ฉันชอบนำเวลาส่วนใหญ่ในชีวิตของฉันไปทิ้งไว้กับธรรมชาติใกล้ๆตัว ฉันอาจจะเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใครมากนัก นอกจากพวกสัตว์ หูฟัง แล้วก็สิ่งที่ตัวเองชื่นชอบและสนใจ พวกมันเป็นผู้ฟังที่ดีทั้งนั้นสำหรับฉัน พวกมันพร้อมจะรับฟังทุกๆเรื่องแย่ของฉันก็จริง แต่มันกลับกลายเป็นว่าตัวฉันเองต่างหาก ที่เอาใจใส่สิ่งของ และสิ่งที่มีชีวิตพวกนั้นมาก เอาใจใส่มากเกินกว่าจะนึกถึงเรื่องราวที่ร้ายๆเวลาที่ได้อยู่กับพวกมัน
.
เจ้าเป๊บซี่สุนัขพันธุ์ผสมระหว่างพุดเดิ้ลกับชิทสุ วันหนึ่งมันก็ได้เข้ามาวิ่งเล่นในบ้านฉัน เพราะเจ้าของเก่ามันเอามันมาให้ยายฉันเลี้ยง ตอนนั้นมันยังเป็นแค่ลูกหมาตัวเล็กมากๆ และหางด้วนๆที่กระดิกไปมาของมันทำให้ฉันเอ็นดูปนสงสาร ทุกวันนี้ฉันยังตอบตัวเองไม่ได้เลย ว่าที่มันต้องโดนตัดหางทิ้งไป มันกำลังคิดอะไรอยู่นะ ฉันไม่รู้แม้กระทั่งว่าตอนนี้มันจะทำใจเรื่องหางตัวเองได้รึยัง
.
ตอนเด็กฉันจะแวะไปหาเจ้าเป๊บซี่ที่บ้านยายตอนเย็นๆเสมอ ทุกครั้งที่ฉันเรียกมันด้วยเสียงไก่กาตามประสา เสียงกระดิ่งที่คอของมันก็ดังปรี่เข้ามาหาอย่างไว นานวันเข้าความรู้สึกสงสารเวลาที่เห็นหางสั้นนั้นก็เริ่มน้อยลงไป เหลือเพียงแต่ความเอ็นดูในขนหยิกๆสีดำสนิททั่วตัวของมันแทน
.
เวลาผ่านไปเรื่อยๆเมื่อฉันเริ่มโตขึ้น เวลาที่ฉันมีให้เจ้าเป๊บซี่ก็น้อยลงไปเรื่อยๆ จนถึงวันแต่งงานน้าสาวของฉัน น้าและสามีของเขาก็พาตากับยายไปอยู่บ้านที่ปลูกใหม่ และเจ้าเป๊บซี่ก็ถูกพาไปด้วย ฉันแทบจะไม่ได้เห็นมันอีกเลย จนคิดว่ามันจะจำฉันไม่ได้แล้ว แต่ฉันก็ยังแวะเวียนไปเยี่ยมที่บ้านน้าเป็นครั้งคราว เพื่อที่จะไปช่วยตายายดูแลหลานด้วย
.
จนกระทั่งฉันสอบติดมหาวิทยาลัยที่ต่างจังหวัด มันช่างเหนื่อยแสนเหนื่อยสำหรับคนที่ชื่นชอบความสงบ คนอย่างฉัันเผชิญหน้ากับความวุ่นวายได้มากที่สุดก็คือลมแรงๆ กับฝนเม็ดใหญ่เท่านั้นล่ะ แต่เมื่อหลายอย่างมันเปลี่ยนแปลงไป ฉันก็ต้องปรับตัวให้ทัน กิจกรรมต่างๆที่ฉันทำ และคำพูดจากคนอื่นๆที่ฉันได้ฟัง มันทำให้ฉันแปลกใจว่าทำไมคนที่โลกส่วนตัวสูง ไม่สุงสิงกับใคร และไม่เคยแตะกิจกรรมใดๆาหลายปี ถึงทำสิ่งเหล่านั้นได้
.
