มาร์ตี้ บัลเดช นายเอกที่กำลังโดนแม่จับคู่กลับไปคบแฟนเก่าสุดแย่ (แต่แม่ไม่รู้) เขาเลยต้องไปหาตัวแก้สถานการณ์นี้ที่บาร์เกย์ แต่ไม่น่าเชื่อว่าที่นั่นเขาได้พบคนในอุดมคติมาแก้ปัญหาจริง ๆ ! 

             ลุค ไมเยอร์เจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่กำลังโดนตามล่า จวนตัวจนต้องขโมยรถ แต่เจ้าของรถดันจับได้เสียนี่ ! แต่ว่าข้อเสนอในการช่วยให้เขาหลบหนีกลับน่าตกใจยิ่งกว่า แกล้งเป็นแฟนงั้นเหรอ เจ้าหน้าเอฟบีไออย่างเขา...เรียกว่ายิ่งกว่าง่ายในการอินในบทบาทนี้ !

             แม่ครับคนนี้แฟนผมทำเราตกใจอยู่สองอย่าง หนึ่งคือเล่มบางกว่าที่คิด สองคือ...เอ๋ ! นี่เล่มแรกหรอ แต่พออ่านจนจบก็ถือว่าจบในเล่มแล้ว เราเลยเดาว่าอาจจะมีเล่มต่อในแง่ ซีรี่ส์ One Fine Day เรื่องนี้ถือว่าเป็นนิยายฝั่งตะวันตกเล่มแรกในรอบหลายปีของเราเลย เพราะถ้าให้พูดตามตรง เราไม่ค่อยอ่านงานฝรั่ง (ไม่ชินสำนวนเวลาบรรยาย) และในเรื่องนี้สิ่งที่จะทำให้เรารู้สึกสะดุดที่สุด คงเป็นการแปล เราว่ายังไม่ลื้นเท่าไร ( หรือก็คือตัวเราอาจจะไม่ชินเอง )

           เนื้อเรื่องน่าสนใจทั้งในการวางบุคลิกนายเอกให้เป็นคนชอบสร้างตัวละคร (ในจินตนาการ) ออกมาหลอกคนอื่น เพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ลำบาก (อันนี้เหมือนเป็นปัญหาเล่นได้เยอะมากในแง่เนื้อเรื่อง) ส่วนพระเอกเป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่มีอดีตอันขมขื่น (อันนี้ก็มีเนื้อให้น่าเขียนถึง) ทว่าเนื้อเรื่องเดินเกี่ยวกับปมนายเอกเป็นหลัก คือการพาพระเอกไปหลอกแม่ว่าเป็นแฟน เพื่อให้แม่เลิกจับตัวเองกลับไปหาแฟนเก่าที่นิสัยแย่สุด ๆ แต่เรื่องหลอก ๆ นี้ ก็แฝงด้วยการไล่ล่าระหว่างเอฟบีไอ และพ่อค้ายาตัวเป้ง ที่จะนำอัตรายต่าง ๆ นานาเข้ามาในบ้านของนายเอก...แต่จะกลัวทำไม พระเอกของเราอยู่ทั้งคน (5555)

           เรื่องราวความรักเรียกว่าคนในอุดมคติโครจรมาพบกัน พอมีเรื่องให้หลอกทำให้มาใกล้ชิดกัน เลยกลายเป็นน้ำมันกับไฟ ส่งเสริมกัน และกันอย่างดี ในหนึ่งเล่มบาง ๆ อัดแน่นด้วยเรื่องราวของสองคนในเวลาสามวันเอาไว้ทั้งหมด เอาจริง ๆ เราว่าเป็นเรื่องราวความรักที่เร็วมาก แต่โอเคก็มัน One Fine Day อ่ะเนอะ

            ดังนั้น เรื่องนี้สามารถอ่านชิลได้ด้วยพล็อตตรง (แต่มีความหักมุมให้ว้าวอยู่เหมือนกันค่ะ) เราคงจะหยิบมาอ่านซ้ำอยู่ แต่เอาจริง ๆ นะ เราคิดว่าแม่ครับคนนี้แฟนผมเล่นเรื่องได้ยาวกว่านี้อ่ะ เสียดายยย

ขอบคุณภาพจาก Rose Publishing

Chadang