ห้องนี้เป็นของใคร?

จงอิง นิติเวชสาวมือฉกาจของยุค 2015 ต้องปวดหัวกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญที่จู่ๆ ก็มาอ้างสิทธิ์ในอะพาร์ตเมนต์ซึ่งเธอได้รับการตกทอดมาจากครอบครัวและตอนนี้เธอก็กำลังอาศัยอยู่เสียด้วย เขาคนนั้นมีสัญญาเช่าห้องที่ถูกต้องตามกฏหมายทุกประการ เสียอย่างเดียว มันเป็นสัญญาที่ทำตั้งแต่ปี 1932!

เชิ่งชิงลั่ง ทนายหนุ่มหล่อไฟแรงในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ต้องวิ่งวุ่นกับภารกิจของประเทศชาติ ทั้งหลบกระสุนและต่อกรกับการรุกรานของทหารญี่ปุ่น เท่านั้นยังไม่พอ เขายังต้องรับมือกับสาวสวยที่มีภูมิหลังแสนประหลาด ซึ่งมาอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของห้องพักขที่เขาพักอยู่หลายปีแล้ว!

บอกเลยว่าอ่านแบบไม่ได้คาดหวัง แต่เกินความคาดหมายไปมากก คือตอนเขียนรีวิวเล่ม 1 เราก็อ่านจบแค่เล่ม 1 นะ แต่บอกได้เลยว่าเรื่องนี้ประทับใจเรามาก พลอตเรื่องจริงๆก็ไม่ได้ใหม่อะไร มันเป็นฟีลแบบ Lake house, Ditto หรือ midnight garden แอบคิดว่าคล้าย midnight garden มากกว่า ใน midnight garden คือ ตัวละครจากสองช่วงเวลาจะมาเจอกันในสถานที่แห่งหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง ส่วน lake house และ ditto มีการสื่อสารทางอื่น

ในเรื่องนี้พระนางก็มาเจอกันในห้องของตัวเอง พระเอกข้ามเวลามาหานางเอกในช่วงสี่ทุ่มถึงหกโมงเช้า และสามารถพาอะไรที่อยู่ติดกับตัวเองกลับไปด้วยได้

ตัวละครนางเอกอย่าง จงอิง คือเป็นนางเอกประเภทสาวแกร่ง เป็นตำรวจนิติเวช บุคลิกแบบที่เราเห็นกันบ่อยๆ ในซีรีส์ เข้มแข็ง เด็ดขาด แต่ก็มีปมอยู่ด้วย คือเราว่าคนเขียนบรรยายดี เราชอบการเปรียบเทียบหรือการบรรยายของคนเขียนที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าตัวละครเป็นตัวละครแบนๆอะ

ส่วนพระเอกอย่าง เชิ่งชิงลั่ง รับรู้ได้ถึงความหล่อมาจากการกระทำเลย 5555555 ไม่รู้คือหล่อไปหมดทุกอิริยาบถ ต่อให้ไม่ได้บรรยายว่าหล่อก็รู้สึกหล่อ เป็นทนายจากยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง (ก่อนที่ว่าคือก่อนไม่กี่วัน) เซตติ้งที่คนเขียนเลือกคือ ก่อนยุทธการเซี้ยงไฮ้ กับ ปี 2015 (ภาพยนตร์ที่เรานึกถึงเวลาได้ยินยุทธการนี้คือ 800 เป็นภาพยนตร์ที่เพิ่งฉายไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนนี่เองค่ะ) 

ก็รู้สึกว่าเซตติ้งน่าสนใจมาก ในส่วนของพระเอกที่มาจากช่วงสงครามก็คือต้องเอาชีวิตรอดจากระเบิดจากสงครามทุกวัน ส่วนนางเอกในยุคปัจจุบันก็พันพันกับคดีในครอบครัวตัวเอง ความลับการตายของแม่ตัวเอง แล้วก็ดูเหมือนนางเอกมีโรคอะไรบางอย่างที่ใกล้ตายแล้วถึงกับต้องทำพินัยกรรมเอาไว้ด้วย

