?ผู้แต่ง RiRi
?สถานะ จบแล้ว
?คำเตือน โรคซึมเศร้า , suicide **ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าไม่ควรอ่าน**
คำโปรย
เวลาที่ผมพูดกับคุณว่า ‘ผมไม่เป็นไร’
ในใจลึก ๆ ผมอยากบอกให้คุณมองสบตาผม
กอดผมไว้แน่น ๆ แล้วพูดกับผมว่า ‘ฉันรู้ว่านายกำลังรู้สึกแน่’
ผมแค่หวังให้มีใครสักคน...ที่จะสังเกจเห็นมันจริง ๆ
รีวิว&สปอยล์
นิยายเรื่องนี้เจอบทนำเข้าไปนี่ได้แต่ร้องอุทานอย่างเดียวเลย ต้องอ่านจริง ๆ แล้วรู้เลยว่าตัวเองจะร้องไห้หนักแค่ไหน สรุปเป็นแบบนั้นจริง ๆ ทำเราร้องไห้ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้ายเลยค่ะ แล้วช่วงที่น้ำตาแตกเยอะสุดคือช่วงเข้าใกล้กลางเรื่องจนเกือบ ๆ จบเลยจ้า ตาบวมไปหมด ;-; อ่านทีเดียวไม่ได้เพราะรู้สึกอึดอัดและสงสารนายเอกมาก ต้องค่อย ๆ อ่านไป เรื่องนี้สื่อถึงเรื่องโรคและเหตุการณ์ที่มักจะเกิดขึ้นในปัจจุบันได้ดีเลย เป็นเรื่องเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าและการต่อสู้ของนายเอก (สกาย) และเรื่องราวความรักกับพระเอก (ฟาน) และการดำเนินชีวิตประจำวันกับเพื่อน ๆ โดยเกี่ยวข้องกับอาการและพฤติกรรมเกี่ยวกับโรคนี้ ไรท์เขียนดีมากกกกกก แบบก.ล้านตัวเลย ฮือออออ เราทำใจนานมากกว่าจะกล้าอ่านเรื่องนี้ พออ่านแล้วทำให้รู้จักโรคและอาการที่มักจะเกิดมากขึ้นไปอีก อ่านจบแล้วดีใจมาก ๆ ที่นายเอกกลับมายิ้มได้จริง ๆ ยกให้เรื่องนี้เป็น the best of the year ของเราที่กล่าวถึงโรคและสังคมปัจจุบันได้แบบตรงเป๊ะเลยจริง ๆ ไม่ต้องห่วงว่าจะ bad end ค่ะ จบดีค่ะ จบแบบว่าน้องค่อย ๆ มีความสุขขึ้นเรื่อย ๆ อยากให้ได้อ่านกันจริง ๆ แล้วจะเข้าใจมากขึ้นว่าอาการเป็นยังไงและเราควรเข้าใจและให้กำลังใจแบบไหน แต่คนที่คิดว่าตัวเองเข้าข่ายโรคนี้หรือเป็นโรคนี้เราไม่แนะนำเด็ดขาดค่ะ
เรื่องเริ่มจากนายเอกเนี่ยเป็นโรคซึมเศร้าแบบไม่รู้ตัว แล้วมันสะสมมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ที่แอบรู้ความจริงว่าตัวเองไม่ใช่ลูกพ่อแม่ แถมน้องชายกับป้ายังไม่ชอบตัวเองอีก แต่นายเอกก็รักครอบครัวมาก ครอบครัวคาดหวังนายเอกและกดดันนายเอกไม่รู้ตัว แรก ๆ นายเอกยังไม่เป็นอะไรยังเป็นคนร่าเริง ยิ้มแย้ม แจ่มใส รู้จักและเป็นแฟนพระเอกตั้งแต่เข้ามหาลัยปี 1 มีเพื่อนน่ารักรอบตัว อยู่ ๆ ทุกอย่างที่นายเอกรู้มาก็เริ่มกดดันนายเอกขึ้นไปเรื่อย ๆ จนนายเอกเริ่มไม่อยากจะยิ้ม ไม่อยากทำอะไร ไม่มีอารมณ์ เฉยชาไปหมดทุกอย่าง เป็นอาการของโรคซึมเศร้าเลยค่ะ พระเอกกับนายเอกรักกันมาก นายเอกก็กลัวพระเอกจะทิ้งตัวเองไป ไม่กล้าบอกความรู้สึกว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ให้พระเอกและเพื่อนที่อยู่ด้วยกันฟัง
