ฉันน่ะ มักจะจ้องมองต้นมะม่วงที่อยู่บ้านตรงข้ามอยู่ตลอด เพราะเป็นสิ่งเดียวที่มีสีเขียวน่ามองมากที่สุดในซอยนี้ สิ่งที่สูง ๆ อยู่รอบ ๆ นั้น มีแต่อาคารสี่เหลี่ยม มีหน้าต่าง มีเสียงคนพูดคุยเสียงคนโวยวายดังลั่น ไม่มีช่วงเวลาสงบสุขเลย แม้ในเวลากลางคืนบางทีก็สงสัยว่าคุณต้นมะม่วงทนอยู่ได้ยังไง ยืนอยู่คนเดียว ไม่มีคนคอยพูดคุยด้วย จะเหงาบ้างไหมนะ
ทุก ๆ วันในซอยนี้ก็ดำเนินไปอย่างปกติ จนกระทั่งบ้านหลังตรงข้ามมีเสียงดังโวยวายแล้วก็เงียบไป
ในคืนนั้นเองฉันก็เห็นคนเป็นพ่อของบ้านหลังนี้ ถือเชือก ลากเก้าอี้ออกมาจากบ้านจากนั้นเขาก็ขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ พร้อมกับแกว่งเชือกขึ้นไปคล้องกับคุณต้นมะม่วง
“ไม่นะ!!! เขาขึ้นไปยืน แล้วเตะเก้าอี้ล้ม เขาจะลงมาได้ยังไงใครก็ได้ช่วยเขาที คุณต้นมะม่วงช่วยด้วย!!!”
ฉันได้แต่ยืนมองดูเขาห้อยขาอยู่อย่างนั้นจนถึงเช้ามืด เมื่อมีคนเห็นในซอยที่วุ่นวายอยู่แล้ว ก็วุ่นวายกว่าเดิมไปอีก ทั้งคนในซอย ทั้งนักข่าว ทั้งตำรวจ
ฉันได้ยินคนพูดกันว่า แม่กับลูกสาวที่อยู่ในบ้านก็ไม่มีชีวิตอยู่อีกแล้ว
“ทำไมนะ ทำไม ทำไมถึงตัดสินใจกันแบบนี้”
ความเครียดจากอะไรก็แล้วแต่ เชื่อเถอะ ยังไงก็คงจะต้องมีหนทางที่จะเดินต่อไปได้แต่ใจของคนก็เปราะบางไม่เท่ากัน
ฉันได้แต่ภาวนาว่า คนในบ้านของฉันจะไม่คิดทำเช่นเดียวกับบ้านตรงข้ามเพราะฉันไม่อยากจะถูกใช้เป็นส่วนหนี่งในการจบชีวิตใคร แบบคุณต้นมะม่วง
ฉันอยากที่จะเติบโตแบบให้ความสุขกับคนในบ้านนี้ต่อไป
ทว่า ฉันเป็นแค่เพียง แคคตัส
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in