เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 2

ผู้แต่ง WU ZHE

ผู้วาด Mocon

สำนักพิมพ์ Lavender Publishing

เรื่องย่อ

--- ขอยกไปความเดิมค่ะ ---

รีวิวเล่มสองนี้มีสปอยล์นะคะ

ดูแนวแบบสปอยล์ไม่มาก >> เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 1

ความเดิมของเริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 1

เจี่ยงเฉิง ที่เติบโตมาในครอบครัวในเมืองได้มารู้ความจริงในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อว่าแท้จริงแล้วครอบครัวที่เขาอยู่มาตั้งแต่เกิด ไม่ใช่ครอบครัวที่แท้จริง ความแปลกแยกที่เดิมที่เป็นเพียงภาพที่คิดขึ้นเองพลันกลายเป็นความจริงที่เด่นชัด และโหดร้ายยิ่งกว่าเมื่อคนที่เคยคิดว่าเป็น 'ครอบครัว' ส่งเขากลับไปอยู่กับพ่อที่แท้จริง ซึ่งอยู่ในเมืองชนบทไกลความเจริญที่หนาวเหน็บ เจี่ยงเฉิงที่ถูกส่งออกจากอดีต 'บ้าน' ยืนอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ด้วยความโดดเดี่ยว ...บ้านที่ไม่ต่างจากสลัม พ่อที่ติดเหล้าและการพนัน โรงเรียนที่ไม่มีเพื่อน... ไม่ว่าที่ไหนก็ดูไม่ใช่พื้นที่ของเขาเลย จนกระทั่งเขาพบกับ กู้เหมี่ยว เด็กหญิงตัวน้อยที่หลงทางและไม่พูดจา เธอทำให้เขาพบกับ กู้เฟย คนที่กลายเป็นเพื่อนบ้านข้างซอย เพื่อนร่วมห้องและสุดท้ายกลายเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของเขา เจี่ยงเฉิงที่อยู่บนความสับสนในชีวิตได้อาศัยร้านของกู้เฟยเป็นที่หลบภัยในหลาย ๆ ครั้ง รวมถึงทางกู้เฟยเองก็บังเอิญได้เห็นด้านที่อ่อนแอที่สุดของเจี่ยงเฉิงโดยไม่ตั้งใจ ความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงขยับอยู่ในระดับที่จะว่าไกลก็ไม่ใช่จะว่าใกล้ก็ไม่เชิง กระทั่งการแข่งขันบาสระหว่างห้องมาถึง จากเพื่อนร่วมโต๊ะพวกเขาได้ขยับมาเป็นเพื่อนร่วมทีม ระดับความสัมพันธ์ของพวกเขาหลังจากนี้จะเป็นยังไงนะะ !?

ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลางถึงมาก)

         เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 2 ได้มาปุ๊บเหมือนเดิมเลยค่ะ เราแทบจะอ่านจบในคืนนั้น แต่สุดท้ายก็ติดโน่นนี่จนอ่านจบในวันถัดมาแทนค่ะ เล่มสองนี้บอกได้เลยว่าความสัมพันธ์ของสองเพื่อนร่วมโต๊ะขยับขึ้นจนเราแทบจะหน้าติดกับหนังสือเลยค่ะ เคมีดีมากกก ตัวของเจี่ยงเฉิงเริ่มกลับมาเป็นตัวเองแล้ว กู้เฟยก็คือน่าไม่คิดว่าเจี่ยงเฉิงเป็นกึ่งคนไกลคนใกล้เหมือนเล่มแรกแล้วด้วยค่ะ รู้สึกได้เลยว่าถ้าใครตีเจี่ยงเฉิงต้าเฟยพร้อมบวกกลับแล้วค่ะ >< ที่จะเล่าหลังจากนี้คิดก็คือเรามาหวีดนั่นเองค่ะ 55555555

