เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[SAVE-N-YEARS] : #Ronren-Fanficthreeeyesonthela
1 -A Trip-

  •   “แอนตาร์กติก!?” ชเว มินกิโน้มตัวจากพนักเก้าอี้ทันทีจนแทบจะเกยโต๊ะเลิกคิ้วขึ้นสูงและดวงตาเบิกกว้างขณะทวนคำจากคนรักที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารฝั่งตรงข้าม ล็อบสเตอร์ในจานเขาไร้รสชาติ... ความร้อนกำลังเข้ามาเยือนหัวสมอง มอบความอบอุ่นที่ไม่จำเป็นท่ามกลางอุณหภูมิหนาวเย็นจากลมกลางคืน และบรรยากาศรอบข้าง ส่วนคนฝั่งตรงข้ามก็ไม่แน่ใจว่าไม่รู้ร้อนรู้หนาวหรือแกล้งไม่เข้าใจเพื่อเอาตัวรอดกันแน่ ควักอาร่อนตอบรับอย่างไหลลื่นและพูดถึงรายละเอียดตั่งต่างอย่างกับเตรียมพรีเซนต์บก.


    “ครับ” “เดี๋ยวเราไป..” “กระท่อมเอสกิโม” “สุนัขลากเลื่อน” “หิมะไกลสุดลูกหูลูกตา” “เพนกวินกับแมวน้ำ”


                ถ้อยคำผ่านหูเขาครบทุกพยางค์ แต่สมองเขาจับได้ทันแค่เพียงบางประโยคที่ไม่น่าอภิรมย์ รังสีอันตรายแผ่ออกจากดวงตากลมโตที่หรี่ลงเรื่อยๆตามความหงุดหงิด

    “กินข้าวก่อน” เขาตัดกลางจังหวะพักดื่มไวน์ของอาร่อน หลังจากฟังมาคร่าวๆ

    มันเริ่มจากที่หลังเลิกงานวันนี่ควัก อาร่อนแฟนที่น่ารักจนถึงวินาทีที่ชวนเขาออกมากินข้าวเย็นนอกบ้านจะพูดถึงงานต่อไปว่ามีโปรเจ็คที่จะไปเขียนบทความประกอบหนังสือให้ เจย์ เพื่อนช่างถ่ายภาพอเมริกัน-เอเชี่ยนของอาร่อนที่เจอกันตอนทริปไปไอร์แลนด์เมื่อปีที่แล้ว

    แน่นอน เขาไม่ซีเรียสอะไรเลยถ้าอาร่อนจะไปทำงานไกล อย่างมากที่สุดก็เป็นห่วง ตั้งแต่เจ้าตัวออกจากงานผู้ประกาศข่าวเศรษฐกิจให้สื่อใหญ่แห่งหนึ่งในนิวยอกร์กมาเป็นฟรีแลนซ์รับเขียนบทความเล็กน้อยไปจนบทความท่องเที่ยวลงเพจบ้างลงนิตยาสารบ้าง ทริปแรกๆยังไม่ไกลจากNYไปมาก จนพอถึงจุดหนึ่งก็มีสำนักพิมพ์ให้ความสนใจแล้วก็ขอตีพิมพ์บทความหลายๆชิ้นออกมาเป็นหนังสือ นั่นทำให้ทริปต่อๆมาขยับออกห่างจากเดิมไกลโข แล้วก็ข้ามทวีปไปเลย...เขาหมายถึงข้ามไปเลยหลายๆรอบ วนเก็บตกบ้าง

    และเป็นเขาก่อนที่ทนเห็นสภาพซอมบี้ของอีกฝ่ายที่ปล่อยตัวเองโทรมหนวดเคราครึ้มจนดูไม่ได้ผ่านวิดีโอคอลในทริปแอฟริกาใต้ ยิ่งพอถามไปถึงการใช้ชีวิตต่างเมืองก็แทบจะถอนหายใจ ใครก็รู้ควัก อาร่อนดูแลเขาดีที่สุดตอนอยู่ด้วยกัน แต่พอออกลุยเดี่ยวตะลอนไปไหนๆก็กลายเป็นลุง30กว่าที่อีกนิดก็เหมือนโฮมเลส นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้ทริปอินเดียครั้งแรกในชีวิตของเขาจากการตามไปเช็คให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะไม่ลืมซักกางเกงที่ใส่ซ้ำเกิน5วัน โกนหนวดทุกๆ3วัน หรือเลิกกินอาหารที่หมดอายุมาสี่ห้าวันเพราะเสียดาย แล้วมันก็มีทริปที่2-3-4... มินกิไม่สมารถใช้นิ้วทั้งหมดนับได้ว่ากี่ครั้งแล้วที่หอบหิ้วร่างของตัวเองไปตามที่ต่างๆกับแฟนที่เริ่มจะไม่หนุ่มแล้ว เขาแน่ใจแล้วแหล่ะว่า ควัก อาร่อนจะสามารถไปออกทริปสุดดิบอย่างพวกตามลุ่มน้ำอะเมซอนหรือวิ่งหนีจรเข้ได้ทั้งๆที่ยังสามารถรักษาสภาพดีๆไว้ได้ด้วยตัวเองพักนึงแล้ว.. หมายถึงประมาณ2ปีหน่ะนะ 

