เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
โกดังAttaphon Singhakiree
เขียน Content ยังไงให้ปัง ! Minimore Session 2
  • บันทึก Workshop ครั้งที่ 2 ที่ทาง Minimore จัดขึ้น ครั้งนี้เป็นการฝึกเขียน Content online จากกระแสข่าวดัง ซึ่ง Session นี้มี คุณลูกแก้ว โชติรส นาคสุทธิ์ Content writer จาก Minimore และ คุณแชมป์ ทีปกร วุฒิพิทยามงคล มาเล่าวีธีการสร้าง Content online ให้พวกเราฟังครับ

    รูปจาก https://www.facebook.com/minimoreweb

    การอ่านข่าวที่เปลี่ยนไป
    • ปัจจุบันข่าวสารต่างๆขึ้นไปอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ตมากขึ้น บางคนก็ดูข่าวจาก Social media อย่างเดียว
    • พฤติกรรมการเสพข่าว สมัยก่อนคนจะใช้เวลาเสพข่าวเป็นเวลานานๆ เช่น อ่านหนังสือพิมพ์ตอนเช้าให้จบ แล้วค่อยไปนั่งทำงาน ( อ่านหนังสือพิมพ์+กาแฟ / งาน 1 / งาน 2 )
    • แต่ในสมัยนี้ คนเสพข่าวจาก Social media แบบสลับไปสลับมา (งาน / facebook / งาน / instragram /งาน/ twitter /งาน วนลูปอีกครั้ง )
    • เมื่อวิถีของการเสพข่าวของคนเปลี่ยนไป ข่าวสารจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อดึงความสนใจให้คนเข้ามาอ่าน

    คนอ่านหนังสือน้อยลงนี่ จริงไหม ?
    • คนอ่านหนังสือเป็นเล่มน้อยลง แต่อ่านจากสื่อต่างๆแทน โดยรวมจำนวนตัวหนังสือที่คนอ่านไม่ได้น้อยลง
    • คนเลือกที่จะอ่านอะไรสั้นๆหรือไม่ก็ยาวไปเลย แต่ไม่ค่อยอ่านเรื่องพวกกึ่งสั้นกึ่งยาว
    • คนเราจะอ่านอะไรยาวๆ ถ้าเป็นเรื่องที่เขาสนใจ

    คนเราสมาธิสั้นลงไหม ?
    • คนเรามีตัวเลือกในการเสพสื่อเยอะขึ้น และเมื่อเสพเรื่องไหนก็จะใช้เวลากับมันยาวๆ ใช้เวลากับสิ่งนั้นมากขึ้น
    • เดี๋ยวนี้คนไม่เข้าหน้าแรกของเวป แต่จะเข้ามาอ่านเนื้อหาผ่าน Social media
    • ด้วยเหตุนี้ เดี๋ยวนี้พวก Portal website เช่น sanook.com จึงไม่มีคนเข้าหน้าแรกกัน
    • เราจะเข้ามาอ่านข่าวที่เพื่อนแชร์ต่อๆกันมา เพราะเราเชื่อว่าเพื่อนกรองข่าวที่น่าสนใจให้เราอ่านแล้ว

    หมดยุคการชี้นำ ?
    • สมัยก่อนจะมี กอง บก. คอยชี้นำว่า ข่าวนี้สำคัญ แล้วมันจะกลายเป็นข่าวดัง เป็นข่าวกระแส
    • แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแบบเดิมแล้ว คนอ่านจะร่วมกันเป็นคนกำหนดกระแส โดยการแชร์ข่าวต่อๆกัน
    • เราจึงเห็นบาง Content มี 100000 วิว แต่บาง content มีแค่ 50 view นั่นแสดงถึงประชาธิปไตยของคนใน social network
    • ( ความเห็นเพิ่มเติม : จริงๆ พวก influencer เช่น จ่าพิชิต หรือดาราดังๆ เพจดังๆ ก็แชร์ข่าวแล้วสามารถกำหนดกระแสในระดับหนึ่งได้ แต่ปัจจุบัน นั้นหมดยุคที่ บก.สามารถกำหนดกระแสข่าวแล้ว )

