เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายฉบับคนชอบดองChadang
รีวิว ดาบบรรพกาลวสันต์หวนคะนึง (จบ)


  • ดาบบรรพกาลวสันต์หวนคะนึง (จบ)

    ผู้แต่ง มู่ซูหลี่

    ผู้แปล มิชานา

    ผู้วาด KERU

    สำนักพิมพ์ Minerva Book

    เรื่องย่อ

           ฉีเฉิน ได้เข้ามาเป็นพนักงานใหม่ในบริษัทอนุรักษ์วัตถุโบราณแห่งหนึ่ง ซึ่งหน้าที่แรกที่เขาได้รับมอบหมายให้ทำ คือ การซ่อมแซมดาบ ‘หลงหยา’ ดาบปีศาจบรรพกาลในตำนาน เมื่อมาอยู่ในมือของฉีเฉินสิ่งที่เขาพอจะทำได้คือการถือตะไบและเตรียมเชื่อมเหล็กให้กับดาบอย่างระมัดระวังตามปกติ ทว่าหัวหน้าต่งผู้มอบหมายงานหลังฟังสิ่งที่ฉีเฉิงกำลังทำกลับทำหน้ากลืนไม่เข้าคายบอกออกบอกเขาอย่างอ่อนโยนว่า เบามือกับดาบเล่นนี้สักหน่อยล่ะ แม้จะไม่เข้าใจ แต่ฉีเฉิงก็พยายามสุดความสามารถ ถึงสุดท้ายแล้วดูเหมือนว่า เขาก็ยังสร้างความแค้นใจให้ดาบบรรพกาลเล่มนั้นโดยไม่รู้ตัวอยู่ดีก็ตาม



    ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลางถึงมาก)

           อ่าน ดาบบรรพกาลวสันต์หวนคะนึง จบปุ๊บ ก็รีบมาปั๊บ ก่อนจะหมดเวลาพักร่างค่ะ 55555 ช่วงนี้ยังจัดการเวลาของตัวเองไม่ได้ กว่าจะอ่านนิยายจบเล่มสักเรื่องหรือได้หยิบสักเล่ม แทบจะหลั่งน้ำตาเลยล่ะค่ะ สำหรับดาบบรรพกาลฯ เรียกว่าเป็นหนึ่งในลิสต์เรื่องที่เตรียมอ่านตั้งแต่ได้มา แต่สุดท้ายก็ต้องวางไว้บนตั้งกองดองเหงาๆ อยู่นานทีเดียวค่ะ คาดว่าหลายคนคงได้สัมผัสเนื้อเรื่องกันมาแล้ว ด้วยเป็นนักเขียนที่ชอบ ตอนซื้อก็คือกด Box แบบไม่ต้องคิดซ้ำ ตอนเลื่อนส่งก็ไม่ได้ซีเรียสค่ะ แต่การเกลาและพิสูจน์อักษรเป็นเรื่องที่ต้องคอมเม้นต์ไว้จริงๆ ว่าหลุดเยอะมากๆ ทว่าตัวเรื่องสนุก เคมีตัวละครเข้ากันดี จนเราอ่านต่อเนื่องจนจบ เลยอดแอบเสียได้ไม่ได้ค่ะ ที่เรื่องการแปลลดทอนความลื้นไหลอยู่บ้างจริงๆ ใดๆ เรื่องราวของดาบบรรพกาลฯ เป็นอย่างไร ทำไมดูมีปัจจุบัน-อดีตทับซ้อนกัน มาค่ะ ปูเสื่อฟังเราเล่าสักครู่



