เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
หนาวนี้ที่จีนBabbityRabbity
Day 2 - เมฆเยอะไป | Shangri-La (แชงกรีล่า)
  • เช้าวันที่ 17 ธันวาคม 2019 เรามาถึงแชงกรีล่ากันตอนประมาณ 9 โมงกว่า เราใช้เวลาอยู่บนบัสนอนทั้งหมดประมาณ 14 ชั่วโมง ย้ำนะคะ 14 ชั่วโมง ในที่สุดเราก็ถึงท่ารถบัส ขอเรียกแบบนี้ละกันนะคะ หลังจากเดินวนหาทางออกอยู่นานเราก็ตกลงกันว่าจะไปหาแท็กซี่ไปที่พักกัน เพราะไปรถเมล์ไม่ถูก ประสบการณ์โบกแท็กซี่ที่นี่เหมือนประเทศไทยเลยค่ะ ไม่มีคนรับเลย จำได้ว่าโบกไปเกือบ 10 คัน เค้าก็บอกแต่ว่าไม่รู้จัก ๆ แต่ตอนเรากดดูจาก GPS ของที่พักคือมันอยู่ห่างจากท่ารถบัสไม่ไกลเลย 

    ทุกคนงงใช่ไหมว่า ถ้าเราพลาดที่พักที่แชงกรีล่า แล้วเราจะยังไปที่พักกันทำไม เพราะเมื่อวาน we chat ไปหาที่พักแล้วว่า เราตกรถเลยต้องแคนเซิลที่พัก ก็คือเรากับเพื่อนซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าไปภูเขาสือข่า (Shika Snow Mountain) จากที่พักค่ะ คือเราอ่านรีวิวมาเค้าบอกว่า ถ้าเรา walk in เข้าไปซื้อเลยอาจจะรอคิวนาน แล้วอาจจะได้ตั๋วแพงกว่าซื้อตั๋วแบบซื้อผ่านพวกที่พัก เราก็เลยถามที่พักเราว่า เราซื้อตั๋วผ่านคุณเลยได้ไหม เค้าก็บอกโอเคจะหาตั๋วไว้ให้ 2 ใบ เราก็เลยจ่ายเงินค่าตั๋วกันตั้งแต่ก่อนบินคนละ 180 หยวน

    และสุดท้ายเราก็เจอแท็กซี่ที่รู้ทางค่ะ เค้าก็พาเรามาส่งตาม GPS เราถามว่าถึงแล้วเหรอ เค้าก็บอกเนี่ยตรงนี้แหละ อ่อ แล้วก็ค่าแท็กซี่ไม่แพงมาก หารกันออกมาตกคนละ 7.5 หยวน เราแนะนำว่าก่อนขึ้นให้ถามราคาเค้าก่อนว่าเท่าไหร่กันพลาดนะคะ แต่จนแล้วจนรอดเรากับเพื่อนก็หาที่พักกันไม่เจอ เดินวนไปวนมา ตอนนั้น GPS ใช้ไม่ได้แล้วเพราะมันรวน เลยตัดสินใจเดินย้อนไปอีกทาง จำได้ว่าตอนนั้นหนาวมาก โคตรหนาว หนาวแบบมีลม กระเป๋าก็หนัก ร้านแถวนั้นยังไม่มีร้านไหนเปิดเลย 2 ข้างทางก็ไม่มีคนเดินสวนมาเลย เคว้งกว่าตอนหารถอีก จนเจอคนนึงเดินสวนมาเลยเข้าไปถามทางเค้ากัน สรุปแล้วตรงที่แท็กซี่ส่งนั่นแหละแ่เดินเข้าไปในซอยอีกนิดกถึงแล้ว เสียเวลาอยู่ตั้งนานสองนาน 

