เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
สาวน้อยชั้นสองlokasander2
เมื่อครั้งบรรพกาล

  • บ่ายวันอาทิตย์ของหญิงสาวงามไม่ทราบชื่อได้ดำเนินมาถึงจุดอิ่มตัว เธอไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีในวันหยุดที่เวลาพักใกล้จะหมดไปแล้ว พูดอีกอย่างเธอทำสิ่งที่ต้องทำเสร็จลุล่วงไปแล้วทั้งสิ้น ขณะที่เข็มนาฬิกาดังติ๊กต๊อกบอกวินาทีแล้ววินาทีเล่าที่ผ่านไป หญิงสาวก็เริ่มรู้สึกลนลานมากขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่สามารถที่จะอยู่เฉยๆโดยปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ ในขณะเดียวกันก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร สิบนาทีผ่านไปสาวงามไม่ทราบชื่อผุดตัวลุกขึ้นจากโซฟาหนังอย่างดี เดินไปที่ประตูห้องใส่รองเท้าคู่โปรดแล้วเดินไปขึ้นลิฟต์ทันที 


    ขออธิบายอย่างละเอียดอีกครั้ง สาวงามผมยาวสีน้ำตาลหยักศกผู้นี้อาศัยอยู่คนเดียวในเพนต์เฮาส์สุดหรูใจกลางเมืองพาเทนที่ค่าครองชีพจัดว่าโหดที่สุดในสามเมืองการค้าของอาณาจักรพาทีเนีย เพนต์เฮาส์แห่งนี้มีเพียงสามชั้นเท่านั้น ภายนอกตกแต่งแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก แต่ละชั้นมีเพียงหนึ่งห้อง เท่ากับว่าหนึ่งห้องนั้นกินพื้นที่ของตึกขนาดใหญ่นี้ทั้งหมด ชั้นแรกเป็นของเจ้าของเพนต์เฮาส์แห่งนี้ ส่วนเธออาศัยอยู่ชั้นสอง และชั้นสามเป็นของชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเธอไม่เคยเห็นหน้า แค่รับรู้ว่าเขามีตัวตนเท่านั้น ขอจบการบรรยายอย่างละเอียดเพียงเท่านี้ ก่อนเข้าสู่เนื้อเรื่องต่อ 


    ขอเตือนไว้ก่อนว่าการอ่านชีวิตของสาวงามไม่ทราบชื่อนี้ไม่ได้ลับสมองประเทืองปัญญาแต่อย่างใด หรืออาจจะไม่ได้อะไรกลับไปเลยก็เป็นได้ ทางที่ดีรีบปิดแล้วไปหาอย่างอื่นที่จรรโลงกว่านี้ทำดีกว่า 



    ด้วยความปรารถนาดี 

                                                                             จากกระผม

    โลคาแซนเดอร์ มัวร์





    เรื่องราวของสาวน้อยที่อาศัยอยู่ในเพนท์เฮ้าส์ไม่ทราบชื่อ ชีวิตของเธอดำเนินไปอย่างเรียบง่าย จนกระทั่งมันถูกรบกวน (เป็นการชั่วคราว) จากบุคคลที่เธอไม่คาดคิด ก่อเกิดเป็นมิตรภาพที่ไม่อาจตัดขาด และช่วยให้รู้ธาตุแท้ของคนใกล้ชิดที่เราคิดว่ารู้จักเป็นอย่างดี

    เรื่องเล่าจากมุมมองของนักเล่านิทานแห่งยุค (ของเขาเองคนเดียว) โลคาแซนเดอร์ มัวร์

     

    อลิซ : "ถ้านายทำตามที่ฉันบอกตั้งแต่แรก ตอนนี้เราก็ไม่ต้องมาติดเแหงกอยู่ตรงนี้หรอก"  

    หนุ่มชั้นสาม : "อ๋อ ใช่สินะ พวกเราคงไม่ 'มาติดแหงก' กันอยู่อย่างนี้หรอก เพราะถ้าทำตามที่เธอบอกก็ได้ตั๋วเที่ยวเดียวไปเข้าเฝ้ายมบาลที่โลกหน้าเรียบร้อยแล้วไง" 

     

     

    เอวี่ : "ไม่ได้ ยังไงฉันก็ไม่ยอมตายอยู่ที่นี่ สิบล้านลูกแม่ รอก่อนนะเด็กดี แม่จะรอดกลับไปใช้หนูให้ได้!"

    คอรี่ : "เอ่อ...  ผมว่าวิวตรงนี้ก็ไม่เลวเลย เรามาชื่นชมทัศนียภาพอันสวยงามไปพลางๆกันก่อนมั้ยครับ? "


     


    "สี่คนหนึ่งภารกิจ สี่เป้าหมายแต่ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ก็ต้องช่วยกันถึงที่สุดสิ จริงมั้ย?"

    "ว่าแต่ใครมันเป็นคนกล่าวไว้กันนะ" 

    "หยุดสร้างคำคมแปลกๆได้แล้ว เธอนะ"

    "ผมว่าบางทีเราไปกันคนละลำกันก็ได้มั้งครับ"



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in