รีวิว+Talk Walk on Water เล่มพิเศษ
ผู้เขียน Jangmokdan
ผู้แปล ณิชา
ผู้วาด Pazran
สำนักพิมพ์ Rose
เรื่องย่อ
----
ถ้าสนใจอยากรู้แนวและไม่อยากโดนสปอยล์มาก ๆๆๆ
มีสปอยล์มาก ๆๆๆ >> รีวิว Walk on Water เล่ม 3-4
ความรู้สึกหลังอ่าน (มีสปอยล์สำหรับเล่มพิเศษปานกลางถึงมากค่ะ)
ด้วยหลายๆ อย่างกลับมาครั้งนี้ด้วยเรื่องสั้นๆ ที่มีโอกาสได้จับและรีวิวลงในทวิตสักพักแล้วกับ Walk on Water Special side story ค่ะ ชีวิตที่เดินมาอย่างไม่ง่ายของ เอ็ด ในที่สุดเขาก็ได้ตกลงคบกับ เกล็น แม็คควีน อย่างจริงจังอีกครั้ง และเรื่องราวหลังจากนั้นของพวกเขาแบบไม่สั้นไม่ยาวเป็นอย่างไร คนรอบตัวของเอ็ดปฏิบัติกับเขาแบบไหน เรื่องราวของเขากับเกล็นที่เปิดเผยกับโลกนอกสุดท้ายแล้วเป็นอย่างไรบ้าง รวมถึงไรอันกับเซซิล ชีวิตที่เริ่มต้นใหม่ของพวกเขากำลังเดินไปในทิศทางแบบไหน Walk on Water Special side story เป็นเล่มที่เติมเต็มในทุกคำถามเหล่านี้สำหรับเราค่ะ และอีกครั้งที่ต้องขอขอบคุณทางพี่นาคที่ส่งเรื่องราวส่งท้ายของทั้งคู่มาให้นะคะ สำหรับเล่มนี้เป็นอย่างไรบ้าง เราของเล่าไป Talk ไปพร้อมแบบไม่สั้นไม่ยาวค่ะ
การบันทึกความรู้สึก ณ ชั่วเวลานั้น
เชื่อว่าหลายคนที่คลิกมาอ่าน Walk on Water Special side story นี้ คงจะมีทั้งคนที่ติดตามเรื่องราวมาจนเล่มสุดท้ายแล้วข้องใจว่า ในเล่มพิเศษเรื่องราวเป็นอย่างไรต่อ และคนที่อ่านเรียบร้อยแล้วอยากหาที่เมาท์ด้วยกัน (เดานะคะ 5555) แกนหลักของเล่มนี้ เราให้ที่ประโยคที่ว่า “การบันทึกความรู้สึก ณ ชั่วเวลานั้น” เลยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นทางคุณเกล็นที่พกกล้องชุดใหญ่เพื่อบันทึกการเดินทางตลอดเดือนถึงสองนี้กับเอ็ด และเอ็ดที่หยิบสมุดบันทึกเรื่องราวทุกครั้ง (?) เมื่อหยุดพักตามสถานที่ต่างๆ อารมณ์ของเดิมนี้ให้ความรู้สึกเป็นภาพยนตร์ ออนเดอะโรด สำหรับเราค่ะ เป็นการติดตามคู่รักคู่หนึ่งที่หลังผ่านเรื่องราวหนักๆ และใช้ชีวิตของแต่ละคนพักใหญ่ๆ ก็ได้มีเวลาร่วมกันในการเดินทางท่องเที่ยวทางไกลในครั้งนี้เสียที จุดเริ่มต้นของการเดินทาง อาจจะบังเอิญและเรียบง่าย จากอุบัติเหตุที่เอ็ดเผชิญ ดังนั้นเมื่อได้วันหยุดชดเชยมาฟรีๆ เขาและคุณเกล็นจึงวางแผนช่วงเวลาอันหาได้ยากนี้ร่วมกัน โดยมีเอ็มพา อีกหนึ่งสมาชิกของครอบครัวที่เหลืออยู่ของเอ็ด ถูกหอบหิ้วตะลอนทัวร์ไปด้วย