    ที่พักที่เราจองตั๋วไว้ด้วยคือ Yi's Hostel เสียดายมาที่มาไม่ทันนอนที่จองไว้ เพราะที่พักเค้าสวยดี มีโซนคาเฟ่ตรงหน้าที่พักด้วย แมวเค้าก็อ้วนมาก เจ้าของพูดภาษาอังกฤษได้ สบายหายห่วง ทีเด็ดอยู่ตรงนี้ค่ะ ราคาตั๋วที่เราซื้อคือมีคนขับรถพาไปถึงที่ภูเขาเลยนะคะ ตอนแรกเรานึกว่าจะเป็นแบบแชร์รถกันกับคนที่ซื้อทัวร์คนอื่น แต่พอไปจริง ๆ คือได้ Private Car เลย นั่งกัน 2 คนสบายมากกกก คนขับเค้าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แต่เค้าใจดีมาก พยายามคุยด้วยตลอด 


    พอถึงคนขับเค้าก็บอกจะรอข้างล่างนะ ถ้าเราเสร็จแล้วให้ we chat หาเค้าได้เลย พอเดินเข้าไปก็เจอนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่กลุ่มนึงเค้าเดินเค้าไปก่อน เราก็รอคิวปกติ พอถึงตอนเรายื่นตั๋ว พนักงานเค้าเหมือนจะไม่ให้เราขึ้นไปข้างบน เราก็พยายามถามว่า ทำไมไม่ให้เราขึ้น แต่ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษได้เลย เรากับเพื่อนก็พูดจีนไม่ได้อีก เลยพยายามคุยกันด้วย Google Translate สรุปได้ความว่า วันนี้มีเมฆเยอะมาก กระเช้าที่จะขึ้นไปถึงยอดเขาไม่เปิดให้ขึ้นไป เพราะว่าอันตราย เราก็เลยถามว่า แล้วทำไมกรุ๊ปก่อนหน้าเราเค้าถึงขึ้นไปได้ล่ะ พนักงานก็บอกว่า กรุ๊ปก่อนหน้าเราเค้าซื้อตั๋วแบบขึ้นเขาแค่ครึ่งนึง เลยสามารถขึ้นไปได้ แต่เราซื้อแบบขึ้นถึงยอดมาเค้าเลยจะไม่ให้เราขึ้น เราเลยบอกเค้าไปว่า ถ้าแบบนั้นเราขึ้นแค่ครึี่งนึงแบบกรุ๊ปนั้นได้ไหม พนักงานบอกว่าได้ แต่ว่าเค้าคืนเงินให้เราไม่ได้นะ เราก็บอกว่าไม่เป็นไร โอเคตอนนี้ผ่านเข้ามาได้แล้ว

    ระหว่างทางเดินไปขึ้นกระเช้าจะเจอจุดที่เค้าขายกระป๋องออกซิเจนด้วย เรากับเพื่อนซื้อมา 1 กระป๋องสำหรับ 2 คน กระป๋องละ 32 หยวน เพราะเราไม่รู้ว่าทางมันเป็นไงเลยเผื่อเอาไว้ก่อน





    หลังจากเดินออกจากกระเช้ามาก็ลุยถ่ายรูปกันเลยค่ะ จริง ๆ ก็ไม่ได้จะทำเวลาอะไรหรอกนะคะ แต่ว่าหนาวมาก มาก แบบมาก ๆ หนาวแบบมีลม มือ 2 ข้างคือชาไปหมดเลย สักพักนึงทนไม่ไหว เพราะด้วยความที่มันโล่งมาก มันเลยลมแรง เห็นมีคุณยายคนนึงอยู่ตรงเพิงแถวนั้น เลยเดินไปหาเค้า สรุปคือคุณยายเค้าขายนมร้อนค่ะ แล้วก็มีก่อกองไฟไว้ข้างในด้วย เราก็เลยลุยค่ะ หลบลมก่อน 55555555555555