ฟ้ามืดสนิท ภายนอกห้องเงียบสงัด ยามเปิดหน้าต่างคล้ายผ้าผืนสีดำปกคลุม

         เราค้างกันจากเล่มที่แล้ว เจี่ยงเฉิงถูกดึงเข้าทีมบาส และทางกู้เฟยยอมลงทีมห้องด้วยถ้าเจี่ยงเฉิงลง เล่มสองเราเลยได้สนุกกันต่อกับการแข่งขัน ซึ่งจะทำให้คนอ่านรู้สึกพร้อมกับกู้เฟยเลยว่าเจี่ยงเฉิงเคยเป็นกัปตันทีมบาสมาก่อนแน่ ๆ เพราะนอกจากฝีมือกับตำแหน่งที่ถนัดในทีมแล้ว เขายังสามารถใจเย็น มองจุดแข็งจุดอ่อนของคนในทีมชัดเจน และไม่โทษทีม หรือโทษใครคนใดคนหนึ่งเมื่อทำพลาด เรียกได้ว่าเป็นบุคลิกที่ทำให้เราได้มองเห็นตัวตนเดิมของเขาหลังจากเห็นแต่ภาพระเบิดอารมณ์จากจิตใจที่ไม่มั่นคงของเจี่ยงเฉิงมาเล่มหนึ่งเต็ม ๆ หลังจากการแข่งวอร์มเพื่อทดสอบฝีมือทีมจบลงกู้เฟยก็มีเรื่องของกู้เหมี่ยวให้ต้องรีบกลับบ้าน เจี่ยงเฉิงที่มองว่าตัวเองก็ไม่ได้สนิทอะไรกับอีกฝ่ายมากนักก็ไม่ได้อยากก้าวก่ายชีวิตกู้เฟยมากเท่าไร ทว่าสุดท้ายเขาก็เข้าไปช่วยกู้เหมี่ยวที่มีเรื่องกับเพื่อนที่โรงเรียนระหว่างทางไปโรงพยาบาล และเข้าไปอยู่ในจุดที่กู้เฟยรู้สึกติดค้างจนพาไปฐานลับ (?) กลุ่ม เพื่อเลี้ยงข้าว ...

"ท้องฟ้ามืดสนิทและภายในห้องที่เงียบสงัด ยามเปิดหน้าต่างเหมือนมีผ้าผืนสีดำปกคลุมอยู่ทั่วส่งผลให้คนรู้สึกหนาวขึ้นมาเล็กน้อย แต่เตากับตะแกรงปิ้งย่างตรงหน้ากลับมีไฟแผดเผาสร้างความอบอุ่นไปทั่วทั้งใจ..."

      ตัวตนที่ไม่เคยเห็น ความลับที่พยายามเก็บไว้ในใจ มักจะถูกแง้มเปิดโดยบรรยากาศที่ทำให้ลงมือแบบไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้เอง ...

ขอนายแบบที่มีภาพลักษณ์ 'หนุ่มร้าย' ><

        หลังแข่งบาสในฐานะ "อาวุธลับ" ของห้องแปดอย่างเข้าขา กู้เฟยก็เสนอพาร์ทไทม์ให้เจี่ยงเฉิงที่กำลังมีปัญหากับการเงินแบบได้จังหวะพอดี เมื่อพี่ซินถูกนายแบบและตากล้องผิดนัดกะทันหัน กู้เฟยที่เป็นตากล้องให้บ่อย ๆ จึงดึงเจี่ยงเฉิงที่มีภาพลักษณ์ 'หนุ่มร้าย' ตามคอนเซ็ปต์ที่พี่สาวต้องการไปร่วมงานด้วย การถ่ายแบบครั้งแรกของเจี่ยงเฉิงกลับทำให้กู้เฟยที่มองเขาผ่านเลนส์ได้เห็นมุมต่าง ๆ ของเขาเพิ่มเติม และเริ่มรู้สึกกับอีกฝ่ายไม่เหมือนคนอื่น และอาจจะเพราะแบบนั้น ขากลับที่เจี่ยงเฉิงต้องเผชิญกับปัญหาครอบครัว กู้เฟยจึงตัดสินใจพาอีกฝ่ายกลับบ้านของเขา ... มื้ออาหารที่คนในครอบครัวทำให้ ในห้องเล็ก ๆ ที่นับว่าเป็นห้องในบ้าน ... การแลกเปลี่ยนความลับระหว่างกันอย่างจริงจังของพวกเขาได้เริ่มขึ้นแล้ว ...