บรรยากาศการเดินทางเต็มไปด้วยการตั้งตารอคอย ความอบอุ่นและความรักที่อัดแน่นของทั้งสองคน ที่เราค่อนข้างชอบตอนอ่าน ก็คือวิธีการเล่า ที่เป็นบันทึกของเอ็ด สลับความเป็นจริงที่มีกล้องของคุณเกล็นตั้งอัดอยู่ มันให้ความรู้สึกถึงการเดินทาง ความรู้สึก และความทรงจำในชั่วเวลานั้นของทั้งสองคน พูดตามตรงว่าทุกจังหวะที่คุณเกล็นแบกกล้องและคอยคุยถามตอบกับเอ็ดในเล่มนี้ ให้ความรู้สึกเทาๆ แต่อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ ค่ะ สัมผัสได้ว่าทำไมเขาบันทึกภาพทุกเวลา ไม่ว่าจะต้องแบกกล้องขึ้นเขาหนักขนาดไหน สัมผัสได้ถึงความไม่พอที่จะเก็บภาพจำของคนที่รักเอาไว้เพียงในความทรงจำของเขา ที่อาจจะลืมเลือนรายละเอียดไปตามกาลเวลา เป็นความรู้สึกของเรื่องที่เราชอบและค่อนข้างประทับใจค่ะ
ฉันคือผู้บุกเบิกเส้นทาง ฉันจะลิ้มรสของทุกถนนตลอดชีวิต ถนนสายนี้ไม่มีสิ้นสุด
หากถนน เปรียบเหมือนชีวิต การได้เดินเคียงคู่กันของเอ็ดและแม็คควีน คงเป็นถนนสายใหม่ที่ทั้งสองคนได้ทดลองก้าวเดินไปพร้อมๆ กัน ในเส้นทางการเดินทางในเล่มพิเศษนี้ เหมือนเป็นการทดสอบการอยู่ร่วมกันว่าพวกเขามีความเข้ากันได้อย่างที่คิดจริงๆ ไหม และคำตอบที่พวกเขาได้ ก็คือมากกว่าที่คิดไปไกลมากเลยล่ะค่ะ ท่ามกลางความยากลำบากของการใช้ชีวิตและการเดินทาง พวกเขากลับเข้าใจได้ดี และโหยหาอ้อมกอดของกันและกันมากกว่าที่คิด สิ่งที่น่าติดตามมากๆ ก็คือ ภายหลังเอ็ดเห็นคำว่า ‘แต่งงาน’ ที่แม็คควีนค้นหา เขาก็เริ่มมองถนนเส้นนี้เป็นชีวิตคู่ที่ต้องพิจารณาจริงจังเสียที หลังกำแพงบางอย่างยังขวางกั้นอยู่ในใจ เรายังชอบความขมนิดๆ ที่คุณเกล็นเสียดสีตัวเองว่า ใครจะเชื่อว่าคนอย่างเขาจะค้นหาคำว่าแต่งงาน และมองหาสถานที่ที่พร้อมให้เกย์สองคนจูงมือขึ้นไปในจุดนั้น ขณะที่เอ็ดฟัง เจ้าตัวก็ยืนยันหนักแน่นว่า สำหรับเขา เขาไม่กลัว …ไม่กลัวที่จะไปยืนตรงจุดนั้นกับแม็คควีน ในฐานะคู่แต่งงาน ทว่าสิ่งที่ขวางอยู่จริงๆ มีเรื่องเดียว คือเขาไม่เคยพิจารณาอย่างจริงจัง
บันทึกเรื่องราวนี้ ใครจะมาดูกันนะ
ท้ายที่สุด บันทึกการเดินทางทั้งหมดก็ยังถูกคุณเกล็น ผู้กำกับภาพยนตร์ตัดต่อออกมาเป็นเรื่องราวของคนรัก ให้คนรักของเขาได้ดู ได้บอกถึงภาพความรู้ต่อเอ็ดผ่านมุมมองของเขา ว่าคนรักของเขาคนนี้ล้ำค่าแค่ไหน มีชั่วจังหวะหนึ่งในเล่ม ที่เอ็ดพูดถึงการเสี่ยงตายในหน้าที่ อย่างเป็นธรรมชาติและค่อนข้างภูมิใจ ขณะที่แม็คควีนเลือกที่จะกดความรู้สึกห่วงเอาไว้ เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศ และสุดท้ายคุณนักเขียนยังดึงจุดนี้มาขยี้ พร้อมบอกเล่าความรู้สึกแม็คควีนให้เรารับรู้ผ่านสายตาเอ็ดอีกที ทำให้เรารู้สึกว่าสุดท้ายแล้วคนนี้ก็ยังเลือกเอ็ดเป็นอันดับแรก เขาไม่บอกให้เอ็ดเลิกทำอะไร และไม่บอกให้เอ็ดเลือกอะไร และไม่ใช้ถ้อยคำที่ชักจูง หรือ บังคับ แต่เกล็น แม็คควีน เลือกที่จะบอกตามตรงว่า สำหรับเขาแล้วโลกนี้เอ็ดสำคัญแค่ไหน และเขาหวังจากใจว่าเอ็ดจะดูแลตัวเองให้ดีมากขึ้น…
สำหรับเราแล้ว…นี่คงเป็นอีกเรื่องที่ฉากบอกรักไม่พูดว่ารัก ฉากขอแต่งงาน ไม่พูดสักคำว่าขอแต่งงาน แต่ภาพวิดีโอทุกอย่างกลับเล่าออกมาอย่างชัดเจน
Walk on Water Special side story แท้จริงแล้ว ในมุมของเรา นี่คือเล่มบันทึกที่เอ็ดเขียนนั่นเองค่ะ จะมีบ้างที่ถูกสอดแทรกมุมมองของแม็คควีน แต่ภาพรวมแล้วทั้งเล่ม คือ บันทึกความรู้สึก ก่อนเริ่มเดินบนถนนสายใหม่ของคนทั้งคู่ แน่นอนว่าใครที่อยากรู้อัปเดตทางไรอัลและเซซิลเอง ก็มีในเล่มเช่นกันค่ะ เรียกได้ว่า เล่มพิเศษ เป็นการปิดจบเรื่องราวที่สมบูรณ์สำหรับเรามากๆ ทุกฉากในเรื่องมีภาพเคลื่อนไหวอยู่ตลอด กระทั่งฉากสุดท้าย เรายังรู้สึกเหมือนดูซีรี่ย์ ที่กล้องวิ่งตามเอ็ด ไปยังร้านกาแฟแห่งนั้น…ที่ที่แม็คควีนรออยู่
ผ่านความขมและหน่วงกันมาสี่เล่ม ในที่สุดก็คอมพลีสเนอะคะ เป็นนิยายอีกหนึ่งเรื่องที่เราเขียนออกไปในทางหวีดไม่ค่อยออก เพราะทุกครั้งที่อ่าน บรรยากาศเรื่องมักพาไปในทางคลุ่นคิดซะมากกว่า ส่วนเรื่องเอ็นซีในเล่มบางๆ นี้ไม่ได้แผ่วปลิวตามตัวเล่ม แต่ก็ไม่ได้เน้นหนักมากเท่าไร หลายครั้งมีเป็นการเล่าผ่านๆ เพื่อให้เห็นถึงพัฒนาการความรู้สึกตัวละครเพื่อส่งท้ายไปยังจุดจบค่ะ ใดๆ นี่น่าจะเป็นเรื่องยาวเรื่องแรกที่ทางพี่นาคส่งให้ทั้งชุด เราก็ใส่ความรู้สึกแบบจัดเต็มซะทุกเล่มเลยทีเดียว (55555) ต้องขอบคุณอีกครั้งนะคะ สำหรับนิยายที่อัดแน่นด้วยประสบการณ์ชีวิตตัวละครเรื่องนี้ ประทับใจมากเลยค่ะ สุดท้ายแล้ว Walk on Water เป็นแนวใครทางใครก็หาจับจองกันได้นะคะ แอบเห็นภาพอีกแบบเริ่มลงแล้วแว้บๆ (อย่าลืมพิจารณาแนวและคำเตือนต่างๆ ดีๆ นะคะ ไม่ใช่อย่าฝืนนน) ทางนี้กำลังเล็งภาพอาร์ตตัว Box ซึ่งสวยสำหรับเราเลยค่ะ ตั้งใจว่าจะหาจังหวะเก็บอีกรอบ
//ส่วนแบบการ์ตูนซื้อครบ 100% รอโอกาสเหมาะไปทลายกองดองอยู่ค่ะ << มีกองดองทุกแบบแล้ว 55555
By Chadang
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in