    ถึงอย่างนั้นพอพูดถึงทริปนี้เขาก็อดหัวเสียไม่ได้จริงๆ ควัก อาร่อนทำเกินไปจริงๆ 

    แพขนตายาวกลับกระพริบถี่รัวเพื่อไล่มวลของความน้อยใจให้แห้งเหือดไป เขาที่อิ่มก่อนอย่างไม่ต้องสงสัยพูดขึ้นมาบ้าง


    “ไม่ไป”


              อาร่อนเป็นฝ่ายเลิกคิ้วบ้างขณะกำลัง0กิน มือหนาวางส้อมกับมีดลงหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดปากก่อนจะถาม “ทำไมหล่ะครับ? ไม่ใช่ว่าอยากไปดูแมวน้ำหรอกหรอ”

    “ใช่”

    “ที่มินกิเคยให้พี่ดูในคลิปไง แมวน้ำลายพิณแบบนั้นเลยนะ”

    “ไม่อยากดูแล้ว” เขาน่าจะตอบไวและห้วนเกินไปหน่อย

    “หงุดหงิดอะไรมาครับ พี่ทำอะไรผิดไปรึเปล่า?” เพราะควักอาร่อนหงอลง...อีกฝ่ายเลื่อมมือมากุมมือเขา หัวแม่โป้งไล้วนเบาๆบนหลังมือเขาอย่างที่ืทำประจำและนุ่มนวล

    “เปล่า..” มินกิเลี่ยงสบตา ก็อยากจะใจอ่อนนะแต่ไม่ได้จริงๆ เขาเปิดกระเป๋าข้างตัวออกหยิบกระดาษโง่ๆออกมาสองใบ...จริงๆก็ไม่โง่เท่าไหร่ พึ่งจะรู้สึดว่ามันดูเป็นอย่างนั้นนิดหน่อยเมื่อ15นาทีที่แล้วเอง

    “ฮาวายสามวัน...” มือที่กำลังไล้อยู่หยุดลงทันใด ควักอาร่อนช็อก มินกิตีตั๋วไปฮาวาย แลมันอยู่ในระยะพอดีกันกับเขา...ตรงกันกับวันที่สองของการไปฮาวายและวันที่3ของทริปไปขั้วโลกใต้


    ...วันครบรอบ 7 ปี


                เสียงถอนหายใจหนักๆดังขึ้นพร้อมกับเสียงสูดลมหายใจสั้นๆ ทั้งสองคนจะมองกันและกัน....รอใครสักคนจะพูดก่อน

    “วันครบรอบ/วันคร..” ชเวมินกิชนะ แต่สุดท้ายคนพูดก่อนก็แค่เหมือนจะเปิดปากแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ

    “พี่เปล่าลืมวันครบรอบ” ควักอาร่อนรีบแก้ไขความเข้าใจผิด

    แต่น้ำตาเป็นของเสียที่ร่างกายไม่สามารถเรียกกลับคืนได้ ความชุ่มชื้นเปียกไปทั่วใบหน้าขาว...มือติดสากพยามจะเช็ดน้ำตาออกจากแก้มนุ่ม ไร้เสียงใดเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากแดงที่เม้มเข้าหากันแน่นจนซีด...เป็นความเงียบที่สะท้อนไปทั้งใจของคนฟัง

    “พี่ขอโทษ พี่ไม่รู้ว่าหนูวางแพลนแล้ว” น้ำเสียงอ่อนลงอย่างชัดเจน ควักอาร่อนตัวเล็กลงเรื่อยๆตามเวลา

    “...” มินกิสูดน้ำมูก มือเรียวรวบสองมือของอีกฝ่ายออกจากใบหน้าเพื่อหยิบทิชชู่มาเช็ดเอง ความน้อยใจตีวนขึ้นทั้งๆที่ยังไม่แน่ใจว่ามันน่าน้อยใจไหมนะ

