กลับมาแล้ววว วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ดูไลฟ์ครั้งแรกของปี 2017 กับวงอินดี้ร็อกจากอังกฤษ Catfish and the Bottlemen 

เรื่องมันเริ่มต้นตั้งแต่ปลายเดือนกันยาปีที่แล้ว มีประกาศออกมาว่า Catfish and the Bottlemen จะไปทัวร์ที่ญี่ปุ่นปี 2017 พอดี โอ้โห โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาง่ายๆ จะรอให้มาไทยก็ไม่รู้จะต้องรอกันอีกนานแค่ไหน จะเก็บเงินไปยุโรปก็เห็นทีจะไม่ทันการ ถ้ามัวแต่รอกันไปรอกันมา ไม่สมาชิกวงก็เราอาจจะแก่เกินวัยกันไปก่อน

เอาก็เอา! ไปดูให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลยแล้วกัน

ขั้นตอนแรกก็จัดการซื้อตั๋ว การเปิดจองตั๋วจะทำผ่านเว็บก่อน ถ้ากดเองได้ก็ทำเองเลย แต่ต้องมีแอคเคาท์ของเว็บที่จะใช้จอง หรือจะยืม/ฝากเพื่อนที่ญี่ปุ่นกดก็ได้ แต่เราไม่มีประสบการณ์อะไรสักอย่างเลยขอพึ่งร้านแล้วกัน ซึ่งแน่นอนว่ามีเพิ่มค่าบริการเล็กน้อย แต่ก็แลกกับความสะดวกสบาย แต่การกดจองบัตรก่อนใช่ว่าจะได้บัตรทันทีเลยนะ ต้องรอสุ่มอีกทีว่าเราจะได้บัตรไหม พอประกาศผลออกมาว่าได้บัตรแล้วก็สบายใจกันไปเปราะหนึ่ง ส่วนการรับบัตรก็แล้วแต่ว่าจะให้ทางร้านส่งมาให้ หรือจะไปปริ้นท์เองที่ญี่ปุ่นก็ได้ เราเลือกแบบหลังเพราะง่ายกว่าและประหยัดค่าใช้จ่าย แค่เอาโค้ดที่ได้ไปยื่นที่เซเว่นก็ได้บัตรมาอยู่ในมือเป็นที่เรียบร้อย


การแสดงไลฟ์ครั้งนี้จัดที่ Akasaka Blitz จากเว็บบอกว่าความจุฮอลล์ทั้งหมด 1,418 คน (ชั้น 1 จำนวน 1,418 คนกับชั้น 2 รวม 271 คน) ของเราเป็นบัตรยืนชั้น 1 ได้คิว A376


ตอนยืนรอ เราสังเกตเห็นว่ากลุ่มคนดูหลากหลายมาก ตั้งแต่หนุ่มสาววัยรุ่น วัยทำงาน วัยกลางคน ข้างๆ เราเป็นคุณลุงผมหงอกท่าทางมีอายุแล้ว ชาวต่างชาติก็บินมาดูหลายกลุ่มเหมือนกัน สัดส่วนผู้ชายต่อผู้หญิงค่อนข้างใกล้เคียงกัน ซึ่งเราว่าดีมากๆ แสดงว่าดนตรีมัน ageless และ sexless จริงๆ

ก่อนเข้าเวนิวก็ยืนรอเรียกตามคิวทีละ 10 คน แต่เขาเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นนะ ใครฟังไม่ออกก็ไปถามเขาได้ พอถึงคิว เดินผ่านประตูเข้าไปต้องจ่ายค่าดริ้งค์ 500 เยน (ต้องจ่ายทุกคน) จะรับน้ำก่อนหรือหลังจบไลฟ์ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะรับกันหลังจบไลฟ์ เพราะมันเหนื่อยๆ ออกมาจิบน้ำสดชื่นดี ด้านในมีบริการ coin locker ไว้ฝากของด้วย ไม่ต้องหอบกันพะรุงพะรัง

ตอนเข้าไปปรากฏว่าได้อยู่แถวหน้าๆ เลย ประมาณแถวที่ 3 งงมาก เหมือนคนอื่นจะยังทำธุระ ฝากของ เข้าห้องน้ำอะไรกันอยู่เลยยังไม่เข้ามา


แนะนำสมาชิกเบื้องต้น
Van McCann - ร้องนำ/กีตาร์ 
Johnny Bond - กีตาร์ 
Benji Blakeway - เบส
Bob Hall - กลอง

