มิติลับชั่วข้ามคืน เล่ม 1-2

ผู้แต่ง Yan Liang Yu

ผู้แปล อ้วนสุด

ผู้วาด Kuro Hyou

สำนักพิมพ์ Mee-D

เรื่องย่อ

      สวีวั่ง ตื่นขึ้นมาท่ามกลางทุ่งหิมะอันหนาวเหน็บ หลังเดินอย่างไร้จุดหมายเขาก็พบกับเพื่อนสมัยเรียน ซึ่งเป็นรักแรกของเขา อู๋เซิง หลังเวลาสิบปีอันเนิ่นนานความในใจของสวีวั่งยังคงไม่ได้ระบายออก เขาคิดว่าการฝันถึงอีกฝ่ายไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ นี่เป็นโอกาสดีที่จะสารภาพรักกับอู๋เซิง เมื่อความในใจถูกเอ่ย ความรู้สึกคิดถึงก็มากล้น สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจจูบอีกฝ่ายกลางหิมะหนาวเหน็บนี้ด้วย ทว่าฝันดีนี้ดันไม่จบอย่างโรแมนติก แต่กลับจบเป็นโศกนาฏกรรม เมื่อมีหมีขั่วโลกโผล่มาตะปบหลังเขาจนสะดุ้งตื่นด้วยความเจ็บปวด...แต่ความฝันมันไม่ควรรู้สึกเจ็บได้! แถมบาดแผลก็ตามมาเก็บขึ้นจริงอีกด้วย!! สวีวั่งเริ่มหวั่นใจ ...หรือที่เขาสารภาพรักและจูบอู๋เซิงไปไม่ใช่ความฝัน!?

ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลางถึงมาก)

         สำหรับ มิติลับชั่วข้ามคืน เล่ม 1-2 ดีใจมากเลยค่ะที่ได้ยืมมาอ่าน ขอบคุณมากเลยค่ะที่ให้ยืม ฮือออ เดี๋ยวจะตามเก็บเล่มเร็ว ๆ นี้เลยยย เรื่องนี้มีทั้งหมด 5 เล่มจบ จากการไปส่องปกคิดว่าเป็นภาพคนในทีมทั้ง 5 คน ซึ่งปกเล่มสุดท้ายส่วนตัวเดาคนคนหนึ่งไว้ ไม่คิดว่าเป็นปกคู่ แต่น่าจะเป็นคนงามคนนั้นค่ะ (คิดเอาเองงง) ต้องบอกว่าเริ่มอ่านของคุณนักเขียนจากเรื่องบันทึกรักจิ่นหราน (ยังดองเล่ม 2-3 อยู่ค่ะ แหะ ๆ) แต่ติดหนัก ๆ คือ ตอนอ่านคู่จิ้นรักพลิกล็อกเลยค่ะ ส่วนมหาวิทยาลัยซอมบี้ยังเริ่มได้ไม่เท่าไร รู้สึกเคมีไม่ตรงกับเรา คิดว่าจะลองกลับไปอ่านอีกทีค่ะ สำหรับเรื่องนี้ เราชอบเคมีของสองตัวละครหลักมากเลยค่ะ เขาเป็นเพื่อนซี้ที่จิกกัดกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย สวีวั่งเองก็แอบหลงรักอู๋เซิงมาตั้งแต่สมัยนั้น แต่ เอ --- อะไรทำให้พวกเขามาพบกันอีกทีใน “เซียว” กันนะ น่าติดตามมากเลยค่ะ!

“เซียว” คือภารกิจรวมรุ่นสมัยมัธยมปลายรึเปล่า ?

           ขอเล่าต่อจากเรื่องย่อนะคะ หลังจาก สวีวั่ง เข้าไปในโลกทุ่งหิมะครั้งที่สอง เขาก็พบว่านี่เป็นโลกต่างมิติ ที่น่าจะเรียกว่า “เซียว” พวกเขาต้องฝ่าฟันภารกิจในเวลาเที่ยงคืนถึงตีห้าของทุกวันให้ครบ 23 ด่าน ถึง “อาจจะ” หลุดจากวงจรนี้ ซึ่งปัญหาของการฝ่าฟันด่านในเซียว คือ การที่แต่ละด่าน มีมิติทับซ้อนกระจายอยู่ต่างพื้นที่ บางที่ก็ข้ามจังหวัด นั่นทำให้หลายคนไม่สามารถตามไปฝ่าฟันด่านได้ เพราะพวกเขามีภาระทั้งงานและครอบครัวที่ต้องแบก ปัญหาที่สองคือ แต่ละด่านพวกเขาต้องรวมทีม 4 คนในด่าน 1-5 ซึ่งถ้าเข้ากันไม่ได้ หรือคนใดคนหนึ่งขอออกจากทีมก็ไม่สามารถไปต่อได้ นี่อาจเป็นโชคดีของ สวีวั่ง ที่หนึ่งในทีมของเขาคืออดีตเพื่อนสนิท พ่วงด้วยตำแหน่งคนที่เขาแอบรักมาตลอด 10 ปี อู๋เซิง เป็นคนเก่งที่หลงตัวเองและชอบเบียวอยู่บ่อย ๆ (นักอ่าน: นั่นคำชอบแล้วเหรอ 55555) แต่เรื่องของปริศนาที่เป็นโจทย์ยากอย่างการฝ่าด่านในเซียว มีคนคนนี้อยู่นับว่าพึ่งพาได้อย่างที่สุด บวกกับ ค่วงจินซิน เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่สดใส ซื่อตรง เข้ามาเป็นกำลังด้านโชคแก่ทีมอีกคนนับว่าเสริมทัพได้เป็นอย่างดี ทว่าฝ่าด่านแรกไปจบแล้ว เพื่อนร่วมทีมคนสุดท้ายดันถอนตัว และคนที่เข้ามาใหม่กลับกลายเป็นเพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยมปลาย เฉียนอ้าย ...นี่คือความบังเอิญ? หรือ “เซียว” จงใจจัดงานรวมรุ่นให้กันแน่?

