[รีวิวหนังสือ 06] "インシテミル７日間のデス・ゲーム ห้องสมควรตาย" - อ่านมา เล่าไป

ชื่อเรื่อง インサイトミル | The Incite Mill | ห้องสมควรตาย ผู้เขียน Honobu Yonezawa ผู้แปล มโนภาพ สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ ราคา 265 บาท

ถึง คุณผู้อ่าน

"รับสมัครงาน ‘มอนิเตอร์‘ ”
คุณสมบัติ
- ไม่จำกัดเพศ วัย วุฒิการศึกษา
- งานพิเศษหนึ่งสัปดาห์ เป็น"มอนิเตอร์" สำหรับการทดลอง คุณจะถูกจับตามองตลอด 24 ชั่วโมง
- อาหารสามมื้อพร้อมห้องส่วนตัว จ่ายเงินให้ตลอดแม้แต่ตอนนอนหลับ ผลงานดีมีโบนัสทวีคูณ
รายได้ชั่วโมงละ 112,000 เยน
***อยู่ในห้องใต้ดินปิดตาย, มีอาวุธลับให้คนละชิ้น, ฆ่าใครตายได้รางวัลเพิ่ม, ชี้ตัวคนร้ายได้รางวัลเพิ่ม, ห้องนอนไม่มีตัวล็อก, ห้ามออกจากห้องตอนกลางคืน, ห้ามนอนรวมกัน ฯลฯ สนใจติดต่อ SHM Club***

กติกาสำหรับอังกิคัง

กฎข้อที่ 1） แต่ละคนจะมีห้องส่วนตัวที่ไม่มีการล็อค 1 ห้อง
กฎข้อที่ 2） แต่ละคนจะได้รับอาวุธเพชฌฆาต 1 ชนิด เพื่อใช้ป้องกันตัว หรือเพื่อฆ่า แล้วแต่ผู้สมัคร
กฎข้อที่ 3） ห้ามออกจากห้องเวลา 4 ทุ่มถึง 6 โมงเช้าของอีกวัน
กฎข้อที่ 4） หากมีอะไรเกิดขึ้น 'ผู้เป็นสายสืบ' ต้องแก้ปัญหานั้น
กฎข้อที่ 5) วิธีแก้ปัญหาจะถูกตัดสินโดยเสียงโหวตข้างมากเป็นส่วนใหญ่
กฎข้อที่ 6） หาก 'ผู้ร้าย' ถูกเลือกโดยเสียงโหวตข้างมาก 'ผู้เป็นสายสืบ' ต้องตัดสินการกักขัง 'ผู้ร้าย'
กฎข้อที่ 7） การทดสอบจะสิ้นสุดลงในวันที่ 7 หรือเมื่อเหลือ 'ผู้รอดชีวิต' สองคน
กฎข้อที่ 8） ส่วนที่เพิ่มเข้ามา ต่อไปนี้จะเป็นการให้เงินรางวัลเพิ่ม เพื่อเป็นรางวัลสำหรับภารกิจ
ดังต่อไปนี้:

　　　　　โบนัสสำหรับผู้เป็นสายลับ... จ่ายเพิ่มเท่าตัว
　　　　　โบนัสสำหรับผู้ร้าย... จ่ายเพิ่มเท่าตัว
　　　　　โบนัสสำหรับผู้ตาย... จ่ายเพิ่มเท่าตัว

กติกาเกี่ยวกับกลางคืน (เพิ่มเติม)

กฎข้อที่ 1）ในช่วงกลางคืน 'การ์ด'(Guard) จะออกลาดตระเวนตรวจดูห้องต่างๆตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ยกเว้นห้องส่วนตัว แต่ในกรณีที่มีคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของห้องอยู่ในห้องส่วนตัวใด 'การ์ด' จะไปลาดตระเวนที่ห้องส่วนตัวห้องนั้นด้วย

กฎข้อที่ 2）ในช่วงกลางคืน หากผู้ใดถูก 'การ์ด' พบเห็นเข้าขณะออกจากห้องส่วนตัว จะถูกการ์ดเตือน
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ถูก'การ์ด'ตักเตือนซ้ำกันสามครั้ง หาก'การ์ด'พบเห็นขณะออกนอกห้องส่วนตัวอีก จะถูก'การ์ด'สังหาร

คุณจะมาร่วมงานกับเราไหม
"ห้องสมควรตาย" เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้เอาตัวรอดในที่เกิดเหตุจำกัดของคน 12 คน ในอาคารที่เตรียมไว้สำหรับการทดลอง ชื่อว่า 'อังกิคัง หรือ หอแห่งความหวาดระแวง' โดยรายละเอียดของเกมการแข่งขันในรูปแบบงานพาร์ทไทม์นี้ จะเป็นการทดลองเชิงจิตวิทยาในระยะเวลา 7 วัน ผู้สมัครทั้ง 12 คน ก็เป็นเพียงคนธรรมดาที่มีเป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือ พวกเขาต่างต้องการเงินรางวัลเพื่อเหตุผลบางประการ