    ปัจจัยที่ดึงดูดคนอ่าน ?
    • เขียน Content ให้เกี่ยวกับชีวิตคนอ่าน ต้องทำให้คนอ่านอินกับเราไปด้วย
    • เป็นคนในและคนนอกในเวลาเดียวกัน : เวลาเราเขียนอะไรขึ้นมา เราจะอินกับมันมากๆ แต่บางทีคนอื่นไม่ได้อินกับเรื่องนี้เหมือนเรานะ
    • เวลาเขียน Content ควรมี Background ของเรื่องมาด้วย ปูพื้นฐานบางอย่างให้คนสนใจเรื่องนี้

    Content online
    • ไม่ได้นำเสนอความจริงเพียงอย่างเดียว เสนอสิ่งที่มันขนานกันด้วย
    • สื่อหลักทำหน้าที่เสนอข่าวปกติอยู่แล้ว ( what who when where why how ) แก่นของ Content Online ต้องเสนอทางเลือกที่ต่างแทน
    • ทำเนื้อหาให้แตกต่าง  เสนอทางเลือกอื่นให้คนได้เลือกอ่านอะไรใหม่ๆ  อย่างกรณี ข่าวม้า อรนภา พูดถึงเรื่องแฟนเก่าของแพทที่ทุกคนอ่านข่าวจนเบื่อแล้ว ลองเสนออีกมุม ( ข่าวจัณทาล )
    • อีกตัวอย่างของการทำให้ต่าง คือ ไปให้สุด ใส่ความสนุก จบด้วยหมัดฮุกตอนท้าย ( ข่าวของคนที่ซื้อทุกอย่างบนโลกนี้ได้ )

    การปรับตัวของ Buzzfeed ( By คุณแชมป์ )
    เมื่อก่อน Buzzfeed เป็นเวปอ่านฆ่าเวลา เช่น 20 วิธีมีความสุขในตอนเช้า ฯ ตอนนี้ทางเวปได้พัฒนาเนื้อหาให้เป็นเชิงลึกมากขึ้น และแชร์เนื้อหาในสื่อทุกสื่อ facebook instragram twitter tumble ฯ ( ซึ่งแต่ละสื่อก็มีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเอง การใช้ข่าวเดียวแสดงบนสื่อต่างคาแรคเตอร์ นี่ทำยากมาก ) เมื่อลงข่าวไปใน คนจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ( ก็พูดเรื่องนี้กันหมดเลยทุกช่องทางนี่นา )

    สิ่งจำเป็นในการเขียน Content Online

    • ดูกระแส ดูสิ่งที่คนกำลังให้ความสนใจ คนพูดถึงกันเยอะๆ
    • input ข่าวที่เลือกมาเขียน ส่วนใหญ่จะเป็นข่าวที่วิ่งมาหาเราเองใน Social media แต่ถ้าวันไหนไม่มีข่าวที่เป็นกระแส แล้วเราพยายามไปเสาะแสวงหามาเขียน คนจะไม่ค่อย get กับเรื่องที่เราเขียน
    • อย่าเล่าข่าวแบบสื่อหลัก ให้เล่าข่าวแบบเสนอทางเลือกให้คนอ่าน  ด้วยคาแรคเตอร์ในแบบเรา 
    • คนชอบเนื้อหาที่สนับสนุนความคิดของตนเอง เขียนเรื่องแบบว่า “เราคิดเหมือนกับเธอนะ” แล้วคนจะแชร์
    • แต่ระวังหัวข้อ Content ที่ชี้นำ เช่น คนที่ห้องรกแปลว่าฉลาด เรียนไม่จบก็รวยได้ หัวข้อแบบนี้คนจะแชร์โดยไม่ได้อ่านเนื้อหาข้างในเรื่อง ( ยอดแชร์เป็นมายา ยอดวิวคือของจริง )
    • การตั้งหัวข้อแบบ click bait เป็นเล่นกับความอยากรู้ของคน แต่สุดท้ายคนก็จะเบื่อและไม่แชร์ข่าวเพราะเนื้อหาจริงๆไม่มีอะไรเลย
    • การสร้าง Content เราไม่จำเป็นต้องสร้างกระสุน 100 นัดแล้วยิงบ่อยๆ สร้างกระสูนปืนใหญ่ลูกเดียวแล้วยิงทีเดียวให้ระเบิดทั้งหมู่บ้านดีกว่า
    • การเขียน Content ก็มีขอบเขต อย่าเขียนให้เกิด Hate speech

