ชาลาในอนธการ เล่ม 1

The Light in The Night

ผู้เขียน Priest

ผู้แปล Ayacinth

ผู้เรียบเรียง JinYue

ผู้วาด VREKX

เรื่องย่อ

        คดีที่มีผู้เสียชีวิตในช่วงเวลาอ่อนไหวของเมือง ทำให้กรมตำรวจที่รับผิดชอบในเขตพื้นที่นั้น ต้องการรีบปิดคดีแบบส่ง ๆ ทว่าทางกรมตำรวจนครได้ส่งทีมของ ลั่วเหวินโจว เข้ามาจับตาดูความผิดปกติในการทำคดี สุดท้ายสืบเสาะกันไปเรื่องราวก็พัวพันเข้ากับทายาทเศรษฐีรุ่นที่สอง ซึ่งมี เฟ่ยตู้ เข้ามาเป็นผู้เกี่ยวข้องด้วย …คดีที่ทั้งสองสืบหาแล้วซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ กลับเป็นสิ่งที่คว้าจับปมเจ็ดปีที่ทำให้กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาคลี่ออกมาดูให้กระจ่างอีกครั้ง พวกเขาจะพบคำตอบที่ปลายทางว่าอะไร?

ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลางถึงมาก)

       คิวถัดมาของรอบงานหนังสืออ ชาลาในอนธการ เล่ม 1 ถามว่ากลัวค้างไหม กลัวมากค่ะ กลัวจะตามฆ่าหมาป่าไป แต่ถามว่าหยิบอ่านเลยไหม …หยิบค่ะ ยอมมมม …และก็อ่านลื่นยาว ๆ จบในคืนเดียวค่ะ คาดว่าหลายคนน่าจะกังวลเรื่องสูตรไขว้กันไม่มากก็น้อย ซึ่งจุดนี้อยู่ที่การรับได้ของแต่ละคนเลยค่ะ โดยส่วนตัวแล้วอยากลองดูว่าเป็นยังไง แอบเสียดายที่ไม่ได้อ่านทดลองอ่านก่อนหน้านี้เลยไม่สามารถเทียบได้จริงจังว่าอารมณ์แตกต่างมากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าเท่าที่ได้อ่านฉากที่มีคนลงเทียบ ความรู้สึกเรามองว่า ตัวละคร เฟ่ยตู้ จากเดิมที่ดูสุภาพ จริงจัง ฯลฯ พอมาในด้านของฉบับที่เราอ่าน เขามีด้านแพรวพราว หยอกล้อเพิ่มมาด้วย ตรงนี้อาจจะเป็นเพราะได้บทพูดหยอด ๆ จีบ ๆ เพิ่มมา อย่างเช่น “คุณภรรยา” เมื่อตัวละครที่เป็นเกย์ได้ความรักของเขาคืน เราเลยรู้สึกว่าบุคลิกในตัวเล่มดูเป็นธรรมชาติกว่าค่ะ

       *ใด ๆ นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น และเราอ่านเทียบทันแค่เท่าที่มีคนลงค่ะ ในส่วนของความยอมรับได้ หรือไม่ได้แต่ละคนไม่เท่ากัน ถ้าจะเทียบจริงจังอาจจะต้องรอคนที่เคยอ่านต้นฉบับมา รีวิวอีกครั้งค่ะ *

     ดังนั้นการเล่า และการหวีดต่อไปนี้จะอ้างอิงเฉพาะตัวเล่มที่เป็นสูตรไขว้ค่ะ ใครสนใจเราแนะนำให้ทดลองอ่านก่อนได้นะคะ และก่อนจะเล่าเนื้อหากัน เราขอแปะ

คำเตือน: นิยายสืบสวนเล่มนี้มีการบรรยายถึงการฆาตกรรม เลือด ความตาย ใช้ความรุนแรง ความเจ็บปวดทางจิตใจ ภาวะเจ็บป่วยทางจิต การล่อลวง หรือชักนำให้คล้อยตาม การค้ามนุษย์ การล่วงละเมิดทางเพศ บีบบังคับ การเสพติดสุราและยา และการเหยียดชนชั้น

