Title : can you hear my heart beating | ผมหลงทาง..ในที่แห่งหนึ่งที่ผมคุ้นเคย
Author : Sean
Pairing : Colin Firth x Hugh Grant
Rating : No Rate
ติชม #seanfic
II
‘ผมทำอาหารค่ำไว้แล้ว..รอทานพร้อมคุณนะ’
‘โอเคครับ :)’
‘ให้ผมไปรับที่ออฟฟิศมั้ย’
‘ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวผมเดินกลับเองก็ได้ใกล้ๆ’
‘แน่ใจนะ..’
‘แน่ใจสิอีกครึ่งชั่วโมงผมก็ทำงานเสร็จแล้ว รอหน่อยนะ’
‘โอเค..ผมจะรอ’
‘งั้นผมไปทำงานก่อนนะคอลิน’
‘รักคุณนะ’
‘รักคุณเหมือนกัน :)’
กาแฟครึ่งค่อนแก้วถูกกระดกดื่มรวดเดียว- ชายหนุ่มตาฟ้าวางแก้วลงบนโต๊ะซ้ำลงที่เดิม ที่ซึ่งเขาเคยวางมันไว้ก่อนหน้า
คราบของน้ำกาแฟติดอยู่ใต้ก้นแก้วกระเบื้อง
เป็นทุกครั้งที่เขาชงกาแฟเองแล้วต้องมีคราบเลอะเทอะ..
ต่างกับคอลินเขาไม่เคยทำกาแฟหกเลยสักครั้ง แถมรสชาติยังดีกว่ามาก
แต่สำหรับฮิวจ์แล้ว เขาเพียงแค่ทำให้พอดื่มได้กันง่วงเท่านั้นก็พอ
ฮิวจ์มองภาพบนหน้าจอมือถือที่แสงสว่างค่อยๆดับลงตามเวลาที่ตั้งไว้
ภาพของเขาและอีกคนที่เคยถ่ายด้วยกันตอนไปเที่ยวทะเล..
ฮิวจ์ชอบทะเลและคอลินก็ชอบทะเลเหมือนกัน
นาฬิกาดิจิตอลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะบ่งบอกเวลาว่าตอนนี้หกโมงกว่าๆแล้ว
ชายหนุ่มเบนสายตาไปยังกองเอกสารปึกหนึ่งที่วางอยู่ใต้โทรศัพท์มือถือของเขาอีกครั้ง
ฮิวจ์เก็บเครื่องสื่อสารสี่เหลี่ยมนั้นไว้ในกระเป๋าเสื้อและเลื่อนกองเอกสารมาไว้ข้างหน้าตัวเอง
หนุ่มตาฟ้าขยับแว่นของตัวเองที่คาดอยู่บนศีรษะลงมาสวม- หน้ากระดาษของเอกสารถูกเปิดออก
สิ่งที่ควรเกิดขึ้นต่อจากนั้นคือปลายปากกาที่จรดลายเซ็นลงบนช่องว่างซึ่งด้านใต้เป็นชื่อของเขา แต่จู่ๆปลายปากกากลับถูกลากไปยังทิศตรงข้ามกับที่เขาตั้งใจจะเขียน
ภาพมือทั้งสองข้างของตัวเอง, ที่เขามองเห็นมันซ้อนทับกันหลายชั้นจนปวดหัว
เกิดอะไรขึ้น!?
ชั่วขณะหนึ่งที่เขาก้มลงและจับปากกา ภาพข้างหน้ากลับมึนมัว
โลกทั้งใบเงียบสงัดลงกับตา ไม่มีเสียงรถราที่สัญจรอยู่บนท้องถนน
ไม่มีแม้แต่เสียงไซเรนบนรถตำรวจ
หรือแม้กระทั่งเสียงของเข็มนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนัง
ผมรู้สึกชาไปทั้งตัว, ราวกับถูกแช่แข็งอยู่ในทะเลตอนฤดูหนาว
ผมแทบจะขยับตัวเองไม่ได้
มีเพียงแค่เสียงตุบๆของสมองเท่านั้นที่ยังดังก้องอยู่ในหูทั้งสองข้าง
ภาพมัว..ที่ซ้อนทับอยู่ตรงหน้า ผมจำได้ว่าเคยเห็นมันครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานนี้
‘ คอลิน.. ’
จู่ๆคำๆนี้ก็ปรากฏขึ้นในหัว- ไม่รู้ว่าทำไมคอลินถึงเป็นคนแรกที่ฮิวจ์นึกถึง
แต่ทุกครั้งที่ฮิวจ์ตั้งคำถามกับตัวเอง คอลินจะเป็นคำตอบแรกๆของเขาเสมอ
และเขารู้เพียงแค่ว่าตอนนี้ต้องกลับบ้าน
ใช่- กลับบ้านไปหาคอลิน..ก่อนที่ทุกอย่างมันจะแย่ลงไปมากกว่านี้
เอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ แม็คบุคที่เปิดโหมดสลีปเอาไว้
ชายหนุ่มกวาดมันใส่ลงในกระเป๋าสะพายข้างที่พิงอยู่ข้างโต๊ะ
ผมพยายามมองไปรอบๆตัวให้ละเอียดและถ้วนถี่เท่าที่จะทำได้เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ลืมอะไรไว้