นายเอกอยากยิ้มอยากหัวเราะเหมือนเดิม เลยฝืนทำทุกอย่างในขณะที่คนอื่นมีความสุข แต่ตัวเองต้องแกล้งทำเพื่อไม่ให้คนอื่นเป็นกังวลพระเอกรักนายเอกมากไม่ต่างกันและชอบหึงเวลามีคนมองหรือเข้าใกล้นายเอก อารมณ์ร้อนงี้เง่า นายเอกก็ไม่อยากให้พระเอกเลิกรักตัวเองเลยแกล้งทำตัวเข้มแข็งและมีความสุขมาตลอด
นายเอกอยากคุยกับพ่อแม่ พ่อแม่ก็ไม่มีเวลาว่างให้ นายเอกพยายามทำตัวเป็นคนปกติทุกอย่าง แต่ข้างในนายเอกคือเริ่มไม่ไหวแล้ว บวกกับมีคนเกลียดนายเอกเพราะนายเอกเป็นคนคุยไม่เก่ง โดนหาว่าหยิ่ง แถมยังมาคบกับพระเอกที่ใคร ๆ ก็หมายปอง และมีแฟนคลับด้วย ทำให้นายเอกโดนโจมตีทางโซเชี่ยลด้วยคำบูลลี่ต่าง ๆ พอมาถึงจุดนี้ประโยคนี้คือจริงมากกก มันตรงทุกอย่างกับสิ้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเลยจริง ๆ
รู้สึกเจ็บจึกเข้าในหัวใจ เราไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เราพูดมันทำร้ายคนอื่นมากแค่ไหน คนพูดลืมไปแล้ว แต่คนโดนพูดใส่คือจำไม่เคยลืมจริง ๆ
นายเอกอารมณ์ไม่มั่นคง เพื่อนกับพระเอกถามก็มักจะตอบว่าเครียดสอบ นายเอกเปลี่ยนไปจนพระเอกสังเกตได้ นายเอกเลยขอร้องพระเอกว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้ ทีนี้นอกจากจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมยากแล้ว อาการนายเอกแย่ลงเรื่อย ๆ พี่รหัสกับพี่หมอที่นายเอกบังเอิญไปเจอตอนไปเที่ยวสังเกตได้ พี่รหัสเลยให้นายเอกไปหาหมอ นายเอกคิดได้ว่ามีนามบัตรพี่หมอที่เคยเจออยู่ก็เลยไปรักษาและระบายทุกอย่างให้พี่หมอได้ฟัง นายเอกเริ่มดีขึ้นเพราะได้กินยา แต่มันก็แค่แปปเดียว บวกกับช่วงสอบเครียด ๆ แถมยิ่งมีข่าวลือนายเอกเสีย ๆ หาย ๆ ทำให้ทางบ้านโทรมากดดันต่อว่านายเอกมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนหน้านั้นพระเอกกับเพื่อน ๆ ก็คิดว่านายเอกไม่เป็นไรมาก แถมยังพูดเกี่ยวกับโรคนี้เหมือนไม่ได้ใส่ใจ ทำให้นายเอกกลัวที่จะบอกทุกคนว่าตัวเองเป็นโรคนี้ ถึงพี่หมอจะพยายามให้นายเอกบอกแต่นายเอกยังไม่กล้าพอ พี่หมอออกใบรับรองเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าตัวเองเป็นโรคนี้นะ นายเอกกลับบ้านไปจะบอกทุกอย่างกับพ่อแม่ แต่มีเหตุการณ์กระทบกระเทียนจืตใจเรื่องข่าวลือ แถมพ่อแม่ยังบอกความจริงต่อหน้า ทำให้นายเอกรับไม่ไหวแล้ว นายเอกเลยฆ่าตัวตาย ก่อนตายส่งเขียนจดหมายถึงทุกคนและอัดวิดีโอทิ้งไว้ให้ทุกคนหลังจากที่ตัวเองไม่อยู่แล้ว
