป็น Elsa (เธอเคยแสดงเป็น Morgana ในซีรี่ส์เรื่อง Merlin ด้วย แนะนำๆ) 
    Aidan Gillen รับบทเป็น Bill (ลุงเล่น Sing Street แล้วก็เรื่อง Game of Thrones ฯลฯ)

    Kamil Lemieszewski รับบทเป็น Merlin และ
    Rob Knighton รับบทเป็น Mordred




    เราจะไม่เล่าประวัติของคิงอาเธอร์นะ เดี๋ยวจะยาว แล้วหลายๆ คนก็น่าจะรู้อยู่แล้ว 


    [เบื้องหลังในกองถ่าย]






    อยากรู้เรื่องย่อคร่าวๆ สามารถดูได้ที่




    กลัวพิมพ์ๆ ไปเองแล้วจะกลายเป็นการสปอยซะเปล่า เดี๋ยวจะเสียอรรถรสในการดู







    สำหรับเรา เรื่องนี้มาพร้อมกับความน่าตื่นเต้น ตั้งแต่เปิดเรื่องมาเลย ทำให้เราลุ้นอยู่ตลอดเวลา แล้วก็ลำดับการตัดต่อ ลำดับการเล่าเรื่อง เป็นอะไรที่ชวนติดตามมาก (คราวนี้หลังเราแทบไม่ติดเก้าอี้เลย เพราะลุ้นระทึกตลอดเวลา)



    มันจะมีช่วงที่ซอฟท์ๆ ลงมาหน่อย แต่ก็ไม่นาน เหมือนเว้นช่วงให้หายใจนิดนึง ก่อนจะถูกจับกดลงน้ำอีกที เพราะมัน ฟฟฟฟ มาก แถมเพลงประกอบก็ทำให้เรื่องยิ่งตื่นเข้าไปอีก มันเข้ากับจังหวะ เข้ากับทุกๆ อย่างภายในเรื่อง





    โทนของเพลงประกอบ ไม่ได้ทำให้ดูเก่า และน่าเบื่อ เช่นเดียวกับการเล่าเรื่อง มันทำให้เราได้เห็นว่าการเล่าเรื่องคิงอาเธอร์ที่ทำมาไม่รู้กี่รอบแล้ว มีความสดใหม่ เหมือนกับเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ (ถถถถถ) 



    ความเท่ของนักแสดงที่เข้ากับบทบาท การเล่าเรื่องที่เจ๋ง กับซีจีที่งามตา เพลงประกอบที่โคตรเฟี้ยว ทำให้เรารู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องแนะนำให้คนอื่นๆ ได้ดูกันจริงๆ



    ส่วนเสื้อผ้านักแสดง เป็นรายละเอียดนึงที่เราชอบมากๆ เลยนะ ดูไม่เก่า แต่ก็ไม่ทันสมัย มันเป็นการผสมผสานให้ดูคลาสิกแบบสมัยใหม่ (งงมั้ย) อย่างชุดของวอร์ติเกิร์นและทีมงานทหารของเขา มันดูเรียบ แต่ทรงพลัง







    เราชอบในความฉลาดของอาเธอร์ ที่ฉลาดใช้คน ฉลาดในการต่อรอง เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีวาทะศิลป์ดี และฉลาด มีไหวพริบ สามารถเดาเกมล่วงหน้าได้ และวางแผนกลยุทธ์ดี




    ตัวละครอื่นๆ ในเรื่องที่ให้การสนับสนุนอาเธอร์ก็ใช่ย่อย เป็นคนเก่ง มีฝีมือ และความสามารถสูงกันทั้งนั้น แถมยังไว้ใจได้ (ยกเว้นคนนึง) จงรักภักดี และยึดมั่นในตัวอาเธอร์ด้วย (ลุง Aiden น่ารักมาก น่ารักแบบอยากจะจับปั้นเป็นก้อนแล้วเอามาอมไว้-----)





    มาถึงสาว The Mage เป็นตัวละครที่เราเพิ่งเคยเจอแล้วรู้สึกว่า เห้ย นางมีของแน่นอน แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ด้วย (ถ้าตามตำนาน คนที่คอยช่วยเหลืออาเธอร์คือเมอร์ลินใช่มั้ยล่ะ แต่เรื่องนี้แตกต่างออกไป แต่ก็ยังคงเป็นความช่วยเหลือจากเมอร์ลินอยู่ดีนั่นแหละ)






    ดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ เป็นอะไรที่เราเห็นแล้วก็ยังรู้สึก ว้าว เหมือนกับทุกๆ ครั้งที่ดูเรื่องราวของคิงอาเธอร์ 




    ส่วนฉากสู้กันแต่ละฉาก เราโคตรชอบเลย เหมือนดูเกมต่อสู้ที่ความละเอียดสูงมากๆ มีความตื่นตาตื่นใจในฉากสู้ ฉากหลบหนี แถมเพลงประกอบก็ช่วยส่งอีก ยิ่งทำให้เราตื่นเต้น ลุ้นตามไปอีกเรื่อยๆ ยิ่งฉากสุดท้ายด้วยนะ เหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลกนึงเลย 






    ส่วนวอร์ติเกิร์น เป็นตัวร้ายที่หล่อ เท่ คูล และโหดเหี้ยม จนทำให้เราอยากจะเข้าไปตบเรียกสติมากๆ เลย เวลามองแล้วทำให้รู้สึกเหมือนเด็กที่จ้องจะเอาชนะในทุกๆ อย่าง เอาทุกๆ อย่างมาเป็นของตัวเองงี้ แอบสงสารเหมือนกันแหละ แต่ก็นะ ตัวร้ายที่หล่อแต่น่าตบอ่ะ 55555 บางฉากนี่เราก็กลัวนะ บางฉากก็อดขำไม่ได้








    แต่ตัวละครบางตัวออกมาแล้วทำให้เราสงสัยว่ามาทำไม (มันมีเฉลยอยู่ในเรื่องนี่แหละ เพียงแค่ความรู้สึกตอนแรกที่ดูยังงงๆ อยู่) ทั้งๆ ที่ใจจริงเราอยากให้ออกมาเยอะกว่านี้ก็ตาม-------








    ส่วนเพลงประกอบนี่ติดหูเราทุกเพลงเลย จนต้องกลับมาหาฟังเพิ่ม



    เพลงประกอบได้ Daniel Pemberton เป็นคนทำ





    สามารถฟังแบบเต็มๆ ได้ที่ >> https://lnk.to/kingarthurTW






    ปิดท้ายด้วยลุงคนหล่อละกัน สำหรับบล็อกนี้ก็จบลงเท่านี้ ถ้าใครยังตัดสินใจไม่ได้ ก็อยากให้เลือกเรื่องนี้ดูกัน แนะนำให้ดูในโรง เพราะซีจีอลังการจริงๆ ชอบมาก



    ใครดูแล้วชอบ ก็มาคุยกับเราได้ที่ @first_17 น้า 





เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in