    ค่ำคืนหิมะตก อย่ามีอารมณ์สุนทรีย์ออกเดินชมถนน

         ฉีเฉิน เข้ามาเป็นพนักงานทดลองงานสามเดือนในบริษัทที่ขึ้นชื่อเหมือนอนุรักษ์และพิทักษ์วัตถุโบราณแห่งนี้ แรกเริ่มเดิมที เขาก็ได้รับมอบหมายให้ซ่อมแซม ‘หลงหยา’ ดาบปีศาจบรรพกาลให้ดี ภายหลังทำภารกิจเสร็จสิ้น ก็ดูเหมือนเขาจะกลายเป็นคนว่างงานเมื่อเทียบกับคนอื่น แต่ชีวิตเขาก็ไม่ได้เงียบเหงาเกินไปเมื่อมี หัวหน้า ‘หลง’ ที่ดูจะมีชื่อเหมือนดาบเล่มนั้น เข้ามาแวะเวียนเจอกันและทักทายราวกับจะระเบิดใส่อยู่ตลอดเวลา ฉีเฉินพยายามหลบเลี่ยงอีกฝ่าย แต่เหตุประหลาดอย่างการ นอนละเมอเดิน ที่ตื่นขึ้นมากลางถนนในคืนหิมะตก และมี หัวหน้าหลง คนปากร้ายช่วยเอาไว้ก็ทำให้เขาเข้าใจต่อนิสัย ปากร้ายแต่ใจอ่อนของอีกฝ่ายมากขึ้น ในส่วนของการนอนละเมอเดินแปลกๆ ของเขา กับคำเตือนของหัวหน้าหลงว่าอย่าออกไปไหนตอนมืดค่ำ ฉีเฉินยังไม่สามารถเชื่อมโยงสองอย่างเข้าด้วยกันได้ ทว่าเขาก็ยังระมัดระวังตัว กระทั่งจำเป็นต้องรับนัดเพื่อนของเขาอีกครั้งในเวลาเลิกงาน…



    อันว่าอนุรักษ์วัตถุโบราณ แท้จริงคือดูแลให้มาทำงานเป็นระบบอย่างดี

            หลังตกตะลึงระหว่างที่หัวหน้าหลงแปลงกลับจากดาบมาเป็นคน โลกทัศน์ของ  ฉีเฉินก็เปลี่ยนทันที บริษัทของเขาไม่ใช่บริษัทธรรมดา นอกจากเขาแล้ว ทุกคนในบริษัทล้วนเป็นวัตถุโบราณ ตั้งแต่อาวุธอย่างดาบ แส้ ทวน ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้อย่างถ้วยชามรามไห เรียกว่าสร้างความตกตะลึงแก่ฉีเฉิงแล้วจริงๆ ทว่าเรื่องงานตัวเขาก็ยังนับว่าว่างกว่าใครๆ จนขันอาสาไปช่วยงานคนโน้นคนนี้ จะมีก็แต่หัวหน้าหลง ที่แรกเริ่มเดิมทีดูไม่ชอบหน้ากันเท่าไร แต่ไม่รู้ทำไมหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายนั้น กลับตัวติดเขาอย่างกับเงา สืบคดีก็เป็นเรื่องของท่านหัวหน้าแท้ๆ ทำไมยังต้องหิ้วมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งอย่างเขาไปด้วยล่ะ? ทว่าเหตุการณ์แปลกประหลาดไม่หยุดหย่อน ทำให้ฉีเฉินที่แต่เดิมคิดว่าตนเป็นเพียงลูกหลงที่ถูกจับมาล่อให้หลงหยาลงมือช่วยคน เริ่มคิดแล้วว่า เรื่องราวต่างๆ กำลังพุ่งเป้ามาที่ตัวเขาต่างหาก มนุษย์อย่างเขาไปมีบุญคุณความแค้นอะไรให้สิ่งลี้ลับพากันวิ่งมาหาด้วยหรือ!?



    เพียงนอนหลับ ครู่เดียวเท่านั้น

              ความรักของคู่นี้ในสองเล่มให้ความรู้สึกกรุ้มกริ่ม กุ๊กกิ๊ก จั๊กจี้ใจ สำหรับเรามากๆ เลยค่ะ โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ยังคลุมเครือไม่เฉลยปมปริศนา ก็อดใจเต้นตามการปกป้องดูแลของหัวหน้าหลงตามฉีเฉินไม่ได้ ตัวเราเป็นคนชอบความสัมพันธ์แบบที่พัฒนาแบบเป็นธรรมชาติ ในเรื่องนี้เรารู้สึกว่าค่อนข้างไปเร็วอาจจะด้วยเนื้อหาที่สองเล่มจบและปมเบื้องหลังของทั้งสองคน แต่ความธรรมชาติของการสกินชิป ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่เราชอบ ก็คือ ดีงามมมมากกกค่า แรกๆ การบรรยายเล่าจะดูไม่ใส่ใจ จะมีดีดหน้าผาก อุ้ม โอบเอว หรือเข้าใกล้ ก็ดูเป็นเรื่องปกติ นักอ่านได้แต่เอ๊ะว่า ปกติใช่ไหม สักพัก ฉีเฉิน ถึงเริ่มเปิดเผยว่า แบบนี้จริงๆ ไม่ปกตินะ อย่างน้อยต่อใจเขาน่ะ ไม่ปกติ! แต่หลงหยาคนนั้นไม่รู้เอกการแสดงหรือไม่คิดอะไรจริงๆ ถึงทำไปแบบหน้าไม่มีแดงสักนิดเดียวว จังหวะนั้นได้แต่ลุ้นลังเลๆ ไปกับฉีเฉินที่เขินจนหูแดงเลยค่ะ ตกลงหัวหน้าหลงแกล้งซื่อหรือหยอดจริงคะ!?