ในที่สุดวันสอบปลายภาควันสุดท้ายก็มาถึง ฉันสะสางงานและกิจกรรมต่างๆไปหมดด้วยความเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันยังกระตุ้นฉันให้อดทน นั่นคือความตั้งใจของฉันที่จะใช้ชีวิตให้ได้ด้วยตัวของตัวเอง นั่นทำให้ฉันมีแรงใจฮึดทุกครั้งที่นึกถึงมัน
.
ฉันนั่งภาวนาทุกครั้งระหว่างกลับบ้านโดยรถตู้โดยสาร จะว่าไปฉันเพียงแค่ทำใจให้สงบเฉยๆเท่านั้น บ่อยครั้งฉันมักจะคิดว่าเราควรจะเขียนอะไรไว้เพื่อสั่งลาคนอื่นๆรึเปล่านะ แต่สุดท้ายฉันก็มาถึงบ้านปลอดภัยทุกครั้ง นี่คงถือว่าเป็นโชคดีอย่างหนึ่ง ซึ่งแม้จะโชคดีแต่ฉันก็ต้องเลิกใช้บริการด้วยความรู้สึกในวันหนึ่งที่รู้ข่าวว่าเพื่อนได้จากไป มันทำให้ฉันคิดว่าไม่ควรจะเสี่ยงอีกแล้ว
.
ทุกครั้งที่ถึงบ้านสิ่งแรกๆที่ฉันจะทำ คืออาบน้ำแต่งตัว แล้วขี่รถเครื่องไปบ้านอา และ บ้านน้า เพื่อไปหาทุกคนในครอบครัวให้ครบ ทั้งปู่ย่า ตายาย ทุกๆครั้งที่ฉันโผล่ไปให้เห็นหน้า พวกท่านมักจะชอบให้เงินฉันเสมอ ซึ่งในตอนเด็กฉันก็ชื่นชอบมัน ถึงแม้ว่าแม่จะสอนฉันตลอดว่าไม่ให้รับเงินเหล่านั้น เพราะปู่ย่าตายายเขาไม่ค่อยมีใช้ นั่นทำให้ฉันปฎิเสธทุกครั้งเวลามีคนยื่นเงินให้โดยที่ไม่มีเหตุผล ฉันไม่อยากให้ใครคิดว่าฉันไปหาพวกท่านเพราะอยากได้เงินหรอก
.
คิวสุดท้ายในการเยี่ยมญาติมักจะเป็นที่บ้านน้าเสมอ เพราะอยู่ไกลที่สุด ทุกครั้งที่ฉันเปิดประตูและทำเสียงไก่กาเช่นเดิม ทุกๆอย่างก็จะเกิดขึ้นเหมือนอย่างที่มันเคยเกิดเมื่อหลายปีก่อน หางด้วนสั้นยังคงระริกรี้เข้ามาหาฉันเช่นเดิม จะมีที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างก็คงเป็นท้องที่เปล่งพองออกมาของมัน
.
เจ้าเป๊บซี่ป่วยเป็นโรคตามอายุขัยเกือบ 20 ปีของมัน ยายบอกว่ามันเป็นมะเร็ง ยายไม่มีเงินค่าผ่าตัด และหมอบอกว่าถึงผ่าไปมันก็ตายอยู่ดีเพียงแค่อยู่ได้นานขึ้นเท่านั้น ฉันเรียกเจ้าเป๊บซี่ที่วิ่งโลดโผนทั่วบ้านให้มานอนที่ตัก เอามือลูบหัวมันเบาๆ ในหัวฉันคิดว่ามันจะรู้ไหมนะว่ามันกำลังจะตายแล้ว แต่ฉันก็ไม่ได้คำตอบเช่นเดิม สิ่งที่ฉันพอจะทำได้คือให้มันรู้จักกับความรัก ความอบอุ่นมากที่สุดเท่าที่ฉันจะให้มันได้ ก่อนที่มันจะตาย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in