ครึ่งเซียนพาร์ตไทม์ เล่ม 1 (ยังไม่จบค่ะ)
ผู้เขียน ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ
ผู้แปล isamare
ผู้วาด Kuro Hyou
สำนักพิมพ์ Lilac
เรื่องย่อ
เซี่ยหลิงหยา นักศึกษาการจัดการการเงินที่ต้องการเรียนต่อปริญญาโท ต้องมาสืบทอดกิจการอารามเป้าหยางกะทันหัน เมื่อคุณลุงของเขาเสียชีวิตลงโดยไม่มีสัญญาณบอกกล่าว ด้วยพรสวรรค์ของเซี่ยหลิงหยาที่มีกระดูกเซียนที่อก ทำให้เขาเรียนรู้คาถาและการวาดยันต์ได้อย่างรวดเร็ว ทว่าภารกิจบนบ่าของเขายังคงหนักอึ้ง นอกจากต้องขยับขยายกิจการของอารามเป้าหยางแล้ว เขายังต้องมองหาลูกศิษย์ให้กับลุงเพื่อสืบทอดอารามแห่งนี้อย่างเป็นทางการ จนกระทั่งเขาพบกับ ซือฉางเสวียน นักพรตฆราวาสผู้มากด้วยทักษะที่สืบทอดมาจากครอบครัว เซี่ยหลิงหยาไม่รอช้าที่จะวิ่งเข้าไปหาอีกฝ่าย เพื่อสร้างความสนิทสนมและความประทับใจของสำนักกับอีกฝ่าย โดยไม่รู้เลยว่าวิธีการของเขาอาจจะทำให้ใครเขาเข้าใจความหมายของการเข้าหานี้ผิดไปป
ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลางถึงมาก)
ต่อเนื่องแนวปราบผีกับ ครึ่งเซียนพาร์ตไทม์ อีกหนึ่งผลงานของคุณ ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ ผู้เขียน ผมเป็นเจ้าของสวนสัตว์ (6 เล่ม จบแล้วว) I love farming ผมแค่อยากปลูกผักส่วนความรักน่ะ... (น่าจะ 4 เล่มจบ ออกเล่ม 1) และขุนนางพาร์ตไทม์ (5 เล่ม จบแล้วว) เรื่องนี้มีทั้งหมด 4 เล่มจบค่ะ ถ้าใครเคยอ่านผลงานก่อนหน้าดังกล่าวมาก่อน น่าจะพอนึกสไตล์กันออก คุณนักเขียนค่อนข้างบรรยายเรื่อย ๆ ค่อยเป็นค่อยไป ในสถานการณ์ต่าง ๆ เรื่องราวไม่เน้นความรัก ค่อนข้างเน้นการสร้างตัวของตัวเอก พระเอกแต่ละคนมีบทบาทน้อย แต่เวลาออกแต่ละครั้งน่ารักจนต้องทุ่มหมอนนน แต่ว่า! ซือฉางเสวียนคนนี้มีบทบาทโดดเด่นมากเลยค่ะ!! ส่วนตัวรู้สึกว่าครึ่งเซียนบาลานซ์ดีระหว่างเนื้อหาความรัก เคส ปมและธุรกิจ ค่อนข้างอ่านง่ายกว่าสวนสัตว์ที่เน้นธุรกิจสร้างการเติบโตของกิจการ และบรรยากาศครึ่งเซียนมีความลุ้น เอาใจช่วยและตื่นเต้นมากกว่าขุนนางที่บรรยายและมีบรรยากาศค่อยเป็นค่อยไป ถ้าใครกำลังสนใจเรื่องนี้ เพราะใช่แนว แต่อ่านเรื่องก่อนหน้าแล้วรู้สึกไม่ใช่ทางเลยลังเล มาลองแวะฟังเราเล่าก่อนได้นะคะ //ตบเบาะนั่ง
