พอวันกดตั๋วปรากฎว่าคดีพลิก เมืองที่เข้าร่วมโปรโมชันไม่มีเฉิงตูค่าาา ตอนกดคอลคุยกับเพื่อนพอดีเลยคุยกันว่า เอาไงดี ต้องเปลี่ยนแผนนะ ต้องเลือกเมืองตอนนี้เลยแล้วไปแพลนที่หลัง เดี๋ยวตั๋วหมด ก็เลยเอาชื่อเมืองที่เข้าร่วมโปรไปเสิร์ชดูหวยเลยมาออกที่คุนหมิงแทน แต่ไม่เป็นไรค่ะ ได้ตั๋วราคาถูกใจไปกลับประมาณ 2890 บาท สบายใจละ เกือบลืมจะไปจีนต้องทำวีซ่าก่อนนะคะ มีค่าใช้จ่าย 1650 บาท (อัปเดตตุลาคม 2019)

เรามาถึงคุนหมิงประมาณ 11 โมงกว่า ๆ ของวันที่ 16 ธันวาคม 2019 ตามแพลนคือเราต้องไปขึ้นรถบัสเพื่อจะไปแชงกรีล่าตอนรอบเที่ยงกว่า ๆ เพราะมีรถวิ่งแค่วันละไม่กี่เที่ยว (ถ้าจำไม่ผิดมีแค่ 2 รอบต่อวัน) พอออกมาปุ๊บก็รีบขึ้นรถไฟฟ้า เพื่อไปที่จุดขึ้นรถบัสเลยทันที แต่ด้วยความรีบเลยไปผิดสถานี คือ ตอนแรกเราออกจากรถไฟฟ้าสนามบิน > East Coach พอถามพนักงานว่า ที่ขึ้นรถบัสตรงไหนเค้าบอกเรามาผิดที่นะ เราเลยต้องนั่งจาก East Coach > West Coach แทน ค่ารถไฟฟ้าคนละ 5 หยวน

แต่ก็ยังไปไม่ทันรถอยู่ดี ตอนนั้นคือแบบเคว้งมากเลยถามเค้าว่า เที่ยวต่อไปมีตอนกี่โมงเหรอ คนขายตั๋วบอก รอบต่อไปมีตอน 1 ทุ่มครึ่ง ตอนนั้นคืออะไรนะคะ แงงงงงง คือเราแพลนเอาไว้ว่า ถ้าไปทันรถเที่ยวนั้นเราจะถึงแชงกรีล่าตอนดึก ๆ แล้วเราก็จองที่พักไว้ที่นั่นคืนนึงด้วย แล้วค่อยมาแวะเที่ยวคุนหมิงตอนขากลับ พอตกรถแล้วเลยคุยกับเพื่อนว่า คงต้องหาที่เที่ยวรอเอานะ ละไว้ใกล้ ๆ เวลาค่อยมาขึ้นรถ

เราเลยนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่ Wuyi Square แล้วเดินหาอะไรกินตามร้านค้าแถว ๆ นั้นกัน เป็นการแวะเดินเที่ยวที่เรื่อย ๆ มาก เพราะเหลือเวลาทั้งวัน มาเจอร้านแรกเป็นขนมปังที่เค้าปิ้งในโอ่ง เป็นแผ่น ๆ เหมือนจะมีใส่ด้านในเป็นผักอะไรสักอย่าง แต่ก็อร่อยดีคือด้วยความที่เราเป็นคนชอบกินแป้งมากกินอันนี้้ร้อน ๆ ละอร่อยดี ชิ้นละประมาณ 8 หยวน

เดินไปสักพักแถวนั้นมีร้านขายคล้าย ๆ กับเฝอของเวียดนามเยอะมาก ๆ เลยเดินหาร้านที่เค้ามีหมูเข้ากัน เข้าออกอยู่หลายร้านเลยค่ะ เลยไปเจอร้านนึงในซอยร้านนี้ทั้งร้านมีหมูกับไก่ ไม่มีเนื้อ ใครที่เป็นสายกินเนื้อบอกเลยนะคะว่าหาอะไรกินสบายเลย จะเข้าร้านไหนก็ย่อมได้ทั้งนั้น

