เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
twinkle, twinkle, little starsbvxvinn
D30 | trick or treat



  • “พ่อจ๋า เดี๋ยวหนูทาสีให้”


    สองแขนของเด็กหญิงชูขึ้นฟ้า โบกแปรงสีไปมา พร้อมสองเท้ากระโดดหยองแหยง ท่าทางตื่นเต้นดีใจจนน่าขัน


    อิวะอิสึมิ ฮาจิเมะมองแปรงสีเขียวในมือของเธอ ทำหน้าปุเลี่ยน คิดหาทางออกจากสถานการณ์สุ่มเสี่ยงตัวเลอะโดยใช่เหตุ


    แต่แล้วคำพูดของภรรยาก็แล่นวาบขึ้นมาในห้วงคิด เขาถอนหายใจ ยอมจำนนต่อหล่อนในความทรงจำ ยื่นสองแขนออกให้ลูกสาวแต่โดยดี


    “ที่แขนเท่านั้นนะ นัทสึมิ”


    เด็กหญิงผงกหัวขึ้นลงอย่างตื่นเต้น ตั้งต้นละเลงสองแขนของเขาด้วยสีเขียวอย่างมีความสุข ส่วนเขาได้แต่ยื่นแขนให้เธอด้วยความจำนน มองสีค่อยๆ หยดลงกระดาษหนังสือพิมพ์ทีละหยดสองหยด


    ถึงจะเป็นสีทาตัวบางๆ แต่แค่คิดว่าตอนล้างออกจะยากลำบากขนาดไหน เขาก็กลุ้มใจแล้ว


    คิดเสียว่าทำเพื่อลูก


    หนึ่งปีหนึ่งครั้ง จะใจร้ายใจดำไม่เล่นกับลูกสาวก็กระไรอยู่


    เธอตั้งอกตั้งใจทา ทำไปก็พูดจ้อไม่หยุด ตื่นเต้นกับการได้ใช้เวลาว่างร่วมกับบิดาอย่างเห็นได้ชัด


    คงเพราะช่วงก่อนหน้านี้เขาไม่ค่อยจะมีเวลาให้เธอสักเท่าไรกระมัง


    “เสร็จแล้ว! พ่อจ๋า สวยมั้ย” เธอว่า ยิ้มแฉ่ง แถมสะบัดปลายแปรงอีกครั้งเป็นการทิ้งท้าย ส่งหยดสีตกลงนอกกรอบหนังสือพิมพ์จนได้


    แถมแขนเขายังเลอะเป็นด่างเป็นดวง สีไม่มีความสม่ำเสมอแม้แต่น้อย สรุปได้ใจความว่า มองอย่างไรก็ไม่สวย


    แต่พอเห็นสีหน้าภาคภูมิใจของเด็กหญิง เขาก็รู้สึกปลื้มใจ


    อีกอย่าง ซอมบี้ที่ไหนจะไปมีผิวเนียนสวยสม่ำเสมอเล่า จริงไหม


    “สวยมาก” ว่าแล้วเขาก็ลูบหัวเธอทีหนึ่ง “ไปแต่งตัวกันดีกว่า แม่มดน้อยของพ่อ เดี๋ยวแม่จะกลับมาแล้ว”


    “แม่จ๋า!” เธอโยนแปรงลงพื้น วิ่งหน้าตาตื่นไปประตูบ้าน อากัปกิริยาที่ทั้งน่าเอ็นดูและน่าขัน แต่ลำบากเขาต้องรีบเดินตามไปอุ้มเธอขึ้นสองแขนก่อนจะเปิดประตูบ้านเก้อเข้า


    เด็กหญิงเตะขา ร้องโวยวายหาแม่ เขาลูบผมเธอ ปลอบประโลมพักใหญ่กว่าเด็กน้อยวัยหกขวบผู้ติดแม่จะยอมไปอาบน้ำแต่งตัวแต่โดยดี


    “แม่จ๋าจะซื้อลูกอมกลับมาเยอะแยะเลยใช่มั้ยคะ” เธอถามเขา หลังจากปลุกปล้ำกันใส่เสื้อผ้าสำเร็จเรียบร้อย


    อิวะอิสึมิปล่อยเธอดูโทรทัศน์หลังแต่งตัวชุดแม่มดน้อยของเธอเสร็จสิ้น ส่วนตัวเองนั่งอ่านจดหมายเรื่องงานทางมือถือ พอเด็กหญิงถาม เขาจึงเก็บโทรศัพท์ หันไปให้ความสนใจเธอมากกว่า


    “อืม… แม่เขาสัญญาเราไว้แล้วนี่นา”


    “แม่จ๋าชอบเบี้ยว”