ในวันที่สองของการทดลอง สิ่งแรกที่ทำให้บรรยากาศในอังกิคังเปลี่ยนไปตลอดกาล คือศพของหนึ่งในผู้ร่วมเล่นเกมได้ถูกพบ และทุกคนต่างตื่นตระหนก ทว่าพวกเขาต้องอยู่ในบ้านไปอีก 6 วัน และ พวกเขาต่างไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการทำตามกฎและชี้ตัวฆาตกร

พวกเขาจะใช้เวลาอีก 6 วันอย่างไร จะยอมถูกฆ่าหรือเป็นฝ่ายฆ่าผู้อื่น หรือ หลบหนีเอาชีวิตจนถึงเวลาที่กำหนด ความหวาดระแวงภายใต้สถานการณ์ที่พวกเขาไม่รู้ว่าใครจะทำร้ายพวกเขาแต่ละวินาทีในอาคารที่มีพื้นที่จำกัดไว้

ความรู้สึกหลังอ่าน

ด้วยจำนวนหน้าที่มีเกือบสี่ร้อยหน้า ทำให้ผู้เขียนสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆได้เยอะ และ วิธีการเล่าเรื่องที่ทำให้คนอ่านอย่างเราอ่านแล้วรู้สึกอึดอัด(ตามความรู้สึกของตัวละคร) หวาดระแวง และพยายามไขปริศนาในอังกิคังไปด้วย ยิ่งด้วยข้อมูลของทั้งสิบสองคนที่ให้มาน้อยมาก และไม่ได้เล่าถึงพื้นเพของแต่ละคน ทำให้ทุกตัวละครมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นฆาตกร

โยเนซาวะ โฮโนบุได้ใช้หลักการจิตวิทยาและเน้นการคิดวิเคราะห์ของตัวละครในการบรรยาย โดยใช้ตัวเอก ยูกิ เป็นตัวเล่าเรื่องผ่านมุมมองของเขาและเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนผู้อ่านนั่นเอง ดังนั้น เป็นหลักประกันว่าตัวละครนี้ไม่น่าตายก่อนแน่ๆ ซึ่งหากตัวยูกิเจออะไรในเรื่อง ก็จะเป็นเบาะแส หรือ ได้เห็นทฤษฎีและความเป็นไปได้ของตัวละครอื่นแน่นอน

การที่มีถึงสิบสองตัวละคร แน่นอนว่าอ่านไปช่วงแรกๆเราจะยังจำชื่อตัวละครทั้งหมดไม่ได้อยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ผู้เขียนเองก็ได้กระจายบทให้ตัวละครที่เหลือได้ดี ทำให้อ่านไปซักพักก็จะจำได้เอง

นิยายเรื่องนี้ยังมีเวอร์ชั่นภาพยนตร์อีกด้วย โดยมีฟูจิวาระ ทัตซึยะ(ยางามิ ไลท์ จากเรื่อง Deathnote) เป็นนักแสดงนำ ตัวภาพยนตร์ได้ออกฉายตั้งแต่ปี 2010 ส่วนฉบับหนังสือได้แปลออกมาช่วงปี 2015 และตัวภาพยนตร์ที่เข้าฉายในไทย ใช้ชื่อว่า "10 คน 7 วัน ท้าเกมมรณะ" ส่วนตัวได้ลองหาเวอร์ชั่นหนังดูหลังอ่านเวอร์ชั่นหนังสือจบ ต้องบอกว่ามันต่างกันลิบลับเลย ในหนังสือดีกว่ามากๆ เวอร์ชั่นในหนังพล็อตเรื่องจะเปลี่ยนไป ไหนจะตัวละครหายไปสองคน หุ่นยนต์การ์ดเปลี่ยนโฉม และที่สำคัญ บุคลิกของตัวละครแต่ละตัวก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เลยได้ข้อสรุปชัดเจนมากว่าเราชอบเวอร์ชั่นหนังสือมากกว่า

สรุปได้ว่า หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบนิยายแนวสืบสวน ที่ใช้หลักจิตวิทยาในการไขปริศนา และ มีเรื่องเกม หรือ การเดิมพันมาเกี่ยวข้อง "The Incite Mill ห้องสมควรตาย" ก็เป็นอีกหนึ่งเล่มที่ควรค่าแก่การอ่าน

จาก GEMinite

"รับสมัครงาน ‘มอนิเตอร์‘ ”

คุณจะมาร่วมงานกับเราไหม

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น