สีแดงและสีดำ

          ลั่วเหวินโจว หัวหน้าตำรวจทีมสืบสวนอาชญากรรม แห่งกรมตำรวจนคร ได้รับมอบหมายจากเจ้ากรมให้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจับตามอง การสืบสวนของกรมตำรวจเขตที่มีคดีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นในช่วงที่เมืองของพวกเขากำลังเป็นเจ้าภาพจัดงานอันยิ่งใหญ่ ด้วยรู้ว่าหัวหน้ากรมฝั่งเขตจะต้องปิดคดีส่ง ๆ แน่ ๆ ทีมลั่วเหวินโจว จึงได้รับมอบหมายหน้าที่เสริมอย่างการ ‘จับผิด’ เพื่อหาทางกำจัดมะเร็งร้าย ไม่ให้ขึ้นมามีอำนาจมากในอนาคต ทว่าการสืบสวนเริ่มต้นเหมือนคดีปล้นชิงทรัพย์ธรรมดา กลับสืบแล้วพบว่ามีความเกี่ยวพันซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะทางฝั่งลูกผู้ดีมีเงิน อย่างทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจาง ซึ่งเป็นหลานของหัวหน้ากรมตำรวจนคร ทำให้กระแสมวลชนเริ่มมีการวิพากษ์มากขึ้น ลั่วเหวินโจววางแผนรับมือการโจมตีกลับจากคนใน และรับมือกระแสด้านนอกอย่างใจเย็น ทว่าสมองเขายังแบ่งมาทำงานปะทะฝีปากกับ เฟ่ยตู้ ที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ไปด้วย …เจ้าเด็กนี่จะคุยกับเขาดี ๆ สักสิบนาทีไม่ได้รึไงนะ!

ความจริงอันโหดร้าย

       เฟ่ยตู้ หรือประธานเฟ่ย หนึ่งในทายาทเศรษฐีรุ่นที่สอง ที่ก้าวนำลูกบ้านอื่นด้วยการได้นั่งบน "บัลลังก์" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากพ่อของเขาประสบอุบัติเหตุเป็นเจ้าชายนิทรา ส่วนแม่ของเขาเสียชีวิตไปนานแล้ว ตระกูลเฟ่ยเหลือเขาแบกรับเพียงคนเดียว นั่นจึงสร้างความเคารพยำเกรงระดับหนึ่งในคนรุ่นเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าพวกที่คิดแง่ร้ายก็มีไม่น้อย ภารกิจของประธานเฟ่ยในช่วงนี้นอกจากบริหารบริษัท ก็คือการตามจีบนายตำรวจเถา รองหัวหน้าของทีมลั่วเหวินโจว และเป็นเพื่อนสนิทของหัวหน้าลั่วอีกด้วย ถึงแม้การไปสถานีตำรวจจะต้องเจอกับคนที่ไม่ชอบหน้า แต่เมื่อมีคดีเข้ามาและดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับเขาในทางอ้อม เฟ่ยตู้ก็เลือกที่จะลงมือช่วยคนที่ชอบสืบคดีเท่าที่ทำได้ โดยไม่คาดคิดเลยว่า คดีที่ดูไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลยนี้จะเป็นตัวขุดบาดแผลเมื่อเจ็ดปีก่อนระหว่างเขากับ ลั่วเหวินโจว ออกมาทำการรักษาอย่างจริงจัง