ในวันนั้นที่พายุฝนเข้า...ฉันเห็นนาย แต่นายไม่เห็นฉัน

         ในเล่มแรกหลังฝ่าด่านหิมะ ก็ตามด้วยกู้ระเบิดบนเครื่องบิน เซียวเริ่มเผยกฎเกณฑ์แล้วว่าพวกเขาไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่ทำภารกิจอยู่ นอกจากนี้ 23 ด่านที่ต้องฝ่า มีคนไปได้มากสุดแค่ด่าน 13 แถมถ้าเกิดส่งคำตอบในด่าน ๆ หนึ่งผิด พวกเขายังต้องถอยหลังไป 3 ด่านเพื่อฝ่าฟันใหม่ นี่ทำให้การลุยภารกิจในเซียวไม่ง่ายเลย เมื่อท่องไปถึงด่านที่ 3 อู๋เซิงเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับโลกของเซียว เขามีข้อสันนิษฐานทั้งเป็นระบบบางอย่างที่ใช้ AI ในการประมวลผล ไปจนถึงเป็น หมอแปลก แค่ก ๆ เป็นพหุจักรวาล และปริศนาทุกอย่างยิ่งเข้มข้นขึ้นอีก เมื่อสวีวั่งพบว่า ความจริงแล้ว ในด่านที่ 3 นี้เขาเคยมาเยือนเมื่อสมัยเรียน ... ในวันที่ฝนตกพายุเข้า ในวันที่เขาสูญเสียคนสำคัญและบ้าน และเป็นวันที่เขากับอู๋เซิงเลือกทางของใจต่างกันไป

คนอ่าน: ความจริงของจดหมาย 5 ฉบับนั้น คือ!!!!????

             คู่วั่งเซิง เป็นคู่ที่เราชอบเวลาเขาต่อปากต่อคำกันมากเลยค่ะ 5555555 ชอบกันนะ แต่อดไม่ได้ที่จะกัดสักทีด้วยความหมั่นไส้ ถ้าอ่านเล่มแรกจบ จะเห็นเลยว่าสวีวั่งชอบอู๋เซิงมากกกก อะไรคือการตัดสินใจลุยด่านเซียว เพราะอู๋เซิง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่ชีวิตตัวเองอยู่ที่ 3 เปอร์เซ็นต์กันคะ? ส่วนทางด้านกุนซืออู๋ ถ้าอ่านมาถึงเล่มสอง ไม่มีอีกแล้วค่ะ คนนิ่งรอหาคำกัดเพื่อน พี่เขาตามหึงคนอื่นแทนแล้วววว หัวหน้าทีมสวีมองใครนานไม่ได้เป็นต้องเอาตัวมาขวางบอกมองนานเกินไปแล้ว มองอะไรนัก มองฉันนี่ แค่ก (5555555) เป็นคู่ที่เราชอบฉากย้อนอดีตในเล่มสองมาก ๆ ค่ะ ตอนเราอ่านช่วงเล่มแรกถึงต้นเล่มสองจะรู้สึกว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีใครทำให้ใครลำบากใจ จนเหมือนกับว่า สวีวั่งเก็บความในใจเกินเพื่อนนั้นไว้ได้ตลอด 10 ปีจริง ๆ แต่เล่มสองกลางเรื่องจะทำให้เรารู้ว่า ฉากทุกอย่างที่ผ่านมามันลวงงงเรา พวกเขาเคยผ่านจุดเปลี่ยนกันมาแล้วรอบหนึ่ง สิ่งที่น่าติดตามต่อคือ แล้วอะไรทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มันค้างเลยมาถึง 10 ปี จนเกิดเรื่องถูกดึงไปในเซียวถึงได้สานต่อ? ลุ้นมากเลยค่ะจุดนี้ เล่มสามมมมมมมมม

           ส่วนตัวเรื่อง มิติลับชั่วข้ามคืน เล่ม 1 อยู่ในระดับอ่านเพลินยิ้ม ๆ จนกระทั่งจบเล่มค่ะ กึ่ง ๆ ปูเรื่อง ด่านยังเปิดปมต่าง ๆ ไม่ถึงกับลุ้นระทึก แต่พอขึ้นด่านที่สามใน มิติลับชั่วข้ามคืน เล่ม 2 กลับมีความลุ้นปริศนาชวนติดตามเพิ่มขึ้นระดับหนึ่งเลยค่ะ ต้องบอกเลยว่า พอเปิดเผยอดีตเมื่อสิบปีก่อนของสวีวั่ง ทั้งเรื่องปริศนา “เซียว” และความสัมพันธ์กับอู๋เซิงก็เหมือนถูกปลดล็อกระดับพร้อม ๆ กัน ทำให้เนื้อเรื่องชวนติดตามมากขึ้นจากเล่มแรกเลยค่ะ ใครชอบแนวฝ่าด่าน ไม่ถึงกับกดดัน เพราะถึงต้องเอาตัวรอดแต่ไม่ถึงกับมีใครตายจริง บวกกับมีปริศนาเกี่ยวกับโลกต่าง ๆ เข้ามาให้คิดติดตามเป็นโครงเรื่องหลัก เรื่องนี้อาจจะใช่แนวค่ะ

>>> ชวน Talk เป็นความบังเอิญที่เซียวรวมรุ่น? เรื่องราวในวันฝนตก! (สปอยล์มากก)