    เขาขำ ลูบหัวลูกเบาๆ “แต่สุดท้ายแม่ก็ซื้อให้ทุกครั้งถ้าเราเป็นเด็กดีนี่”


    เธอตีสีหน้าครุ่นคิด ส่งเสียงอืออึงในลำคอ “อื้อ! งั้นหนูจะเป็นเด็กดี พ่อจ๋าก็ต้องซื้อของเล่นให้หนูด้วยนะ”


    ช่างเจรจา


    เหมือนใครคงไม่ต้องถาม


    เขาตีหน้าดุเป็นเชิงปรามที่ลูกชักต่อรองมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เด็กหกขวบยังไม่รู้เรื่องรู้ราว เธอเห็นหน้าเขาแล้วก็พาลขำเสียอย่างนั้น แถมยังขำหนักจนหมวกแม่มดร่วงลงจากหัวอีกต่างหาก


    นั่งนิ่งๆ ได้สิบห้านาที เธอก็เริ่มโอดครวญอีกครั้ง บ่นหิวข้าว อยากดื่มน้ำ อยากวิ่งเล่น อยากกินขนม


    “คิดถึงแม่จ๋า” ตบท้ายด้วยเสียงสะอึกสะอื้นก่อนจะกอดเขาแน่นขอความอบอุ่น


    เห็นเธองอแงแล้วใจเขาอ่อนยวบ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าปลอบและดึงความสนใจเธอไปที่อื่น จึงเอารีโมทมากดเปลี่ยนช่อง หาสิ่งที่เธอสนใจ


    อย่างน้อยก็ขอยื้อเวลาอีกสักหน่อย


    เขาหยุดเมื่อพบสิ่งที่ต้องการ รีบชี้ชวนให้เธอดู


    “นัทสึมิ ดูสินั่นใคร”


    เด็กหญิงรีบเงยหน้าขึ้น ใบหน้าสว่างสดใสขึ้นทันตาเมื่อเห็นหน้าจอ


    เสียงกรีดร้องของเธอดังขึ้นพร้อมกับเสียงออดหน้าบ้านดังพอดิบพอดีราวกับรู้เวลา


    “แม่จ๋า!”


    ทันฉิวเฉียด


    เขาลุกขึ้น ปล่อยลูกดูโทรทัศน์ตามลำพัง ส่วนตนลุกไปเปิดประตูบ้านด้วยความรีบร้อน


    เขารีบเพราะอยากให้ลูกสาวหยุดร้องไห้เสียที


    ไม่ใช่เพราะคิดถึงแม่ของลูกที่หนีไปทำงานต่างจังหวัดห้าวันหรอกนะ


    “กลับมาแล้ว! ฮาจิเมะจัง”


    โออิคาวะ โทรุยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้าน ในมือมีถุงข้าวของพะรุงพะรังประหนึ่งว่าจะอพยพหนีอุทกภัย เขาคาดเดาว่าถุงหนึ่งคงเป็นถุงขนมที่หล่อนสัญญิงสัญญาไว้ว่าจะซื้อกลับบ้านเนื่องในวันฮัลโลวีน ส่วนที่เหลือก็คงเป็นของใช้ของฝากกระมัง


    “นัทสึมิกำลังงอแง” เขารีบคว้าถุงข้าวของจากเธอ ก่อนหลีกทางให้หญิงสาวก้าวเข้าบ้าน “เธอไปหาลูกเลย”


    “เอ๋ แล้วพ่อซอมบี้ของฉันไม่คิดถึงฉันบ้างเหรอ” หล่อนว่า ฉวยโอกาสหอมแก้มเขาทีหนึ่ง “ยอมให้ลูกทาแขนจริงด้วย น่ารักจริงๆ”


    ก็เธอบอกให้ฉันยอมไม่ใช่หรือไง! เขาอยากจะโวยวาย แต่หล่อนก็ก้าวเท้าไปหาลูกเสียแล้ว


    “นัทสึมิจัง! แม่จ๋ากลับมาแล้วจ้า มีลูกอมเต็มเลยน้า”


    “แม่จ๋า!” เขาเห็นลูกสาวกระโจนลงจากโซฟา พุ่งตรงไปกอดขามารดาแล้วซุกไซ้ออดอ้อน “ทริคออร์ทรีททท”


    อิวะอิสึมิมองสองสาวกอดกันกลมจากหน้าบ้านแล้วก็อดขำไม่ได้ เขาปล่อยให้ทั้งคู่ทักทายกันตามสบาย ส่วนตนนำข้าวของไปจัดเก็บเข้าที่เข้าทางระหว่างนั้น