    หลังจากกินนมร้อนของคุณยายไปคนละแก้วประมาณ 2 หยวน ตอนนั้นคืออร่อยมาก ไม่เคยคิดว่าจะซดนมร้อนเข้าไปได้แบบไม่กลัวลิ้นพังขนาดนั้นหมดแก้วได้ หลังจากนั่งผิงไฟอยู่สักพักคุณตาที่นั่งอยู่ตรงนั้นเค้าก็เหมือนจะมีของมาขายอีก เป็นเนื้อเสียบไม้ย่าง เราก็ถามว่า เนื้ออะไรเหรอ เค้าก็บอกชื่อมา แต่เราไม่รู้ว่าคำจีนคำนี้มันแปลว่าตัวอะไร แต่ตอนนั้นแปลกันอยู่สักพักว่าเป็นเนื้อกวาง ออกตัวก่อนว่าปกติเราไม่ค่อยกินเนื้อกัน แต่วันนั้นคือไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว มาถึงนี่แล้วลองหน่อยละกัน เลยจักกันไปคนละไม้ ประมาณไม้ละ 5 หยวน พอลองกินดูทุกคน โห้ แบบโห้ เลยอะอร่อยมาก เราไม่รู้ว่าเค้าหมักกับอะไรบ้าง แต่โคตรอร่อย คือมันนุ่มมาก แบบละลายในปาก ถ้าไม่กลัวเงินที่เตรียมมาหมดน่าจะได้นั่งกินต่อจนอิ่ม พูดเลยว่าใครได้ไปต้องลอง ี่เมืองไทยหากินไม่ได้นะคะแบบนี้ เมืองอื่นในจีนก็ไม่แน่ใจด้วยว่าจะมีไหม พอกินเสร็จเราก็ออกมาหาที่ถ่ายรูปกันต่อ



    จะเห็นได้เลยว่านักท่องเที่ยวไม่ได้แน่นเลย เวลาถ่ายรูปจะสบายมาก ไม่ต้องกลัวว่าจะถ่ายติดคนอื่น เราไม่แน่ใจว่าเพราะเรามาเช้าเกินไปไหม เลยเจอคนไม่เยอะเท่าไหร่



    ทุกคนเห็นจุดขาว ๆ ในรูปไหม ๆๆๆๆๆ อันนี้เราแบบตื่นเต้นมาก ความรู้สึกตอนเจอหิมะตกครั้งแรก เราแบบว้าว ขนาดมาเป็นละอองยังหนาวขนาดนี้ ถ้าเจอแบบพื้นขาว ๆ เราจะเอาไงดี 555555555555555555555555555555555555


    และใช่ค่า กระป๋องออกซิเจนก็ไม่ได้ใช้ คือเราไม่ได้รู้สึกว่า ตรงนี้มันสูงถึงขนาดอากาศไม่พอ แต่เราไม่แน่ใจว่า ถ้าเราขึ้นไปถึงตรงยอดเขาข้างบนอากาศจะบางกว่านี้เยอะไหม เพราะตอนดูรีวิวมาข้างบนจะวิวสวยมาก แอบเสียดายนิดหน่อยจังหวะไม่ดีเลย

    พอเดิน ๆ ตาคนอื่นขึ้นไปถ่ายรูปสักพัก ก็เจอกับจามรีทั้งฝูงเลยค่ะ คุณตาคนที่อยู่ตรงเพิงเมื่อตะกี้ก็เดินผ่านมา แล้วก็ชี้ ๆ ให้เราดูว่า เนี่ย ๆ อันนี้แหละคือตัวที่บอกตะกี้ เรากับเพื่อนก็แบบ เอ้า ไม่ใช่กวางเหรอ เป็นจามรี 55555555555555555555