“ไม่อยู่ทำงานต่อแล้วเหรอครับ คุณแกรนท์” ลุงยามเอ่ยทัก ที่ป้อมยามป้อมเล็กหน้าบริษัทยังมีโทรทัศน์ที่กำลังส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเป็นเพื่อนชายชราที่อายุห้าสิบปลายๆ
“อ่า- วันนี้ผมมีธุระด่วนน่ะครับ ต้องรีบกลับแล้ว..” นัยน์ตาสีฟ้าทั้งสองข้างของชายหนุ่มเพ่งมองแสงสว่างที่มืดมัวของหลอดไฟเหนือศีรษะของผู้เอ่ยทัก
“เป็นอะไรหรือเปล่าคุณแกรนท์ ไม่สบายหรือ ทำไมหน้าซีดเชียว” ท่าทางร้อนรนและสับสนของชายหนุ่ม ทำให้ชายชราเลือกที่จะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ผมรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อยน่ะครับคุณลุง..” ฮิวจ์ส่ายหัวเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นบนในหน้าจนเขาต้องหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนบางที่ใช้เช็ดริมฝีปากของคนตัวโตขึ้นมาซับเหงื่อของตัวเองแบบลวกๆ “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับลุง”
“ไปดีมาดีนะพ่อหนุ่ม” ชายชราโผล่หน้าออกมาจากป้อมยามหลังเล็ก มองตามแผ่นหลังของชายตัวสูงท่าทางเลิ่กลักนั่น แต่ลึกๆแล้วเขายังคงเป็นห่วง ท่าทางแล้วคุณแกรนท์คงจะไม่สบายจริงๆเลยขอกลับก่อนเวลาที่เคยบอกตนไว้เมื่อตอนเที่ยงวัน
แต่อย่าหาว่าคนแก่ยุ่งเรื่องชาวบ้านเลย
เขาอดห่วงไม่ได้จริงๆ..คุณแกรนท์เป็นคนดีคนหนึ่งที่ชีวิตของลุงยามคนนี้จะได้พบสักครั้งในชีวิต
.
มือสั่นๆกับนิ้วที่ดูเหมือนหนังหุ้มกระดูกกดจิ้มลงบนหน้าปัดของโทรศัพท์เครื่องสีครีมประจำตำแหน่ง
ดวงตาสีฝ้าฟางใต้แว่นกลมหรี่มองตัวเลขสิบหลักบนแผ่นกระดาษโน้ตที่แปะอยู่บนผนัง
เป็นเบอร์โทรศัพท์มือถือของคนคนหนึ่งที่เขียนต่อท้ายเลขสิบหลักด้วยคำว่า ‘คอลิน’
III
ในช่วงหนึ่งของวัยเด็ก สิ่งที่ฮิวจ์ชอบที่สุดคือการเดินป่ากับคุณปู่ของเขา,
ไม่เชิงว่าชอบมันเสียที่เดียวหรอก.. แต่ว่านั่นเป็นเพียงกิจกรรมเดียวที่คุณปู่กับเขาจะทำร่วมกันได้ในเมืองชนบท ใกล้กับผืนป่ากว้างที่เต็มไปด้วยสิ่งน่าค้นหามากมาย
ปืน.. ใช่ ปืนไรเฟิลด้ามยาว- เขาใช้มันเป็นตั้งแต่ก่อนขึ้นเกรดแปด
คุณคิดว่าการใช้เวลาเข้าป่าพักแรมหลายๆคืนเพียงเพราะต้องการพักผ่อนเสียอย่างเดียวอย่างนั้นหรือ
บางคนอาจจะใช่..แต่ไม่ใช่แน่ๆสำหรับฮิวจ์ แกรนท์
“ถ้าเธอหลงป่าในตอนกลางคืน..ให้มองหาดาวเหนือที่อยู่บนท้องฟ้า มันจะพาเธอกลับบ้าน”
“ฮะ..” เด็กน้อยตาฟ้าเงียบไปหนึ่งอึดใจ “..แต่ว่าถ้าวันหนึ่งผมหลงป่าคนเดียว คุณปู่จะตามหาผมไหมฮะ”
ชายชรายกยิ้มกว้าง “ตามสิ..ให้พลิกป่าตามหา ปู่ก็จะทำ”
“จริงนะฮะ”
“จริงสิหลานรัก..ปู่จะไม่ยอมให้หนูหายไปไหนแน่นอน”
อ้อมแขนบอบบางของเด็กชายโอบกอดรอบร่างใหญ่โตของชายชราที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โยกโดยที่มีเขานั่งอยู่บนตัก รอยยิ้มอบอุ่นกับมือหยาบกร้านที่ลูบผมนุ่มของเด็กน้อย
เขารู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของคุณปู่ผู้เป็นที่รัก
เป็นอ้อมแขนเดียวกันนั้น อ้อมแขนเดียวกันกับที่กำลังโอบกอดรอบตัวเองอยู่ในตอนนี้..
แต่ทำไมมันช่างเปล่าเปลี่ยวเหลือเกิน
สิ่งเดียวที่เขาภาวนาคงเป็นเพียงอ้อมกอดจากคนที่เขารัก
โอบกอดเขาและบอกว่า ‘ไม่เป็นไร’
เขาได้แต่ภาวนา..
ได้โปรด...
ผมหลงทาง..ในที่แห่งหนึ่งที่ผมคุ้นเคย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in