เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
twinkle, twinkle, little starsbvxvinn
D10 | overwhelmed



  • “อิวะอิสึมิ ถามอะไรหน่อยสิ”


    “หืม”


    “นายกับโออิคาวะจังเป็นแฟนกันรึเปล่า”


    แค่ก แค่ก แค่ก!


    อิวะอิสึมิ ฮาจิเมะไอโขลกเขลก สำลักน้ำอัดลมที่ดื่มอยู่ ด้วยโดนคำถามจู่โจมไม่ทันตั้งตัว เขาหันมองเพื่อนร่วมวงดนตรี ขมวดคิ้ว แล้วขึ้นเสียงดัง


    “ถามอะไรของนาย!”


    “เอ้า! ก็อยากรู้ไง คนอื่นก็อยากรู้” ไม่ว่าเปล่า ยังพะยักเพยิดไปรอบวง


    สิ่งที่ได้กลับมาคืออาการพยักหน้าโดยพร้อมเพรียง


    เขาย่นจมูก หน้าปุเลี่ยน “ใครจะไปอยากเป็นแฟนยัยนั่นกัน!”


    “เยอะแยะ” มือเบสตอบทันใด “ฉันยังอยากเลย”


    คำสารภาพจากเพื่อนในกลุ้มทำให้เขาเบิกตากว้าง ตกใจกับสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้ “อะไรนะ นายอยากเป็นแฟนกับยัยนั่นเหรอ”


    “ยัยนั่นของนายน่ะคือควีนนะ อิวะอิสึมิ ใครๆ ก็อยากได้เป็นแฟน” พ่อหนุ่มมือกลองรีบสมทบ ทำให้เขาสงสัยว่าหมอนี่ก็คงเป็นอีกคนที่อยากคบหากับโออิคาวะ “สวย สูง หุ่นดี ดีกรีกัปตันทีมวอลเล่ย์บอล แถมยังเป็นนางแบบอีก”


    อิวะอิสึมิย่นหัวคิ้ว พยายามคิดภาพตามเพื่อน


    ใบหน้าของโออิคาวะบนหน้านิตยสารแล่นเข้ามาในห้วงคิด


    ...ก็พอจะเข้าใจอยู่หรอกว่าโออิคาวะมีเสน่ห์อย่างไร แต่ไม่ว่ายังไงยัยเด็กกะโปโลบ้านใกล้ ก็ยังเป็นยัยเด็กคนเดิมคนนั้นของอิวะอิสึมิอยู่ดี


    และเขาไม่อยากได้เด็กคนนั้นเป็นแฟนแน่


    “ไม่ต้องมาทำเบี่ยงประเด็นเลย ตกลงว่านายคบอยู่กับโออิคาวะจังหรือเปล่า”


    “เปล่า” เขาตอบทันใด รวดเร็วอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิดซ้ำสอง


    เพราะมันคือความจริง


    แต่เพื่อนพ้องของเขาดันตีความหมายไปอีกทาง คิดว่าการที่อิวะอิสึมิรีบตอบนั้นมีพิรุธ ต้องปิดบังบางสิ่งเป็นแน่แท้ “ทำไมต้องรีบตอบ โกหกแน่ๆ แอบคบกันล่ะสิ”


    “บอกว่าเปล่าก็เปล่าไง” เขาสวน เริ่มมีความหงุดหงิดแฝงปนในน้ำเสียง ตอบตามจริงแล้วยังจะไม่เชื่อกันอีก “ทำไมถึงคิดว่าฉันคบกับยั่ยนั่น หา”


    “ก็พวกนายสนิทกันจะตาย” เพื่อนนักร้องนำว่า “มาโรงเรียนพร้อมกันทุกเช้า”


    มือกลองต่อ “กลับบ้านพร้อมกันทุกเย็น”


    “บางวันก็ไปกินข้าวกลางวันกันสองคน”


    “แถมยังมีชื่อเล่นให้กันอีก”


    “ชื่อยัยบ้านี่นับเป็นชื่อเล่นด้วยเหรอ” อิวะอิสึมิถาม ตามความคิดเพื่อนไม่ทัน เขาด่าหล่อนทุกวัน ไหงกลายเป็นการตั้งชื่อเล่นให้กันไปได้


    “นายเรียกควีนว่ายัยบ้าคนเดียวนี่หว่า ไม่เห็นเรียกผู้หญิงคนอื่น”


    ก็เพราะเขามีมารยาทมากพอที่จะไม่ใช้คำหยาบคายกับเด็กสาวที่ไม่สนิทกันไง อิวะอิสึมิกำลังจะอ้าปากเถียงกลับไปแล้ว แต่เพื่อนมือเบสกลับแทรกขัด


    “สรุปว่านายไม่ได้คบกับโออิคาวะจังอยู่?”


