หลังจากแรปเปอร์ไลน์ของBTSอย่าง แรปมอนสเตอร์ และ เจโฮป ต่างปล่อยมิกซ์เทปของตัวเองกันมาแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาของยุนกิ ที่จะปล่อยของให้แฟนๆได้ฟังกัน โดยการปล่อยมิกซ์เทปครั้งนี้ได้ใช้ชื่อ สเตจเนมว่า Agust D ซึ่งใช้ชื่อเดียวกับชื่อมิกซ์เทปที่เพิ่งปล่อยออกมา
ตัวเราเองก็รอคอยกับมิกซ์เทปของยุนกิ เพราะรู้สึกว่าเค้าทำเพลงจังหวะช้าๆ ล่องลอยได้ดี ค่อนข้างที่จะถูกจริตเรา อย่างเพลง Dead Leaves พอมิกซ์เทปปล่อยออกมาก็ไม่ผิดหวังเลย ถึงเพลงส่วนใหญ่จะค่อนข้างดุดัน แต่ก็ยังมีเพลงช้า ที่มีลายเซนของของยุนกิค่อนข้างชัดเจนเลย และเพลง So far away ก็กลายเป็นเพลงโปรดของเราไปแล้วเรียบร้อย
Agust D’s ‘Agust D’, the first mixtape album - ประกอบไปด้วย 10 เพลง เป็น10เพลงที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึก บอกเล่าเรื่องราวต่างๆในชีวิตของ Agust D เราได้อ่านคำแปลของแต่ละเพลงแล้ว ก็รู้สึกดีกับความคิดของยุนกิในหลายๆเรื่องนะคะ แล้วก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่น่าค้นหาไปพร้อมๆกัน ความรู้สึกที่เราได้รับจากเนื้อเพลงของเขาของคือความเข้มแข็งภายใต้ความเปราะบาง เพราะว่าเปราะบาง ถึงเลือกที่จะสร้างกำแพงบางๆออกมาโอบรอบตัวไว้ แล้วเลือกที่จะฝังมันไว้ข้างใน และทุกอย่างที่เคยฝังไว้มันก็ระเบิดออกมากับมิกซ์เทปนี้ ความรู้สึกครั้งแรกที่เราฟังจบทั้งอัลบัม รู้สึกถึงความอึดอัดที่มันแน่นไปหมด ส่วนหนึ่งคิดว่าอาจจะเป็นเพราะการเรียงลำดับเพลง หลายเพลงที่เบสหนักๆ แน่นๆ มาวางไว้เรียงๆกันหมด ทำให้การฟังมิกซ์เทปนี้ของเราครั้งแรกค่อนข้างไม่สบายหู แต่นั่นก็เป็นความรู้สึกแรกที่ได้ฟังนะ เพราะหลังจากที่ฟังวนหลายรอบ และดูถึงรายละเอียดของแต่ละเพลง ก็เห็นถึงความพยายาม และความใส่ใจของแต่ละเพลง เราไม่มีความรู้เรื่องดนตรีอะไรขนาดนั้น แต่เรารู้สึกว่าแต่ละเพลง มันมีรายละเอียดของดนตรีเยอะมากๆ และละเอียดมากๆเช่นกัน
ต่อไปจะขอพูดถึงแต่ละเพลงในอัลบัม ขอยกมาแค่ 3 เพลงที่น่าสนใจสำหรับเรานะคะ...