ตลอดเจ็บปีที่ผ่านมา ฉันไม่เคยลืมนาย

          เล่มแรกนี้เปิดตัวความสัมพันธ์ของทั้งสองคนแบบคู่กัดตลอดกาลเจอกันไม่ได้ เป็นต้องเปิดศึกค่ะ ยิ่งต่างก็ชอบคนคนเดียวกัน รู้ไส้กันดี ยิ่งมีการแกล้งกัน โดยคนกลางอย่างนายตำรวจเถาไม่รู้ (ถึงรู้ก็คงยกมือกุมขมับแล้วถอนใจ 5555) แต่พอเรื่องดำเนินไป พร้อมเปิดปมอดีตเรื่อย ๆ เราก็จะพบว่าในแต่ละจุดที่เผยออกมาจะทำให้ลั่วเหวินโจวมองเห็นอารมณ์บางอย่างของเฟ่ยตู้ชัดเจนขึ้น และทางเฟ่ยตู้เองก็เริ่มจะมองลั่วเหวินโจวในตอนนี้ชัดเจนมากขึ้นเช่นกัน เราชอบที่เขาตีกัน แต่จริง ๆ เยื่อใยเจ็ดปี ก็ทำให้อดห่วงไม่ได้ คนหนึ่งรู้ว่าอีกคนไปลุยที่อันตรายคนเดียว ก็ยังแวะไปจนช่วยอีกฝ่ายทัน ส่วนอีกคนก็พยายามจะเข้าหา เพื่อบอกความในใจว่า เจ็ดปีมานี้ ฉันอยากให้นายเริ่มต้นใหม่ด้วยใจจริง …และแบบอีกคนก็รับฟัง แล้วเขาก็พร้อมเริ่มต้นใหม่จริง ๆ เรายิ้มมาก ๆ ตอนคุณลั่วแทนตัวเองว่า พี่ รู้เลยว่าเขาอ่อนลงมาก ๆ และที่น่าเอ็นดูสุดคือความทาสแมวของหัวหน้าลั่วค่ะ ขำมากตอนบอกว่า แรก ๆ เกลียดแมวและสุนัข แต่พอเลี้ยงน้องแมวแทนเฟ่ยตู้มาเจ็บปีก็คือยอมให้ตัวเองเป็นแค่คนตักอึ เป็นทาสผู้แสนดีที่พยายามทำงานกลับบ้านมาเทอาหารให้ 555555 แล้วครึ่งหลังที่ความสัมพันธ์เขาเริ่มดีกันอะค่ะ …คุณลั่วเขาเริ่มเทียบเฟ่ยตู้เหมือนแมว…เอ ยังไงต่อไปดีน้า

            ยังไม่นับฉากหมุนตัวหากลิ่นน้ำหอมนี้ของใครอีกนะคะ //อิโมจิปิดปากขำแซว

         ชาลาในอนธการ เล่มแรกสำหรับเราเป็นการเปิดฉากคดีใหญ่ ซึ่งตัวเล่มนี้ก็จบไปคดีหนึ่งแล้วมีปมวางต่อไปหาอีกคดีหนึ่งค่ะ เห็นในคำนำบอกว่ามีทั้งหมดห้าคดี ไม่รู้ทำไมเรารู้สึกว่าคดีสุดท้ายอาจจะเป็นของเฟ่ยตู้ เดาเล่น ๆ ไว้ก่อนละกันนะคะ ช่วงฉากจบเรารู้สึกเหมือนดูซีรี่ย์สืบสวนแบบค้างซีซันเลยค่ะ กำหมัดมาก ๆ แต่ในส่วนของตัวเอกทั้งสองคือเคลียร์ใจกันเรียบร้อย น่าติดตามว่าจะเริ่มต้นความสัมพันธ์ต่อไปยังไง ในส่วนของการหวีดนั้น ประธานเฟ่ยคือดีงามค่ะ ส่วนเราก็มองหัวหน้าลั่วน่าจะเป็นคุณพ่อที่ดี อบอุ่นมาก กะตำรวจหญิงในทีมก็แทนตัวว่าตัวเองเป็นคุณพ่อ ละกับนักโทษที่ถูกส่งไปบำบัดเขายังลูบหัวทั้งสองคนว่า ผ่านเคราะห์ใหญ่ละเนอะ ต่อไปก็กลับตัวซะนะ แบบบบบบ อบอุ่นมากพี่ชายยย

         เราไม่กล้าเล่าลงรายละเอียดคดีเท่าไรค่ะ แบบว่าน่าติดตามไปลุ้นกันในเล่มดีกว่า เพราะมันเกี่ยวโยงกับเบื้องหลังตัวละครด้วย ใครชื่นชอบแนวสืบสวน ตัวเอกน่าจะเคมีแบบคู่รักคู่กัด และยังมีความทีมสืบสวนที่น่ารักอบอุ่น สามารถทดลองอ่านได้ก่อนพามาเข้าชั้นค่ะ ส่วนเรา…เล่มสองออกเมื่อไรคะเนี่ย ;---;

By Chadang