**บทวิจารณ์นี้มีสปอยล์**
**บทวิจารณ์นี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้นซึ่งอาจเหมือนหรือไม่เหมือนกับของคุณก็ได้**
“ครั้งนี้จั่วหัวหนักไปเปล่าวะ” นี่คือสิ่งที่ผมคิดหลังจากดูอนิเมชั่นเรื่องSilent voice จบได้สองถึงสามชั่วโมง ก่อนจะมานั่งเคาะแป้นคีย์บอร์ดอยู่หน้าโน้ตบุก ร้อยเรียงความรู้สึกต่างๆออกมาเป็นตัวอักษร เพื่อบอกเพื่อนๆต่ออีกทีถึงสิ่งที่ผมได้จากอนิเมชั่นเรื่องนี้
จากที่จั่วหัวไว้ว่า ‘ความต่าง-ที่หาได้ยากในสังคมไทย’ นั้น แท้จริงแล้วผมต้องการจะบอกถึงเนื้อหาหลักที่ใครไม่เข้าใจในสังคมหรือวัฒนธรรมญี่ปุ่นสักหน่อย ก็อาจจะดูไม่อินหรือคิดว่ามันไร้ตรรกะก็ได้ คือคนญี่ปุ่น (ตามที่ผมเข้าใจมา) จะเป็นคนที่มีความละเอียดอ่อนมากๆในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการทำขนม การประดิษฐ์สิ่งของ หรือคิดค้นนวัตกรรมต่างๆจะเห็นได้ว่าเขาใส่ใจสิ่งเล็กน้อยในชีวิตมาก สังเกตง่ายๆก็อาจจะเป็นข้าวของใน ‘ไดโซะ’ อาจจะเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่เห็นภาพได้ชัด
จุดเริ่มต้นเรื่องราว (มีสปอยล์เนื้อเรื่องเล็กน้อย)
เรื่องราวความเป็นมาของเรื่องSilent voice มันเกิดเมื่อตอนสมัยประถม 6 เมื่อมีเด็กนักเรียนหญิงย้ายเข้ามาใหม่นามว่า ‘นิชิยามะ’ซึ่งหูหนวก เธอก็พยายามจะหาเพื่อน แต่ก็ถูกแกล้ง โดยคนที่แกล้งเธอหลักๆ ก็เป็นกลุ่มของพระเอกที่ชื่อว่า ‘อิชิดะ’ แกล้งแรงมากจนตอนหลังผอ.โรงเรียน ก็มาเอาเรื่องกับ ‘อิชิดะ’ และกลุ่มเพื่อนที่เคยแกล้งด้วยกันกับโบ้ยให้อิชิดะคนเดียว หลังจากนั้นมาชีวิตของอิชะดะก็ถูกเพื่อนๆคนอื่นแกล้งบ้าง ไม่ต่างกับ ‘นิชิยามะ’ ตอนแรกๆ เลย
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ ‘ความต่าง-ที่หาได้ยากในสังคมไทย’
ในความคิดผม การทะเลาะกันของเพื่อนสมัยเด็กๆจนเป็นปัญหาเขม่นกันมาตนโต หรือมองหน้ากันไม่ติด ผมว่ามันเป็นอะไรที่พื้นๆ มากเลยนะในสังคมบ้านเราแต่กลับกันในญี่ปุ่น โดยเฉพาะในเรื่องนี้จะเห็นได้ว่าสิ่งที่หนังเล่ามันคือปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของประเทศเขาเลย การที่เด็กคนหนึ่งโดนเพื่อนรุมรังแกในชั้นเรียนเพราะพิการ การที่พระเอกโดนแกล้งกลับบ้างจนถึงกับขั้นอยากฆ่าตัวตาย การที่คนเป็นแม่ต้องออกมาช่วยลูกและรับหน้าแทนทั้งจ่ายตัง โดนด่า โดนตบ สารพัดดราม่าปัญหาชีวิต
ฉากที่ชอบ (โคตรสปอยล์)
ฉากที่กินอารมณ์มากที่สุดคือฉากที่นิชิยามะ คุกเข่าลงกับพื้นแล้วร้องไห้ ก่อนจะค่อยๆ คลานเข้าไปกอดขาแม่ของ อิชิดะที่เธอเกือบทำให้ลูกชายของเธอตาย น้ำตานี่เเทบนองหน้าผมเลยทีเดียวสิ่งที่ควรรู้ก่อนไปดูอนิเมชั่นเรื่องนี้
-อนิเมชั่นเรื่องนี้ตลอดทั้งเรื่องแทบไม่มีเสียงประกอบเลยเป็นเสียงบรรยากาศล้วนๆ ซึ่งได้อารมณ์มากๆ สำหรับผมนะ แต่ถ้าคนไม่ชินก็จะรู้สึกว่าหนังมันเงียบเนิบๆ ช้าๆ อาจจะเบื่อถึงขั้นหลับได้
-ภาพสวยในระดับหนึ่ง เต็ม 10 ให้ 7.5
-เนื้อเรื่องดีมาก เห็นถึงวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นได้ดี
-ตอนแรกๆ อาจจะงงเล็กน้อยถึงมาก เพราะหนังค่อนข้างตัดเรื่องไวพอตัว แต่ก็มีเฉลยคลายให้ตอนหลังจากนั้น(ปล่อยให้คิดแล้วค่อยเฉลยประมาณนั้น) ซึ่งพอเฉลยละทำเอาน้ำตาซึมไม่เบาทีเดียว(สำหรับผมนะ)
-เพลงจบเพราะมากกก
-โดยรวมแล้วให้9/10 ไปเล้ยยยย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in