ตัดมาที่พระเอก ก่อนนายเอกจะกลับบ้าน พระเอกกับนายเอกยังไม่เคลียร์กันดีเท่าไหร่เรื่องข่าวลือนายเอกกับผู้ชายคนอื่น เพราะนายเอกไม่ยอมบอกอะไรเลย พระเอกเข้าใจผิด และอาจจะมีคำพูดที่ทำร้ายนายเอกออกมาแบบไม่รู้ตัว ทั้งสองกำลังจะเคลียร์กันแต่ว่านายเอกต้องกลับบ้านเพราะพ่อแม่โทรมาตามแล้ว นายเอกกลับบ้านไป พระเอกพยายามติดต่อนายเอก แต่ทำยังไงก็ไม่ติด แถมยังต้องเก็บของไปค่ายอีก อยู่ ๆ ก็เจอกุญแจเปิดล็อคเกอร์ที่นายเอกเอาไว้เก็บไดอารี่ที่เขียนช่วงระหว่างรักษาโรคกับพี่หมอ พระเอกเข่าอ่อนไปหมด ร้องไห้จนใจจะขาด มารู้ตัวว่านายเอกเป็นโรคนี้ก็เกือบจะสายไปแล้ว พระเอกรีบจองตั่วให้เพื่อนไปส่งเพื่อบินไปหานายเอก แต่ติดต่อไม่ได้แล้ว มีแต่พ่อแม่รับสายเลยรู้ว่านายเอกทำลงไปแล้ว แต่พ่อแม่นายเอกก็พาส่งโรงพยาบาลทัน
พระเอกบอกพ่อแม่เรื่องโรคที่นายเอกเป็น ทุกคนเสียใจมาก แม้กระทั่งน้องชายนายเอกที่เกลียดนายเอก
เอาจริง ๆ พอมาถึงตรงนี้แล้วไม่มีใครรู้ว่านายเอกเป็นอะไร นายเอกก็ไม่กล้าบอกเพราะการกระทำของแต่ละคนที่มีต่อนายเอก เลยทำให้นายเอกกลัวและควบคุมตัวเองไม่ได้ มันเจ็บจุกหัวใจเราไปหมดเลย สงสารทุกคน T_T สุดท้ายนายเอกก็พ้นขีดอันตรายค่ะ ทุกคนเลยพยายามดูแลและช่วยเหลือนายเอกอย่างใกล้ชิด
นายเอกเข้ารับการรักษากับพี่หมอเหมือนเดิม น้องชายที่เกลียดก็กลับมาทำดีและรักนายเอก พ่อแม่ก็เอาใจใส่ เพื่อน ๆ และพระเอกก็ดูแลนายเอกอย่างดี นายเอกได้ลองทำกิจกรรมใหม่ ๆ ได้เจอพระเอกนายเอก (ตรี x ฟ้า) จากเรื่อง Cater to you ฟ้าชวนนายเอกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงที่เพื่อน ๆ และพระเอกไปเรียน ทำให้นายเอกรู้สึกดีขึ้นมากและเริ่มบอกกับตัวเองเรื่อย ๆ ว่า โชคดีที่มีแต่คนรัก โชคดีที่เจอคนดี ๆ จนนายเอกค่อย ๆ กลับมายิ้มและมีความสุขอีกครั้ง
ดีใจ ดีใจมาก ๆ ที่ทุกคนในเรื่องปรับตัวและการกระทำให้ดีขึ้น เพื่อรักษานายเอกที่ยังมีชีวิตอยู่ ทุกคนคงรู้สึกผิดมากที่ทำอะไรแบบไม่รู้ตัวลงไปจนเกิดเหตุการณ์ที่เกือบทำให้เสียนายเอกไปแล้ว ฮืออออ จบแล้วก็อยากดึงน้องสกายเข้ามากอดและหอมหัวมาก ๆ น้องเก่งมากจริง ๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in