1. The Last
เพลงนี้ฟังครั้งแรกเราชอบการแบ่งวรรค แบ่งจังหวะการแรป(ไม่รู้ว่าภาษาทางเทคนิคเค้าเรียกว่าอะไรนะคะ) จังหวะได้มาก ฟังแล้วรู้สึกต้องโยกเบาๆ แต่โยกไปด้วยความหน่วงๆ แล้วจังหวะของดนตรี ก็เริ่มจากเบาๆ ค่อยๆเค้นไปเรื่อยๆ จนไปถึงช่วงท้ายของเพลง
"ฉันคือไอดอล ฉันไม่ปฏิเสธอีกต่อไป" - คือท่อนที่เราชอบที่สุดของเพลงนี้เลย มันคงยากมากในช่วงแรกที่เขาจะต้องยอมรับว่าตัวเองคือไอดอล ศิลปินบางท่านเลือกที่จะทำเพลงในแนวทางของตัวเอง โดยไม่ได้หวังว่าเพลงจะต้องได้ชาร์ตดีๆ ทำเพลงโดยไม่สนชาร์ต แต่เมื่อจุดนึงที่เราปฎิเสธไม่ได้ว่า ที่ที่เราอยู่ตอนนี้มันคือสิ่งที่เรียกว่า ไอดอล การปฏิบัติตัว การตลาด การวางแผนของค่าย ทุกอย่างล้วนเป็นไปในวิถีของไอดอล การที่เขาถอยออกมา1ก้าว เพื่อมองความจริง และทำหน้าที่ทั้งศิลปินที่ทำเพลงตามความต้องการของตัวเอง และการเลือกที่จะทำเพลงเพื่อให้คนส่วนใหญ่ทั้งแฟนคลับ และแฟนเพลงชอบด้วยนั้น เราคิดว่าจุดนั้นเค้าคงต้องใช้พลังเยอะมากๆ ที่จะต่อสู้กับความต้องการจริงๆในใจ
"ไม่ใช่ว่าฉันไปออก Show me the money ไม่ได้ แต่ฉันไม่ไปไง" ใจนึงก็รู้นะคะว่าบังทันคงไม่ไปออกรายการนี้แน่ๆ แต่ใจนึงก็เสียดายลึกๆ รายการนี้แต่ละปีมีคนเก่งๆไปเยอะมาก แค่รอบออดิชั่นที่ต้องแรปกันสดๆ ถ้าบังทันได้มีโอกาสไปยืนตรงนั้นสักครั้ง จะผ่านหรือไม่ผ่านก็ไม่รู้ แต่เราคิดว่าเค้าจะได้เปิดหูเปิดตามากแน่ๆ การที่ได้เห็นคนเก่งๆแรปสดๆตรงหน้า คงเก็บประสบการณ์ไปได้ไม่น้อย แล้วยิ่งรอบลึกๆ ที่ได้ทำงานกับโปรดิวเซอร์ และเพื่อนร่วมทีม เราว่ามันจะเพิ่มความสดใหม่ให้กับพวกเขาเอง
2.Tony Montana FT. Yankie
ชอบมากเลยค่ะเพลงนี้ บีทแบบนี้ พอฟังเพลงนี้แล้วเราจินตนาการถึงการที่ยุนกิจะไปฟีตกับคนอื่นๆในวงการฮิปฮอป เราจะรอคอยวันนั้น รอคอยวันที่เค้าจะออกไปเพิ่มประสบการณ์ให้ตัวเอง ยังจำเวทีSummer Sonicที่บังทันไปขึ้นปีก่อนได้อยู่เลย เราชอบเวลาพวกเค้าขึ้นเวทีแบบนี้มาก มันดูฟรี ดูอิสระ ไม่ได้แต่งชุดคอนเซป ไม่ได้มีอะไรมาตีกรอบ แต่มันคงจะยากนะ คือพวกเค้ามากจากใต้ดิน แต่ละคนมีCrewของตัวเองมาก่อนจะมาอยู่ตรงนี้ เราก็แอบหวังลึกๆว่าซักวันแรปไลน์ของบังทันจะได้ขึ้นเวที The Cry หรือ Hiphop playa หรือเวทีคอนเสิร์ทฮิปฮอปใดๆของเกาหลีซึ่งจัดบ่อยมากๆ เห็นแล้วนึกถึงZico(ขออนุญาตอ้างถึง) เราว่าเค้าเป็นคนที่น่าอิจฉามากๆ นอกจากทำหน้าที่ไอดอลได้ดีแล้ว อีกพาร์ทที่เป็นศิลปินฮิปฮอป จิโค่ก็เป็นที่ยอมรับของคนในวงการนี้ แล้วก็ได้ขึ้นเวลาเวทีกับฮิปฮอปของเกาหลีหลายเวทีเลย ทำงานหนักมากๆ ขอชื่นชม
3.So Far Away ft. Suran
เราใช้เวลาในการเรียบเรียง ตกตะกอนความคิดกับเพลงนี้นานมาก มันกระแทกตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง อย่างที่บอกไปก่อนหน้าเเล้วว่าเราคาดหวังขอให้มิกซ์เทปของยุนกิมีเพลงประมาณนี้สักเพลงก็ยังดี แล้วสุดท้ายก็มีจริงๆ ลายเซนต์ของตัวเขาในเพลงนี้ชัดมาก เราว่ายุนกิทำเพลงช้า บรรยากาศล่องลอยได้ดีจริงๆนะ บวกกับเสียงร้องของคุณซูรันซึ่งจัดว่าเป็นเสียงที่ยูนีค มันลงตัวมากๆกับบรรยากาศของเพลงนี้ที่จะสื่อออกมา
