หลังจากที่ห่างหายไปนานจาก ดูแล้วอยากบอกต่อ วันนี้เรากลับมาพร้อมกับหนังใหม่ที่กำลังเข้าโรงเรื่อง Robin Hood เราได้บัตรไปดูกับเพื่อนและน้อง ขอบอกว่าสนุกมากๆ ว่าจะไปดูซ้ำอยู่เลยเนี่ย
บท ตัวละครและฉากบู๊คือดีมากๆ เราว่าเรื่องนี้แซะศาสนจักรช่วงยุคมืดได้สนุก แล้วก็พูดเรื่องอำนาจของคนด้วย ฉากพูดปลุกระดมคือดี ชอบๆๆ อยากให้ไปดูกัน
Robin Hood กำกับโดย: Otto Bathurst ผู้กำกับที่เคยฝากฝีมือไว้กับ Peaky Blinders, Black Mirror ซีรีส์สุดโด่งดัง
บทภาพยนตร์โดย: Ben Chandler และ David James Kelly
นักแสดงนำโดย:
Taron Egerton (ทารอน เอ็ดเจอร์ตัน) รับบทเป็น Robin of Loxley Jamie Foxx รับบทเป็น Little John Ben Mendelsohn รับบทเป็น Sheriff of Nottingham Eve Hewson รับบทเป็น Marian Jamie Dornan รับบทเป็น Will Scarlet Tim Minchin รับบทเป็น Friar Tuck
VIDEO
ไปดูตัวอย่างกันก่อนเลยจ้า ส่วนตัวดูแล้วรู้สึกว่ามันไปในโทนเดียวกันกับ
King Arthur: Legend of the Sword แต่ Robin Hood มันเน้นคิวบู๊ ส่วน King Arthur มันใช้เวทย์มนตร์ผสมหน่อยๆ ถามว่าสนุกมั้ย สนุกมาก สนุกไม่แพ้กันเลย
แถมเรื่องนี้ก็โปรโมทมาตลอดว่าฉากบู๊นี่เล่นจริง โนซีจี โนมุมกล้อง ไอ้เราก็คิดว่าจะมีแค่ในเทรลเลอร์เหมือนหนังเรื่องอื่นๆ แต่เอาจริง มันเยอะกว่านั้น ฉากบู๊คือดี ดูแล้วลุ้นตามตลอด ชอบฉากสโลว์โมชันด้วย ทำดีๆ
บทและตัวละคร เราว่าเขาทำออกมาได้สนุก แซะเรื่องอำนาจ ศาสนจักรในยุคมืด และเสียงของประชาชนได้ดีระดับหนึ่งเลยล่ะ (ชอบจุดที่แซะศาสนจักรมากๆ) ตัวละครดูมีมิติ มีที่มาที่ไป และไม่ใช่มาอย่างล่องลอย แล้วก็ลอยกลับไปนิ่มๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
การวางแผนของตัวละครและการปลุกระดมก็เป็นอีกจุดที่ชอบ โดยเฉพาะการพูดต่อหน้าสาธารณชนเพื่อปลุกระดมนี่แหละ รู้สึกฮึกเหิมและอยากที่จะเข้าร่วม แล้วก็เราชอบการแทรกมุกตลกเข้ามา มันไม่พร่ำเพรื่อ ดูแล้วเอ็นจอยดี มีเสียงหัวเราะดังลั่นตอนดูในโรง และดีใจที่ไม่เน้นเรื่องความโรแมนติกของตัวละคร คือเอาเข้ามาเบรคเพื่อให้หนังไม่บู๊จนเกินไป
ฉากในสนามรบครูเสด ชุดทหารโคตรเหมือนทหารในเกมที่ไปรบกลางทะเลทรายเลย แต่ชอบนะ เท่ไปอีกแบบ ไม่เก่าจนเดิมๆ ชุดพวกขุนนางคือสวย มันเท่มากๆ (สงสัยอีกแล้วว่าทำไมโรบินมันถึงมีชุดได้) อีกอย่างคือตัวนักแสดงนำคนอื่นๆ เราชอบการแต่งกายที่เปลี่ยนไปตามบทบาทและสถานะ แม้จะเป็นคนเดิม สถานะเดิม แต่บทบาทเปลี่ยนไป ชุดเปลี่ยน ทรงผมก็เปลี่ยนตามไปด้วย
ศาสนจักรช่วงยุคมืดคือยุคมืดจริงๆ จ้องแต่อำนาจเพื่อรวบรวมเข้าศูนย์กลาง อ้างว่าทำเพื่อพระเจ้า (ถามก่อน พระเจ้าบอกให้สู้หรอ) กอบโกยอำนาจและเงินทองเข้าตัวเอง ช่วงนั้นศาสนจักรเป็นใหญ่ (เออ ใหญ่จริง เป็นยุคมืดที่ไม่ค่อยมีใครมาบอกกัน)
เราชอบเรื่องที่พูดถึงเสียงของประชาชน เมื่อผู้มีอำนาจกอบโกยทุกสิ่งทุกอย่างไป ประชาชนทำได้แค่เรียกร้อง และเมื่อเรียกร้องไม่ได้ผล โดนบีบบังคับ มันก็ขึ้นอยู่กับว่าประชาชนจะยืนหยัดสู้ต่อไป หรือจะหนีเอาตัวรอด
มันมีประเด็นที่สอดแทรกเข้ามาและมันเข้ากับในยุคปัจจุบันด้วย คนเราต่างกระหายอำนาจ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่พยายามแสวงหาอำนาจ แต่พอคนเริ่มคิดที่จะต้องการอำนาจให้มาอยู่ในมือแล้วนั้น ความชิบหายจะมาเยือนประชาชน บางคนใช้ข้ออ้างว่าต้องการความยุติธรรม แต่จริงๆ แล้วคุณแค่ต้องการอำนาจให้มาอยู่ในมือของคุณต่างหากล่ะ
เอาเป็นว่า แนะนำให้ไปดู ไม่ผิดหวังแน่นอน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in