ได้พบกับนาย...เป็นโชคดีจริง ๆ 

        เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนักเล่มสองนี้ถือว่าความสัมพันธ์อยู่ในช่วงข้ามเส้นอย่างแท้จริงเลยค่ะ จากในตอนแรกต่างไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกันนัก แค่คนคนนี้อาจจะพิเศษสักหน่อย เพราะมักบังเอิญเข้ามาอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ของตัวเอง โดยไม่ทันได้ตั้งตัว นั่นทำให้พวกเขาแลกเปลี่ยนความลับของกันและกัน จากนั้นก็กลายเป็นคนที่มีความรู้สึกใกล้ชิดไปโดยปริยาย ทางเจี่ยงเฉิงจะแสดงออกจากการแตะต้องตัวค่ะ ปกติเขาจะไม่ชอบให้ใครแตะตัว แต่พอเป็นกู้เฟยช่วงครึ่งหลังของเล่มนี้ เฮียเฉิงปิดระบบป้องกันตัว ไม่ฟาดมือใส่กู้เฟยเวลาเขาแตะตัวแล้ว แถมกอดของกู้เฟยยังทำให้เขาใจสงบมาก ๆ ด้วยค่ะ ส่วนกู้เฟยก็หวั่นไหวแล้วค่าาา มองผ่านกล้องแทบไม่ได้ ถ่ายทุกมุมม แต่งภาพก็ต้องแต่งที่หน้าของเฮียเฉิงก่อน แล้วรอบนี้พอเจี่ยงเฉิงมีเรื่องเขาก็เดินเข้าไปห้ามแบบข่มขู่คู่ต่อสู้ (แตะเฮียเฉิงต่ออัดนายเข้าโรงพบาลแน่) พอเจี่ยงเฉิงโดนชนเจ็บในสนามแข่งบาสกู้เฟยก็แทบจะเดินไปต่อยจนเฮียเฉิงต้องกอดแขนห้าม เฮ้ออออ อยากอ่านเล่มสามแล้วค่ะะะ 

      เรียกได้ว่าเล่มนี้เนื้อเรื่องเริ่มเดินในจังหวะที่เคลื่อนไหวไวกว่าเดิมจากความสัมพันธ์ของทั้งสองที่ขยับเลยค่ะ ขณะเดียวกันปมที่บ้านของทั้งเจี่ยงเฉิงและกู้เฟยก็ขมและชวนติดตามเพิ่มตามระดับความสัมพันธ์ของพวกเขา ที่เริ่มพูดคุยเปิดอกกันนั่นเองค่ะ เนื้อเรื่องหลังจากนี้ บอกได้เลยว่าคงเป็นการเอาใจช่วยพวกเขาให้หลุดไปจากเงามืดของอดีตและปัจจุบันที่เกิดขึ้นกับครอบครัวค่ะ ตอนนี้มีเพื่อนและครูที่ถึงจะจุกจิกสำหรับมุมมองของพวกเขาไปสักหน่อย แต่กลับจริงใจและพยายามเข้าหามาก ๆ เราเอาใจช่วยพวกเด็ก ๆ มากเลยค่ะ แล้วก็ลุ้นความรักของพวกเขาด้วยยย ฉากถ่ายแบบนี่ดีจริง ๆ ค่ะ 5555555

       อนึ่ง ในเรื่องของการแปลนั้นยังรู้สึกอยากให้เกลาเพิ่มอีกหน่อยค่ะ ทั้งเล่มแรกและเล่มสองเหมือนต้องคอยจูนช่วงแรกเพื่อให้ชินก่อนตลอดเลยค่ะ ตอนแรกรู้สึกจังหวะเล่มแรกช่วงหลังพอจะโอเคแล้ว แต่ขึ้นเล่มสองก็รู้สึกต้องจูนใหม่...ยังไงเล่มสามอยากจะฝากจุดนี้ค่ะ ;---; ส่วนเรื่องคำหยาบบางคำ...เข้าใจว่าเป็นบริบทของเรื่อง แล้วเราก็ไม่มีความรู้ข้อจำกัดตรงนี้ด้วยว่าปกติว่าสื่ออย่างนิยายมีคำต้องห้ามไหม เอาเป็นว่าอ่าน ๆ ไปก็เบลอ ๆ โอเคไปแล้วค่ะ 555555 << ความชิน

>> ชวน Talk ความสัมพันธ์ที่ชอบบบ กับฉากประทับใจจ

By Chadang