    หลังกลับไปคบหากับหล่อนอีกครั้งเมื่อสิบปีก่อน พวกเขาก็แต่งงานกันในปีถัดมา เป็นการประกาศแต่งงานสายฟ้าแลบของโออิคาวะ โทรุที่สร้างความวุ่นวายไปทั่ววงการ จนเกิดคำถามต่างๆ นานาตามมาจากนักข่าวว่าหล่อนพลาดท้องกับเขาหรือเปล่า จึงต้องเร่งรีบกันเช่นนี้


    งานของหล่อนซาลงไปช่วงหนึ่งเพราะข่าวฉาว แต่ข่าวลือที่ว่าก็เป็นอันตกไปในเวลาไม่นาน โออิคาวะยังมีงานให้ทำไม่ขาดมือ แม้ว่าจะไม่แน่นขนัดเหมือนสมัยเพิ่งเข้าวงการก็ตาม


    “วงการก็เป็นแบบนี้แหละ ฮาจิเมะจัง” พอเขาแสดงความกังวล หล่อนก็ตอบกลับมาเช่นนั้น “ฉันอยู่ในแสงไฟจนพอใจแล้ว ตอนนี้ขออยู่กับฮาจิเมะจังเหมือนเดิมดีกว่า”


    หล่อนโตขึ้นมากกว่าที่เขาคาด


    และหลังจากแต่งงานกันได้สามปี พวกเขาก็มีลูกสาวคนแรกชื่อนัทสึมิ


    อิวะอิสึมิไม่คาดคิดเลยว่าชีวิตเขาและเธอจะกลับมาจรดกันเช่นนี้ได้


    บางครั้งยังพาลคิดว่าตนเองอาจจะฝันไป


    “พ่อจ๋าไม่มากอดด้วยกันเหรอ ไม่คิดถึงแม่จ๋าจริงๆ หรือไง”


    เสียงหยอกล้อของหล่อนฉุดเขาออกจากภวังค์


    พอหันไปมองก็พบนัยน์ตากลมใสสองคู่กำลังจ้องมองเขาและรอยยิ้มที่แม่ลูกถอดแบบกันมาไม่มีผิดเพี้ยน


    ครอบครัวของเขา


    ตรงไปรวบกอดทั้งคู่ ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจากสองสาว ก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะดิ้นขลุกขลักออกจากอ้อมกอด ประกาศกร้าวว่า “หนูไปหยิบคทาก่อน!” แล้วก็วิ่งพรวดพราดขึ้นห้องตัวเองไป


    “ซนเหมือนใครก็ไม่รู้” หล่อนว่า “ใจร้อนเหมือนกันอีก”


    “เธอนี่ใจเย็นมากงั้นสิ”


    “แน่นอน! โทรุจังน่ะเป็นผู้ใหญ่มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”


    เขากลอกตา ขี้คร้านจะต่อล้อต่อเถียง เลยดึงหล่อนลงนั่งบนโซฟาข้างกัน ใช้สองแขนโอบรอบเอวหล่อนแล้วกอดไว้หลวมๆ เช่นนั้นเอง


    “ไปเกียวโตเป็นยังไงบ้าง”


    “ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ แต่บังเอิญเจอมัตซึนกับมักกี้ด้วย”


    “หืม”


    “มักกี้ฝากทักทายฮาจิเมะจัง บอกว่า ร้ายนักนะเรา


    อิวะอิสึมิพ่นลมหายใจพรืด ซุกหน้าลงกับหลังคอหล่อน พึมพำ “อะไรของมัน”


    “เขาพูดถึงนี่ไง” หล่อนจับมือเขา ดึงมาวางแปะตรงหน้าท้อง ตอนนี้ยังราบเรียบ แต่พวกเขารู้ดีว่าอีกไม่นานก็กำลังจะเกิดความเปลี่ยนแปลง


    ใบหูเขาร้อนผ่าว ยังไงก็ไม่ชินกับการโดนคนอื่นหยอกเรื่องนี้จริงๆ “บอกแล้วว่าไม่ต้องประกาศ...”


    “ได้ที่ไหน เดี๋ยวจะหยุดงานอีกเป็นปี เขาก็รู้กันอยู่ดี” โออิคาวะว่า หันมองเขา แล้วดึงใบหูเบาๆ “หูแดงหมดแล้ว ฮาจิเมะจัง”


    “เพราะใครล่ะ”


    “นั่นสิ เพราะใครน้า… ภรรยาสุดที่รักของฮาจิเมะจังล่ะมั้ง”











    ถึงหล่อนจะเติบโตขึ้นมาก




    แต่สุดท้ายก็ยังเป็นแค่ยัยโทรุจอมพูดมากขี้แงแถมหน้าไม่อายของเขาคนเดียวอยู่ดี



    --...




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in