    “เออ”


    คำยืนยันส่งให้เพื่อนทั้งสามถอนหายใจโดยพร้อมเพรียง สีหน้าโล่งอก “แสดงว่ายังมีความหวัง”


    “ความหวังอะไร”


    “ที่จะได้คบกับโออิคาวะจังไง”


    เขาขยับตัวยุกยิก ชักเริ่มอยู่ไม่สุข ทำไมต้องคุยกันเรื่องนี้ด้วย “ทำไมถึงจะมาอยากคบตอนนี้ แถมใกล้จะเรียนจบอยู่แล้ว…”


    “ก็เพราะกำลังจะจบไง ถึงได้อยากคบ” เด็กหนุ่มนักร้องนำว่า กอดอก ตีหน้าขึงขัง “ไม่อย่างนั้นจะพลาดโอกาสไปตลอดชีวิตแล้วนะ”


    ขนาดนั้นเชียว


    “ถ้านายไม่ได้ชอบโออิคาวะจัง ฉันแนะนำว่านายควรจะถอยๆ ออกมาบ้าง” เพื่อนมือกลองตบไหล่เขาสองป้าบ ก่อนจะบีบแน่นอีกสองที “คนอื่นจะเข้าใจผิดเอา”


    “ทำไมต้องกลัวเข้าใจผิด”


    “เพราะไม่ได้มีแค่พวกฉันที่เข้าใจผิดไง” มือเบสตอบ “พวกเด็กผู้หญิงที่เข้าใจผิดก็จะไม่กล้ามาสารภาพรักกับนาย นายก็จะไม่มีแฟนนะ อิวะอิสึมิ”


    ฟังดูมีเหตุผล


    เพราะตั้งแต่เลิกกับแฟนคนแรกไป ก็ไม่มีวี่แววของเด็กสาวคนไหนเข้าใกล้เขาอีกเลย


    เขาเก็บเอาสิ่งที่เพื่อนพูดกลับไปนั่งคิด นอนคิดอยู่หลายตลบ สุดท้ายก็ตัดสินใจถอยห่างจากหล่อนอย่างที่เพื่อนแนะนำ ไม่มาโรงเรียนพร้อมกัน ไม่กลับบ้านพร้อมกัน เลิกแวะไปหาที่บ้าน ใช้เวลาว่างส่วนใหญ่กับการอ่านหนังสือเตรียมสอบ และพักผ่อนกับกลุ่มเพื่อนผู้ชาย










    อิวะอิสึมิไม่ได้กลัวว่าตนเองจะไม่มีแฟน เขาไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย


    แต่ถ้าเขายังตัวติดกับหล่อนต่อไป… โออิคาวะนั่นแหละที่จะไม่มีแฟนเสียเอง


    เขารู้ว่ามีคนหลายคนอยากสานสัมพันธ์กับเด็กสาว


    และไม่อยากตัดโอกาสเพื่อน


    ...จึงเลือกที่จะถอยห่างออกมาเสีย













    ผ่านไปสองอาทิตย์หลังพยายามหลบหน้าเด็กสาว อิวะอิสึมิก็โดนโออิคาวะดักรอที่หน้าประตูโรงเรียน


    เด็กสาวส่งยิ้มให้เขา เป็นรอยยิ้มปลอมเปลือกที่เขาไม่ชอบ และหล่อนเองก็รู้ว่าเขาไม่ชอบ


    สัญญาณไม่ดี


    เขามองกลุ่มเพื่อนรอบตัว ถอนหายใจ แล้วบอกลา ขอแยกทางกันที่รั้วโรงเรียน รอให้กลุ่มเด็กหนุ่มเดินไปจนลับสายตา จึงเผชิญหน้าโออิคาวะ


    “กลับบ้านกัน” หล่อนว่า


    “ไม่เอาล่ะ เธอก็กลับกับพวกเพื่อนผู้หญิงของเธอไปสิ”


    โออิคาวะกอดอก “แต่ฉันอยากกลับบ้านกับอิวะจัง”


    “แต่ฉันไม่อยากกลับบ้านกับเธอ”


    โออิคาวะชะงัก เขาเห็นความเสียใจในแก้วตาคู่สวย หล่อนอับจนด้วยคำพูด ดูตกใจที่ได้ยินอิวะอิสึมิตอบกลับไปตามตรง


    “...ทำไมล่ะ”


    “เหตุผลของฉัน”


    “...ฉันทำอะไรให้อิวะจังโกรธเหรอ”


    เขาไม่ตอบ เสมองฟ้า สองมือสอดในกระเป๋ากางเกง กำและคลายอยู่ภายใน ระบายความอึดอัดที่อัดแน่นเต็มช่องอกผ่านการขยับมือ