สวัสดีครับ ผมไม่ใช่นักพรตที่ไหน แค่ทำงานนี้เป็นพาร์ตไทม์เท่านั้น
เซี่ยหลิงหยา มีพรสวรรค์ด้านการศึกษาคัมภีร์เต๋าเป็นพิเศษ เพราะเขามีกระดูกเซียนที่อก ทว่าครอบครัวเขาไม่สนับสนุน บวกกับมีเรื่องราววัยเด็ก ทำให้เขาเลือกที่จะขยันเรียนจนกระทั่งจบการศึกษา และเตรียมตัวสอบเขาปริญญาโทรอบที่สอง โดยไม่คิดว่าสุดท้ายเขาก็ยังจำเป็นต้องเดินกลับมาเส้นทางสายนี้ เพราะลุงที่เป็นเจ้าอารามเป้าหยางหมดอายุขัยอย่างกะทันหัน ด้วยไม่มีศิษย์สืบทอดวิชาและตำแหน่ง คุณลุงจึงจำต้องฝากอารามและการตามหาศิษย์ผู้มีพรสวรรค์ไว้บนบ่าหลานชายคนนี้ แน่นอนว่าเซี่ยหลิงหยาไม่ทำให้คุณลุงผิดหวัง อย่างน้อยในการเริ่มต้นก้าวแรกอย่างการศึกษาวิชาประจำสำนัก ชายหนุ่มก็ทำได้ดี สามารถซึมซับความรู้ทั้งหมดได้ด้วยความรวดเร็ว แถมยังประยุกต์ใช้จริงทันทีอย่างน่าทึ่ง ทว่าคนที่ไม่เคยศึกษาเส้นทางนี้มาก่อน อย่างไรก็ยังมีจุดอ่อนและเรื่องที่ทำไม่ได้ เซี่ยหลิงหยา จึงตัดสินใจไปร่วมงานอำนวยพรของเหล่านักพรตที่อารามใหญ่ และได้พบกับคนที่ดึงดูดความสนใจของเขาได้ในที่สุด!
ขอแอบคลำอกคุณสักหน่อยว่ามีกระดูก (เซียน) เหมือนที่ผมมีไหม
ซือฉางเสวียน เป็นนักพรตฆราวาสที่มีชื่อเสียง ไม่ใช่ด้วยพรสวรรค์ แต่เพราะเขาได้รับการสืบทอดวิชาเต๋ามาจากทางบ้านตั้งแต่ยังเด็ก นั่นทำให้เขามีจิตใจที่มั่นคง มีความรู้หลากหลายศาสตร์วิชา และแม่นยำในพิธีการต่าง ๆ อย่างมาก ที่ทำให้เซี่ยหลิงหยาประหลาดใจคือ อีกฝ่ายทำงานนี้เป็นพาร์ตไทม์เหมือนกับเขา ตอนนี้อีกฝ่ายเป็นนักศึกษาปริญญาโทที่มหาลัยเดียวกับเขานี่เองง แม้ว่าซือฉางเสวียนจะดูนิ่งเฉย ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ แต่ไม่เป็นอุปสรรคในการเข้าหาของเซี่ยหลิงหยาแต่อย่างใด ชายหนุ่มวิ่งเข้าหาซือฉางเสวียนอย่างกระตือรือร้น และพยายามหาโอกาสอยู่ข้างอีกฝ่าย เพื่อเรียนรู้ สร้างความประทับใจ ขอการติดต่อและ ...คลำหน้าอกอีกฝ่าย เพื่อดูว่าใช่คนที่เขาตามหาหรือไม่! เมื่อสบโอกาสเห็นอีกฝ่ายหลับตาพักหลังจากปิดเคสได้ เซี่ยหลิงหยาไม่รอช้าที่จะลองคลำดู โดยไม่รู้ว่าซือฉางเสวียนยังไม่หลับ...และเขากำลังมองเซี่ยหลิงหยาด้วยความสับสน