    พอเราเดินเข้าไปจะถ่ายรูปใกล้ ๆ ตอนนั้นมีซีนระทึกเกิดขึ้น เพื่อนเรายื่นกล้องฟิล์มเข้าไปถ่ายรูปใกล้ ๆ พอถ่ายเสร็จ เพื่อนเราเค้าก็หันหน้ามาทางเรา (ตอนนั้นคือหันหน้าเข้าหากัน) จู่ ๆ น้องตัวที่เพื่อนเราถ่ายรูปตะกี้ก็แบบเหมือนจะโดด แบบแต่นิดเดียวนะ ละก็เหมือนจะวิ่งตาม เราแบบตกใจมากตอนนั้น รีบถอยหลังกันใหญ่เลย แล้วภูเขามันเป็นเนินอะ โห้ จุดนั้นคือไม่กล้าล้ม ต้องห้ามล้มด้วย เพราะไม่รู้ว่าน้องแค่เล่น ๆ หรือว่าโมโหคน แน่นักท่องเที่ยวอีกคนที่ยื่นอยู่ใกล้ ๆ เราเค้าก็ตกใจเหมือนกัน แล้วเค้าวิ่งไวมากด้วย แล้วจากนั้นน้องก็หยุดตามเฉยเลย เรากับกับนักท่องเที่ยวคนนั้นก็เลยได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ใส่กัน เราเลยคิดว่าน้องแค่จะเล่นด้วย 

    พอถ่ายรูปกันจนจุใจแล้ว เราก็เลยกะว่าเดี๋ยวจะกลับละ ก็ we chat บอกคนขับรถว่า เรากำลังลงไปนะ พอลงไปถึงข้างล่าง เค้าก็บอกว่า เดี๋ยวจะไปส่งเราที่จุดขึ้นรถ เราไปไปเมืองอื่นยังไง เราก็บอกไปว่าเราจะไป Bus Station นะ เค้าก็แบบโอเค 

    พอมาถึงที่ซื้อตั๋วก็บอกเค้าว่า เราจะไปลี่เจียง โดนค่าตั๋วไปคนละ 62 หยวน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ระหว่างทางเค้าก็มีจอดให้เราที่จุดแวะพักด้วย เผื่อใครอยากเข้าห้องน้ำ หรือว่าหาของกินรองท้อง เราเลยได้หมั่นโถวมาลูกนึง 3 หยวน ลูกใหญ่มากกกก กินตอนร้อนกับอากาศเย็น ๆ คือดีสุด ๆ แล้วก็ได้เกาลัดมาอีกขีดนึง เราตกใจราคาเกาลัดมาก ถุงนั้น 7.5 หยวน คือเราติดภาพจำของราคาที่ไทยว่าแพง พอมาเจอราคาเท่านี้ในปริมาณเท่า ๆ กันเลยตกใจ

    พอมาถึงที่ลี่เจียงเราก็เดินออกมาที่ป้ายรถเมล์หาสถานีเลย ลี่เจียงดูเป็นเมืองที่เจริญกว่าแชงกรีล่าอยู่ ป้ายรถเมล์เค้าก็เป็นระเบียบ ดูง่ายกว่าบ้านเรามาก ตรงป้ายเค้าจะมีแผนที่บอกว่า รถเมล์จะจอดป้ายไหนบ้าง แล้วป้ายนั้นชื่อป้ายว่าอะไร ก่อนมาเราถามที่พักเรามาแล้วว่า จากที่ลงรถบัสเราจะไปที่พักยังไง เค้าก็บอกเราว่าให้เราลงรถเมล์ที่ป้ายนี้นะ เราก็เลยแบบโอเค เราจะขึ้นรถเมล์กันครั้งแรก อ่อ รถเมล์ที่นี่ตลอดสายราคาเดียวเลยนะคะคือ 2 หยวนเท่านั้น เป็นแบบนี้ทุกเมือง เราแบบว้าว ถูกกว่าบ้านเราอีกแล้ว จำได้ว่าตอนขึ้นรถเมล์ คนมองเราใหญ่เลย เพราะแบกเป้กันใบใหญ่มาก มีคุณยายคนนึงเค้าขึ้นรถเมล์มาหลังเรา เค้าหันมาถามอะไรเราสักอย่าง เราเลยได้แต่บอกเค้าว่า ขอโทษนะคะ หนูฟังไม่รู้เรื่อง เค้าก็เลยถามว่า ไม่ใช่คนจีนเหรอ เราเลยบอกว่า ไม่ใช่ค่ะ เป็นคนไทย คุณยายเค้าก็บอกว่า พูดจีนชัดจัง ตอนนั้นแบบแอบหน้าบาน คือหนูก็เรียนมาแค่นี้แหละค่ะ มากกว่านี้ฟังไม่ออกแล้ว 555555555555555555555555555555 