    พวกเขาต่างคนต่างเงียบ เนิ่นนาน


    เสียงสะอึกสะอื้นเรียกความสนใจของเขาได้ชะงัด


    เมื่อหันไปตามที่มา พบว่าโออิคาวะ โทรุกำลังร้องไห้ ใบหน้าขาวนวลของหล่อนเปื้อนน้ำตา หัวไหล่สั่นไหวตามแรงอารมณ์


    ภาพที่ทำให้หัวใจของเขาหล่นวูบ


    “ฉันทำอะไรผิด…” สองมือของเธอปาดน้ำตาออกจากหน้า สะอื้นไห้อย่างน่าสงสารและหมดสภาพ ไม่เหลือความเป็นควีนจอมทรนงอยู่แม้แต่น้อย “ทำไมอิวะจังต้อง...เกลียดฉันด้วย”


    “โออิคาวะ…” เขาเลิ่กลั่ก มองซ้ายขวา กลัวเหลือเกินว่าจะมีใครผ่านมา และจะตกเป็นเป้าครหาเข้า


    “เราเป็น… เป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ” โออิคาวะว่า “เราเป็นเพื่อนกันนะ อิวะจัง”


    เป็นเพื่อนกัน


    นั่นคือความจริง


    น่าแปลก ที่ความจริงนั้นบีบรัดหัวใจอิวะอิสึมิมากกว่าที่ควรจะเป็น


    “โออิคาวะ…” เขายื่นมือเข้าไปหาเธอ ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้ แถมเธอยังปัดมือเขาทิ้งอย่างไม่ไยดี อิวะอิสึมิถึงกับตั้งหลักไม่ถูก “เฮ้ โทรุ… ฉันขอโทษ”


    เธอส่ายหัว เอาแต่ร้องไห้


    เด็กหนุ่มเริ่มกระสับกระส่าย ไม่รู้จะง้ออย่างไร “ขอโทษ… ไปเถอะ กลับบ้านกัน”


    เพราะขืนยืนตรงนี้ต่อไป ต้องมีใครสักคนมาเจอเข้าแน่


    เธอเอาแต่ร้องไห้อยู่อีกพักใหญ่ ปล่อยอิวะอิสึมิยืนเคว้ง พยายามปลอบประโลมอย่างอ่อนโยนที่สุดเท่าที่เด็กหนุ่มวัยคะนองอย่างเขาจะทำได้


    ห้านาทีผ่านไป เสียงสะอื้นเริ่มเบาลง แต่หล่อนยังไม่ยอมมองเขา ซ่อนใบหน้าไว้ใต้มือขวา แล้วยื่นมือซ้ายออกมาเบื้องหน้า


    “...จับมือหน่อย”


    เขากะพริบตา อยากถามกลับว่าจะบ้าเหรอ จะจูงมือกันกลับบ้านเป็นเด็กอนุบาลได้อย่างไร แต่เพราะมีชะนักติดหลัง จึงทำได้แค่พยักหน้า ใช้มือขวาจูงจับมือโออิคาวะไว้ แล้วออกเดินทางกลับบ้าน


    ฝ่ามือนั้นยังสั่นตามแรงสะอื้น… แต่นุ่มและอบอุ่นกว่าที่เคยจดจำได้


    เด็กหนุ่มเสมองฟ้า พยายามไม่มองคนข้างตัว หวนนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต สมัยอนุบาลจนประถมหนึ่งเขาเคยจูงมือกันกลับบ้านแบบนี้ แต่นั่นก็หลายปีมาแล้ว


    มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากเหลือเกิน


    เขาโตขึ้น โออิคาวะเองก็โตขึ้น กลายเป็นสาวที่หนุ่มๆ หมายปอง สวยสดงดงามและเพียบพร้อม ถึงนิสัยจะยังมีปัญหาเหมือนเดิม แต่ก็มีข้อดีมากมายเพิ่มมาเติมเต็มข้อบกพร่องเหล่านั้น


    หล่อนสูงขึ้น ผมยาวขึ้น ตัวนิ่มขึ้น หอมขึ้น… สวยขึ้น


    หัวใจของเขาเต้นแรง


    เพิ่งได้พินิจพิจารณาเพื่อนของเขาอย่างละเอียดถี่ถ้วนก็ตอนนี้เอง













    ฝ่ามือที่กอบกุมมือหล่อนไว้ชื้นเหงื่อ



    แต่เขากลับกำแน่นขึ้น ไม่ยอมปล่อย











    ไม่อยากปล่อยไป












    อา… บางทีเขาคงเผลอตัวเผลอใจ ปรารถนาจะครอบครองสิ่งใกล้ตัวที่ไกลเกินเอื้อมไปแล้วสินะ….



    —..




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in