นักพรตซือ...มาพักอยู่อารามเป้าหยางกับฉันไหม
สำหรับครึ่งเซียนพาร์ตไทม์ เล่มแรกนั้นนน ยังไม่มีสถานการณ์ความรักเป็นพิเศษค่ะ 55555 แต่ตัวเนื้อเรื่องทั้งสองคนต้องไปทำคดี ปิดเคสต่าง ๆ ด้วยกันบ่อยมาก ๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ จนกระทั่งเซี่ยหลิงหยาสามารถชักชวนนักพรตซือของพวกเรา เข้าไปอยู่อารามตัวเองได้แล้ววว เจ้าตัวดีใจมากที่ดึงคนมาอยู่กับตัวเองได้ แบบนี้เขาจะได้สร้างความประทับใจมาก ๆ กับอีกฝ่ายได้ง่ายขึ้น เป้าหมายในการชวนอีกฝ่ายมากราบลุงเขาเป็นศิษย์ก็คงอีกไม่ไกล ! แต่ว่า!! ถ้าทุกคนได้อ่านเล่มนี้อาจจะรู้สึกแบบเราไหมคะ ว่าพี่ซือเขาคอยมองน้องเซี่ยตลอด แบบจ้องเหมือนคิดอะไรอยู่ ยอมไปไหนมาไหนด้วย แม้แต่ตอบตกลงมาอยู่ด้วย จากนิสัยของเขาแล้ว นับว่าโอนอ่อนง่ายกว่าที่เราคิดเยอะเลยค่ะ น่ารักมากก ตอนนี้สองคนอยู่ด้วยกันดูเป็นไปด้วยดีมาก ๆ ไม่ใช่แค่เซี่ยหลิงหยาที่คอยเข้าหาพี่ซือฝ่ายเดียวแล้ว พี่เขาเองก็เริ่มออกมาช่วยเหลือ และชักชวนน้องเซี่ยไปทำภารกิจด้วยกันแล้ว ดีงามมากค่ะ เล่มต่อไปความสัมพันธ์พวกเขาจะไปถึงขั้นไหนนะ!
ตอนเขียนเล่านี้เราอ่าน ครึ่งเซียนพาร์ตไทม์จบแล้วค่ะ แต่ถ้ารู้สึกว่าถ้ารีวิวรวด สงสัยจะหลุดสปอยล์มากกว่าเลยแยกเล่มดีกว่าค่ะ ตอนอ่านเล่มนี้ติดมากจริง ๆ ช่วงแรกก็ลุ้นกับเซี่ยหลิงหยาที่อ่านคัมภีร์และลองทำเคสต่าง ๆ ครั้งแรก เขามีคนเดียว เราก็แอบลุ้นมากหน่อย และที่ลุ้นหนักสุดคือ บทพระเอกของ ซือฉางเสวียนค่ะ กลัวเขาหายไปนาน 555555 แต่ไม่นานเลยค่ะ อาจจะเพราะสองคนเขาต้องสานสัมพันธ์กัน และตัวน้องเซี่ยไม่ได้แม่นการทำพิธี หรือการทำนาย ยังไงก็ต้องคอยถามและคอยลากซือฉางเสวียนติดตัวไปด้วย (55555) ตัวเคสเล่มแรก เราไม่ได้รู้สึกว่าหลอนมากไปค่ะ ยึดตามธรรมเนียมเดิมเหมือนตอนอ่าน ชีวิตนี้ขาดเธอไม่ได้ คืออ่านตีสอง รอดค่ะรอด มีความฮา ออกจะลุ้นด้วย เพราะน้องเซี่ยเราสายลุยค่ะ ต้องมีพี่ซือคอยเบรก ไม่อย่างนั้นวิญญาณคงพากันสลายหมด ไม่ทันได้พูดคุยอะไรกันแล้ว 555555
By Chadang
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in