อันนี้รู้สึกเค้าจะเรียกว่า หมี่เซียน มีเส้นให้เลือก 2 แบบ คือ เส้นกลมกับเส้นแบน นี่เลือกเส้นกลมมา รสชาติเหมือนขนมจีนเลย แต่เส้นใหญ่เท่าอุด้ง แล้วก็จะเหนียว ๆ กว่าขนมจีน ที่ราดข้างบนคือ หมูตุ๋นกับไก่ตุ๋นในน้ำซุปหม่าล่าอะ เห็นแดง ๆ งี้ แต่ไม่เผ็ดนะ แล้วเค้าจะมีให้ปรุงข้างนอกเยอะหลายสิ่งมาก มีผักให้ใส่ต่างหากอีก แต่นี่คือไม่ปรุงไรทั้งนั้นจ้า แต่น้ำซุปมันจริงจังมาก แต่ก็นัวมากเหมือนกัน ส่วนเมนูนี้ชามละ 9 หยวน

หลังจากนั้นเราก็เดินไปหาที่ฝากกระเป๋าในห้างแถวนั้น เพราะเดินเยอะ ๆ ชักเริ่มจะแบกไม่ไหว แล้วก็เดินวนไปวนมาใน Wuyi Square นั่นแหละค่ะ เดินจนคิดว่าน่าจะครบทุกห้างกับทางเท้าที่แถวนั้นเค้ามีให้เดินแล้ว ก็หาที่ถ่ายรูปกับไปเรื่อยไป คิดซะว่า วอร์มเอาแรงก่อนไปหนักวันอื่น ๆ

ถนนเส้นนี้เราประทับใจมาก เป็นทางเท้าที่กว้างมาก โอเคมีรถขับผ่านบ้างนิดหน่อย แต่ทางสำหรับคนเดินคือแบบบ้านเราไม่มีแบบนี้อะทุกคน เดินเพลินมา วนไปวนมา ไม่ต้องกลัวสะดุดตัวหนอน เดินเรียงหน้ากระดานก็ไม่ต้องกลัวว่าจะขวางทางใคร

พอใกล้เวลาขึ้นรถเราไปกลับไปที่สถานี West Coach อีกรอบคราวนี้ไม่หลงแล้ว รถที่เราจะไปแชงกรีล่าเป็นบัสแบบนอนนะคะ ราคาตั๋วคนละ 208 หยวน ใช้เวลาประมาณ 10 กว่าชั่วโมง แต่ก่อนรถจะออกเราก็โป๊ะกันอีกรอบ เพราะเราขึ้นรถผิดคนกัน คือตอนเราขึ้นไปบนรถ ก็มีคนเข้ามาถามหลายคนเลยว่า เราจะไปลงไหนกัน แต่เค้าถามภาษาจีนมา เรากับเพื่อนฟังไม่ออก เลยบอกไปว่า ไม่รู้ เค้าก็แบบตกใจกันใหญ่ แล้วก็หันไปคุยกันหลายคนเลย แต่คุยไปคุยมาก็รู้ว่าเค้าถามว่าอะไร เราเลยบอกว่าจะไปแชงกรีล่า เค้าบอกว่า เราขึ้นรถผิดคันแล้ว เราต้องไปขึ้นคันข้าง ๆ นะ เค้าก็พาเรามาที่รถเลย และฝากคนแถวนั้นไว้ด้วยว่าเราจะไปไหน โชคดีมากที่มีคนเข้ามาถามเรา ไม่งั้นไม่รู้ว่าเราจะไปโผล่ที่ไหนแล้ว

แต่ถ้าจะให้เปรียบเทียบบัสนอนระหว่างของเวียดนามกับของจีน เราตอบเลยนะคะว่าของเวียดนามดีกว่าเยอะมาก ย้ำมาว่ามาก อย่างน้อยของเวียดนามเค้าก็มีแค่ 3 แถว 2 ชั้น แค่ของจีนคือไม่รู้ว่ากี่แถว เตียงนอนเรียงกันเต็มไปหมด ใคครได้ที่ชิดหน้าต่างแบบเราก้โชคดีไปค่ะ แต่ของเพื่อนเราได้เตียงตรงกลาง เตียงมันติดกับเตียงคนอื่น เพราะเค้าไม่เว้นที่ตรงทางเดินเลย เศร้ามาก ๆ ถ้าไม่ได้มาด้วยกัน