    และในที่สุดเราก็มาถึงป้ายที่เราต้องลงกันค่ะ แต่ว่าหาทางเดินไปโฮสเทลของวันนี้ไม่เจอ เลย we chat ไปหาที่พักว่า เราลงรถเมล์แล้วนะ แต่เราหาทางไปไม่เจอ เค้าก็บอกไม่เป็นไร เค้าเดินมารอพาเราไปแล้ว เราแบบว้าวมาก แล้วก็ที่พักของเราวันนี้ชื่อว่า Lijiang Bayou Hostel หารกันออกมาแล้วตกคนละ 43 หยวนเท่านั้น บริการทุกระดับประทับใจ พอไปถึงเราก็เช็กอินอะไรเรียบร้อย โชคดีที่นี่เค้าพูดภาษาอังกฤษกันได้ก็เลยพอคุยกันรู้เรื่อง

    พอเราเอากระเป๋าเข้ามาเก็บในห้องแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าล้างหน้าล้างตากัน หลังจากที่นอนบนรถกันมาคืนนึง ก็เลยว่าจะออกไปหาอะไรกินกัน เราตั้งใจเอาไว้แล้วว่า มาทริปนี้เราต้องได้กินหม้อไฟ เลยลงมาถามข้างล่างว่า แถวนี้พอจะมีร้านอาหารที่มีหม้อไฟไหม เค้าก็บอกว่า เดินออกไปนิดเดียวก็เจอแล้ว

    พอเดินออกาก็เจอร้านแบบที่เค้าบอกจริง ๆ หลังจากเปิดเมนูดูแล้วบอกตรง ๆ ว่าไม่รู้ว่าคืออะไรบ้าง เพราะเป็นอาหารจีนหมดเลย อาศัยว่าสั่งอาหารที่มีรูปที่แปะอยู่ข้างร้านเอา ตอนนั้นจำได้ว่าหิวกันมาก เพราะทั้งวันไม่ได้กินข้าวเลย เลยจัดชุดใหญ่ สั่งกันแบบหน้ามืด หม้อไฟ 1 ชุด กับข้าวอีกประมาณ 3 อย่าง  มีไก่ทอดราดซอสแดง ซี่โครงหมูทอดกระเทียม แล้วก็ผัดอะไรสักอย่างคล้าย ๆ กิ๋นใส่กับผัก แต่ทุกเมนูอร่อยหมดทั้ง ๆ ที่มากินกันแค่ 2 คน พออาหารมาเสิร์ฟก็ตกใจกันเพราะจานก็ไม่ได้เล็ก แถมยังมาจานพูน ๆ อีก แต่ที่ลืมกันเลยคือ ตอนสั่งลืมนึกถึงตอนแปลงสกุลเงิน แบบโอ้ย คือเมนูในร้านจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30 - 50 หยวนต่อจาน มื้อนั้นเช็คบิลหารกันออกมาตกคนละ 103 หยวน แถมยังกินไม่หมดอีกต่างหาก ของเค้าห่อไก้ทอดราดซอสแดงกลับบ้าน แต่ก็ปลอบใจตัวเองกันว่า ก็ถือว่ารวบ 3 มือเป็นมือเดียวก็ไม่แพงละ พอรับได้อยู่ ก็เลยสบายใจกัน 555555555555555555