มาถึงพาร์ทของดนตรีสำหรับเพลงนี้นะคะ แน่นตั้งแต่เริ่ม ละเอียด ละมุนมาก คอรัสทุกสิ่งมันเบลนเข้าหากันหมดเลย ฟังครั้งแรกก็น้ำตารืนแล้วค่ะ ยิ่งพอถึงท่อนคุณซูรัน พีคมากๆ แล้วอีกท่อนที่ใจเราแทบจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่มคือท่อนที่จองกุกมาคอรัส ความรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอย หลังจากนั้นก็มีเสียงหยดน้ำ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนเรากำลังร่วงหล่นเลยค่ะ ดูเหมือนเวอร์นะ แต่ตอนฟังรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เรารู้สึกว่ารอบตัวเรามันเคว้งคว้างมากตอนฟัง แล้วเหมือนเสียงคุณซูรันมาดึงตัวเราขึ้นมาไว้
ชอบตรงที่เพลงบอกเล่าถึงการอยู่กับปัจจุบันและการมีความฝัน สำหรับเราก็มีความคิดไปในทางเดียวกัน ไม่ว่าจะทำอะไร ขอเเค่เรารู้ตัวว่าตัวเองมีจุดหมาย แล้วทำมันไปให้ถึง แม้ระหว่างทางมันจะยากลำบาก แต่สุดท้ายแล้วเราจะได้เรียนรู้จากมันเอง สำหรับเรา...
ความฝันไม่จำเป็นต้องscaleใหญ่ บางคนอาจท้อ ที่ไม่มีความฝันเหมือนคนอื่น เราอาจมองscaleของความฝันใหญ่เกินไป จากสื่อ หรือคนรอบข้าง แต่สำหรับเรา การตั้งเป้า แล้วทำให้สำเร็จ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่เราก็ยังมองว่ามันเป็นความฝันสำหรับคนๆนึงได้นะ เเล้วเราก็ชื่อว่าทุกคนมีความฝันของตัวเอง แค่คุยกับตัวเองให้มากขึ้น ตั้งคำถามกับสิ่งรอบๆตัวเราให้มากขึ้น เชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้
สำหรับบังทัน เราเคยเขียนไว้ในบทความก่อนหน้านี้ ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องจำกัดความว่าเขาคือไอดอลฮิปฮอป หรือ ศิลปินฮิปฮอป เพลงที่ถ่ายทอดออกมามันเกินกว่าที่เราจะมานั่งจำกัดความไปแล้ว ความสดใหม่ ความหลากหลายของดนตรีที่สื่อออกมา มันตอบอะไรได้หลายๆอย่าง ถึงความประณีต และความตั้งใจ เราจะเฝ้ามองการเติบโตของพวกเขาไปเรื่อยๆ และเราก็คิดว่าอัลบัมหน้า บังทันก็จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน ซีรีย์อัลบัมฮวายังยอนฮวาสำหรับเราเป็นอะไรที่ดีมากๆ เรารู้จักบังทันเพราะอัลบัมนี้ เพราะเพลงของพวกเขา เราก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าอัลบัมหน้าจะเป็นไปในแนวทางไหน แต่ที่แน่ๆคือบังทันคงจะได้รับประสบการณ์จากอัลบัมที่ผ่านมาเยอะแน่ๆ อีกอย่างต้องขอบคุณความอิสระในการทำเพลงที่ Bighit มอบให้บังทัน ทำให้พวกเขาสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้เยอะขนาดนี้
(ขอบคุณ คุณ @_candyclover สำหรับคำแปลของเนื้อเพลงค่ะ)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in