ตัวพระนางก็เริ่มหวั่นไหวกันแต่ก็ไม่รู้จะลงเอยยังไงเพราะมาจากคนละช่วงเวลา เราเองก็เดาไม่ถูก นางเอกจะไปยุคนั้นหรือพระเอกจะมายุคนี้ หรือเราจะไปๆมาๆกันแบบนี้ก็คงไม่ใช่ หรือว่าตอนท้ายจะจบ BE กันนะ แต่คิดว่าคงจะไม่ BE หรอกมั้ง

เราเห็นว่าเรื่องนี้ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วย แคสคือ เติ้งหลุนกับนีนี บอกเลยว่าปังมากกกกกกกก เติ้งหลุนคือได้มากกกก แบบเนี้ยบๆ ใจเย็น ใจดี ดูสุภาพ ส่วนนีนี เราชอบเค้ามากอยู่แล้ว เรื่องนี้น่าจะได้ใส่ชุดย้อนยุคด้วยมั้ยนะ เป็นผู้หญิงที่ใส่ชุดย้อนยุคในยุคช่วงๆนี้ได้ดีมากๆเลยล่ะค่ะ

จริงๆวันนี้เป็นวันทำงานของเราค่ะ แต่ไม่สบายนิดหน่อย เลยลาอ่านนิยายอยู่บ้าน ได้ถือโอกาสอ่านเรื่องที่อ่านค้างมาตั้งแต่คราวก่อนพอดี

เล่มสองนี้เราไม่ชอบปกนิดหน่อยค่ะ รู้สึกไม่ค่อยเข้ากับพระเอกเลย จริงๆปกเล่มหนึ่งก็ไม่เข้ากับนางเอกด้วยเหมือนกัน

เล่มสองก็ฟีลคล้ายเล่มหนึ่งค่ะ พลอตอยู่ที่การหนีสงครามและการพยายามช่วยคนของฝั่งพระเอก ส่วนฝั่งนางเอกก็คือไขคดีฆาตกรรมแม่นางเอก จริงๆก็เนื้อเรื่องน่าติดตามทั้งสองฝั่ง แต่เราแอบรู้สึกว่ามัน anticlimax นิดหน่อย ไม่รู้ว่าตอนแรกหวังเอาไว้ให้มันฉูดฉาดกว่านี้หรือเปล่านะ แต่ก็รวมๆก็สนุกนะคะ พระเอกน่ารักมากๆ ชอบมากเลย อยากมีสามีแบบนี้ สุภาพ อ่อนโยน ให้ฟีลซื่อบื้อนิดหน่อยย น่ารักกกกมากๆ

ตอนหลังนางเอกกับพระเอกกลับมาอยู่ด้วยกันในปัจจุบัน พระเอกในปีนั้นก็หายตัวไป คนก็คิดว่าตาย ประวัติศาสตร์ก็บันทึกเอาไว้ว่าตายค่ะ อันที่จริงเราอยากรู้มากว่าครอบครัวสกุลเชิ่งไปยังไงกันต่อ ไม่ใช่แค่คุณชายสี่ คุณหนูเล็กที่เข้าไปในแผ่นดินตอนในมีชีวิตลำบากหรือเปล่า คนอื่นๆ เป็นยังไงกันบ้าง

สรุปรวมแล้วเราคิดว่าเราค่อนข้างชอบเลยทีเดียว เป็นพลอตที่ห้องสมุดไม่ค่อยหยิบมาทำ แนวตัวละครก็ไม่ใช่แนวที่สนพหยิบมาแปลบ่อยๆ ด้วย แอบคิดนิดหน่อยว่าคงจะไม่ตรงรสนิยมของแฟนๆ สำนักพิมพ์บางส่วนแน่ๆ เลยล่ะค่ะ 

สุดท้ายขอชมว่า สำนวนดีมาก คิดว่าคงจะดีตั้งแต่ต้นฉบับแล้ว จังหวะดี เปรียบเปรยดี นัวมาก คนแปลก็แปลได้ดีมากๆเหมือนกัน