    หลังจากอิ่มกันแล้ว แต่ตอนนั้นดูเวลายังไม่ดึกมาก เพิ่งจะประมาณ 2 ทุ่มก็เลยกะว่าลองเดินไปดูห้างแถวนั้นกัน ก็เดินวนดูนู้นดูนี่ไปเรื่อย จนไปเจอร้านคล้าย ๆ กับ Moshi Moshi เลยไปได้ Hotpack กันมา ราคาดีมากแพ็คนั้น 5 หยวน ได้ 10 ชิ้น แต่ด้วยความที่ร้านนั้นคนเยอะมาก แล้วเสื้อกันหนาวที่ใส่มันก็พอง ๆ เราเลยเดินไปเบียดชั้นวางของ แล้วไปทำกระจกเค้าร่วงลงพื้น และใช่ค่ะ มันหัก พนักงานเค้าเลยมาตามเราไปจ่ายเงิน ดีนะที่ของที่ทำพังไม่ได้แพงมาก 29.9 หยวน ไม่งั้นเราแย่แน่ ๆ 

    พอออกจากห้างมาก็เจอร้านขายชาไข่มุกร้านนึง เหมือนจะเน้นไปทางชาผลไม้ เราก็เลยลองสั่งมากินแก้วนึง แต่เห็นในเมนูเค้ามีทั้งแบบร้อนแล้วก็แบบเย็น เลยหันไปถามเพื่อนว่า มีชาไขมุกแบบร้อน แบบไม่ใส่น้ำแข็งด้วยเหรอ เพื่อนเราบอกว่ามี แบบต่างประเทศเค้าหนาว ๆ กันเลยมีคนเค้ากินแบบไม่ใส่น้ำแข็ง ออกตัวก่อนเลยว่าเราเป็นคนติดกินน้ำแข็งมาก เพราะชอบกินน้ำเย็น แต่เพื่อนบอกแบบไม่ใส่น้ำแข็งก็อร่อยนะ มันไม่ได้ร้อนให้ลองกินดู เราเลยสั่งมาแก้วนึง แก้วใหญ่มาก ทรงแก้วสูงเลยแหละ แต่เอาอีกแล้วค่ะ ตอนสั่งของกินลืมแปลงสกุดเงินกลับอีกแล้ว แก้วนั้น 23 หยวน เราไม่เคยกินชาไข่มุกแก้วเป็น 100 มาก่อน ก็เลยแบบไม่เป็นไร นาน ๆ ที พอชิมไปก็อร่อยกว่าที่คิดไว้ ตอนแรกนึกว่า ชาไข่มุกที่ไม่มีน้ำแข็งจะไม่อร่อย แต่เพราะอากาศมันเย็นมาก ชาไข่มุกเลยเย็น ๆ แถมไม่หวานด้วย เพราะนี่ไม่ชอบกินหวาน แล้วก็หอมกลิ่นชามากด้วย โอเคเลย คุ้มค่าสมราคา สบายใจแล้ว

    ขอปิดจ็อบวันนี้ด้วยการมานั่งกินไก่ทอดราดซอสน้ำแดงที่อุตส่าห์ห่อกลับมา เพราะเดินกันเยอะเลยหิวอีกรอบ


    P.s.
    • ค่ารถเมล์ถูกมาก 2 หยวนตลอดสาย แต่ก่อนขึ้นรถต้องเตรียมเงินให้พอดี เพราะเค้าจะให้ขึ้นประตูหน้า แล้วให้จ่ายเงินเลย เลือกเลยว่า จะหยอดเงินสด หรือจะสแกน QR Code เอา แต่ว่าเค้าจะไม่มีทอน
    • คนที่เจอระหว่างทาง nice มาก ยังไม่เจอคนหน้าแบบบอกบุญไม่รับ ๆ เลย
    • อาหารอร่อยมาก ถึงราคาจะเอาเรื่องไปอยู่ แต่ก็ไม่ถึงขนาดรับไม่ได้
    • ถ้าได้ไปภูเขาสือข่า อย่าลืมลองชิมนมร้อนกับเนื้อจามรีย่างของตากับยายในเพิ่ง เด็ดมาก
    • ชาไข่มุกร้อนแบบไม่ใส่น้ำแข็งก็อร่อย 

    ค่าใช้จ่าย Day 2

    1210 (ค่าเดินทาง + ค่ากิน +  ค่าซื้อของจิปาถะ)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in