    5 วิธีเขียน Content Online คุณภาพ
    • พาดหัวให้โดน : คนอ่านจะอ่านแบบ skim ดังนั้น 1 paragraph ควรมี 1 ไอเดีย แล้วเขียนไปข้างหน้า อย่าวกไปวนมา
    • อย่าเวิ่น : อย่าใส่น้ำเยอะ เช่น ใบไม้ที่พริ้วไหวแล้วร่วงหล่นลงบนพื้น … ไม่ต้องใส่ลงไป
    • กันเอง มีคาแรคเตอร์ในการเล่า เช่นแบบเพื่อนเล่าเรื่องให้ฟัง
    • น่าอ่าน : เขียนเนื้อหาให้อะไรบางอย่างกับคนอ่านครึ่งหนึ่ง และใส่คุณค่าทางอารมณ์ผสมเข้าไปด้วยอีกครึ่งหนึ่ง
    • น่าแชร์ : ระวังการพาดหัวเพื่อ emotion value แต่จริงๆแล้วคนแชร์ไม่ได้เข้าไปเปิดอ่าน เช่น คนที่ห้องรกเป็นคนฉลาด บิลเกตเรียนไม่จบก็รวยได้ ฯลฯ

    สรุปที่เราเข้าใจนะ การเขียน Content Online ให้เลือกข่าวที่เป็นกระแสมาเล่น เขียนพลิกไปในทางใหม่เพื่อเป็นข่าวทางเลือกให้คนอ่าน โดยมีองค์ประกอบคือ พาดหัวให้โดน มีสไตล์ในการเล่า เนื้อหาให้บางสิ่งกับคนอ่าน สุดท้าย ถ้ามันเป็น content ที่ดี มันก็จะถูกแชร์ต่อไปอยู่แล้ว


    ++++++++++++++++++++++


    ของแถม : มีตัวอย่างที่เขียนให้อ่านไหม ? ( คำเตือน สาระเริ่มหมดจากเขตตรงนี้นะครับ :D)

    ในช่วงบ่าย ก็ถึงเวลาใช้ความรู้ที่ฟังมาในตอนเช้ามาลองเขียน Content Online กันจริงๆ ซึ่งหัวข้อข่าวที่ถูกเลือกมามี 3 เรื่อง แล้วให้แต่ละกลุ่มลองพาดหัวข่าวและเล่าว่า เราจะข่าวข่าวนี้อย่างไร ( ลองคิดตามก็ได้นะครับ )

    หัวข้อข่าวที่ให้เลือก
    • งาน Grammy Award
    • เรื่องนักบิน – พระประท้วง
    • เรื่องปาเกียวเหยียดเพศที่ 3

    หลังจากนั้นแต่ละกลุ่มก็มาพรีเซนต์ข่าวที่ตัวเองเขียนใหม่ แล้วมีการโหวตว่า ถ้าเราเป็นคนอ่าน จะคลิกเข้าไปอ่าน Content Online อันไหน มีหลายกลุ่มที่ฮา เอาเรื่องของกลุ่มที่จำได้มาเล่านะ

    ประเด็นนักบิน : ถ้าหากนับบินพากันสไตค์ไม่ยอมบินกันแล้ว ใครสามารถจะมาเป็นนักบินแทนได้
    • ฟงหวิน : ขี่พายุทะลุฟ้า บนได้สบาย มาทีได้ทั้งกัปตันและโคไพรอท
    • โงกุน : ขี่เมฆประจำอยู่แล้ว ขับเครื่องบินคงไม่ใช่เรื่องยาก
    • พี่ตูน Body slam : เมื่อก่อนพี่แกเป็นสจ๊วด แถมร้องเพลงเกี่ยวกับฟ้าเยอะ ขอบฟ้า - แตะขอบฟ้า
    • พระ เพราะบินอยู่ทุกวัน ( บิณฑบาต อันนี้เฮียแกกล้าเล่น บาปปปป 5555 +)


    แบบนี้ก็ได้เหรอ ? แต่ก็ฮากันทั้งห้องนะ  คนชอบเรื่องนี้เยอะ ( ปล. เรื่องนี้ยังไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี เน้นฮาอย่างเดียว  ถ้าคนอ่านได้อะไรเพิ่มจากเรื่องที่อ่าน  จะดีขึ้นมาก )

    ปล. คุณแชมป์บอกว่าครั้งหน้าเป็นการเขียนแนวสารคดี ใครสนใจการเขียนแนวนี้ รอสมัคร Session 3 ครับ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in