พอถึงเวลาแวนก็เดินกอดบอนดี้ออกมาเลย(?) ตามมาด้วยเบนจี้กับบ็อบ เริ่มต้นไลฟ์ด้วยเพลงจากอัลบั้ม The Balcony อย่าง Homesick บิวต์คนดูให้เริ่มอุ่นเครื่องกัน ต่อด้วยเพลงดังอย่าง Kathleen ที่ทำให้คนดูตะโกนร้องและกระโดดกันสนุกสนาน ช่วงแรกคนเบียดกันแรงมาก เรียกได้ว่าไหลไปตามฝูงคนเลย กลัวตายก็กลัวตายเหอะ แต่กลัวมองไม่เห็นมากกว่า 555 หลังจากนั้นก็เริ่มเล่นเพลงจากอัลบั้มใหม่อย่าง Soundcheck ตามมาติดๆ ด้วย Pacifier กับ Anything ด้วยดนตรีที่มีเสน่ห์และซาวน์ติดหูประกอบกับลีลาท่าทางของแวน (พูดให้ถูกก็คือท่ามาก) ทำให้การแสดงบนเวทีดูสนุกมาก อีกเพลงที่เราชอบก็ Business และ Fallout ที่ชวนให้โยกไม่แพ้กันเลย เรารู้สึกว่าเสียงแวนตอนร้องสดสูงกว่าในเรคอร์ด คิดว่าเป็นเพราะการมิกซ์เสียง จากนั้นวงก็เล่น Postpone ที่ตอกย้ำการยกเลิกไลฟ์ที่โอซาก้าเนื่องจากปัญหาเที่ยวบิน

อีกเพลงดังจากอัลบั้ม The Ride อย่าง Twice ก็ถูกหยิบมาเล่นเหมือนกัน


ต่อด้วย Outside


เล่นมาพักใหญ่ก็ได้เวลาของเพลงดังอย่าง 7 จากอัลบั้มล่าสุดที่ทุกคนตะโกนร้องพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง และ Cocoon อีกเพลงที่จังหวะติดหูและท่อนฮุคติดใจ จบลงด้วยเพลงสุดท้ายอย่าง Tyrants และ outro ประจำของวง


Catfish and the Bottlemen เป็นอีกวงที่คุ้มค่าในการดูสดมาก ช่วงที่ตรึงความสนใจเราไว้ได้มากที่สุดคือช่วง instrument ของเพลง ซาวน์หนักแน่น มีพลังและน่าหลงใหลมากๆ ชอบเคมีสมาชิกในวงตอนเล่นแล้วสื่อสารกัน ดูแล้วรู้สึกถึง passion รู้สึกว่าพวกเขากำลังมีความสุขกับสิ่งที่ทำจริงๆ อีกอย่างพลังเสียงของแวนก็คงที่จนจบ ไม่มีแกว่งตรงไหนเลย แถมมีอิมโพรไวส์มาเรื่อยๆ สร้างสีสันให้เพลงตลอด ระบบเสียงไลฟ์นี้ถือว่าดี บาลานซ์ทุกเครื่องดนตรีโอเคเลย

ชอบการสื่อสารกันระหว่างสมาชิกในวงกับคนดูด้วย บรรยากาศเป็นกันเองมาก มีช่วงที่แวนยื่นไมค์ให้คนดูข้างหน้าร้องด้วย รู้สึกอบอุ่น ใกล้ชิดดี มีเสียงผู้ชายตะโกนว่า "แวน แมคแคน ไอเลิฟยู" ด้วย 555 แค่นี้ยังไม่พอ ได้เห็นความซุกซนที่เลื่องลือของแวน ทั้งการทำขาตั้งไมค์หล่น หยิบไฟบนเวทีมาเล่น ปีนแอมป์ จะเตี้ยจะสูงก็เอาหมด คิดว่ายอดเขาเอเวอร์เรสคงไม่ยากสำหรับผู้ชายคนนี้

สรุปประทับใจและสนุกมากๆ อยากให้คนไทยได้ดู Catfish and the Bottlemen ที่ประเทศไทยจังเลย ถ้าผู้จัดท่านใดกรุณาจะเป็นพระคุณอย่างยิ่งเลยค่ะ /เตรียมเงินล่วงหน้า

SETLIST

1.      Homesick
2.      Kathleen
3.      Soundcheck
4.      Pacifier
5.      Anything
6.      Business
7.      Fallout
8.      Postpone
9.      Twice
10.      Outside
11.      7
12.      Cocoon
13.      Tyrants