              ดาบบรรพกาลวสันต์หวนคะนึง ยังคงสไตล์คุณนักเขียนที่ผูกโยงเรื่องราวคดีเล็กๆ ลากโยงใยไปยังคดีใหญ่ชนิดที่มีโลกทั้งใบเป็นเดิมพัน ไม่ต่างจากเหรียญทองแดงปราบพิภพเลยค่ะ ใครเคยผ่านเหรียญทองแดงมาแล้วน่าจะพอนึกบรรยากาศของเรื่องออก เพียงแต่ด้วยจำนวนเล่มที่ต่างกัน เรื่องดาบบรรพกาลฯ จึงน่าเสียดายตรงตัวละครต่างๆ มีเรื่องราวผูกความรู้สึกไม่ลึกซึ้งเท่าค่ะ แต่ถึงอย่างนั้น การดำเนินเรื่องที่พาไปจนถึงจุดพีค ยังทำให้เราลุ้นในทุกๆ ฉาก เอาใจช่วยทุกๆ ตัวละคร และรักจนไม่อยากจะเสียใครไปในนาทีเป็นตายเลยล่ะค่ะ ถ้าเพิ่มเรื่องราวแต่ละคนอีกนิด หรือขยี้ความรักระหว่างฉีเฉินในอดีตกับหลงหยาอีกสักหน่อย เราบอกได้เลยว่ามีเสียน้ำตาจนจุกทั้งใจค่ะ เพราะแค่บอกเล่าเท่านี้ ก็รู้เลยว่าวันเวลาหลายร้อยปีของหลงหยา ไม่น่าผ่านมาง่ายๆ อย่างเจ้าตัวพูดเล่าเท่าไรค่ะ ฮือออออ

           อย่างไรก็ตามม เรื่องนี้มีสองเล่มจบ ค่อนข้างกระชับ เนื้อเรื่องแนวแฟนตาซีปราบปีศาจ ผสมการสืบสวนเล็กๆ สำหรับเราคืออ่านสนุกเพลินๆ มากค่ะ จะเสียดายก็ตรงที่เล่าไปก่อนหน้านี้ ในเรื่องของการแปลทำให้มุกตลกหรือความซึ้งในบางจุดลดทอนลงไปค่ะ ถ้าเป็นไปได้ อยากขอฝากสำนักพิมพ์ให้ใส่ใจเพิ่มอีกสักหน่อย เพราะโดยส่วนตัวอ่านแล้วการแปลถ้าได้เกลาอีกสักนิด พิสูจน์อักษรอีกสักหน่อยอาจจะเข้าที่เข้าทางกว่านี้ค่ะ ถึงอย่างนั้นก็ยังมีจังหวะและฉากที่ชอบหลายฉากเลยค่ะ โดยเฉพาะการโอดครวญของหัวหน้าหลง ที่บ่นฉีเฉินอย่างระอา (แต่ก็ยังดูแลไม่ห่าง) ว่า พ่อเจ้าประคุณทูนหัว (555555) มีความเหนื่อยใจ เอ็นดูและรักมากกก จนยอมเธอแล้วในคำๆ เดียวของคุณเขาเลยล่ะค่ะ



    >> ชวน Talk เพ้อเจ้อตัวละครและเรื่องราวระหว่างนั้นของหัวหน้าหลง (สปอยล์มาก)


    By Chadang

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in