    “พี่คิดว่ามินกิน่าจะชอบแมวน้ำ...ก็เลยคิดว่าไปฉลองทีทีเดียวเลยก็น่าจ—“ ประโยคถูกตัดลงเมื่อกระดาษทิชชู่ลอยผ่านข้ามมา ยังไม่ทันจะได้ดุคนเด็กกว่าว่าอย่าขว้างของข้ามโต๊ะอาหาร คนตาแดงก็ทำให้เขาเงียบก่อน 

    “พี่ไม่ถามเลย...” มือเรียวปิดปากกระแอมไอเล็กน้อยพยามควบคุมน้ำเสียงให้ไม่สั่น

    “พี่ไม่ถามเลยว่าเราอยากไปด้วยไหม”

    “พี่ขอโทษ..”

    “พี่เอาวันครบรอบเราไปทำงาน”

    “คือพี่—“

    “หยุด! ฟัง! เราเหนื่อย พี่อยากไปแอนตาร์กขนาดนั้นก็ไป เราจะไม่ล่มทริปที่พี่ทำแพลนมาขนาดนั้นแล้วหรอกนะ..”

    “มินกิ..”ควักอาร่อนใจชื้นนิดหน่อย

    “แต่เราก็จะไปฮาวาย เราก็แพลนมา” เหมือนเขาถูกราหูอม...สถานการ์ณแย่ลงเรื่อยๆ

    “งั้นพี่ไปฮาว---“

    “ไม่ต้อง พี่ไปทำงานของพี่ เราจะไปพักผ่อนของเรา มันก็แค่ครบรอบ7ปี...” เขามองไม่เห็นหรอกว่าอาร่อนกำลังทำหน้าแบบไหนเพราะม่านน้ำตาทำทุกอย่างเบลอไปหมด แต่บอกได้เลยว่าคงแย่ไม่ต่างจากเขา อาร่อนรีบเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาให้อีกรอบ “หยุดร้องก่อนนะคะคนดี”

    “เว..งาน...ทริป...มันเหนื่อย...” คนที่กำลังน้อยใจปล่อยควักอาร่อนซับน้ำตาด้วยผ้าเช็ดหน้าไปแต่ก็ยังพั่งพรูสิ่งที่อยู่ในใจออกมาแม้ว่าจะติดสะอื้นจนออกมาไม่เป็นประโยคเลยก็ตาม อันที่จริงอาร่อนได้ยินแค่คำหลังด้วยซ้ำไป สีหน้าเขาแย่ลงเรื่อยๆ เขาต้องทำอะไรสักอย่างแต่ว่าตอนนี้เขาก็หมดคำพูดเหมือนกัน

    We need.. A-a break...” น้ำเสียงแผ่วทำเอาคอร์กี้ตัวเท่าเขื่องหางตกกว่าเดิม

    “หมายถึงหนูอยากพักหรอคะ? ไม่ใช่ที่หมายความว่าเลิกใช่ไหม?"

    "หนูคะ we won't break up, right?” ประโยคลนๆจนแทบนึกว่าลิ้นพันกันไปแล้วออกมาจากปากของคนที่ใจเย็นเสมอ...ใครบัญญัติให้คำว่าพักเบรกกับเลิกกันมันใกล้กันแค่ตัวเดียวกันวะ 

    “พี่คิดว่าไง...?” ตาสีอ่อนสบเข้ากับนัยน์ตา​สีน้ำตาลเข้มที่เคยกลมโต ใจคนคิ้วหนาอ่อนแรง...รอบจมูกและดวงตาของคนตัวบางเป็นสีแดงเข้มจนเขาอยากอุ้มกลับบ้านไปโอ๋กันยาวๆตอนนี้เลย

    “หนูอยากเลิกกันเลยหรอคะ?” มินกิกลืนก้อนความไร้เหตุผลนั่นลงไปก่อน.. ควักอาร่อนที่มานั่งทำหน้ากำลังจะโดนทิ้งตรงหน้าเขา ดูไม่ได้จริงๆแหล่ะ... ตาเว้าวอนนั้นมันอะไร อย่ามาทำเหมือนจะร้องไห้นะ เขายังไม่พร้อมปลอบสักหน่อย 

    "ไม่ใช่" มินกิถึงรู้ว่าควรหยุดพูดเพราะน้ำตาจะยิ่งไหล.. 

    ควักอาร่อนถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาก้มหน้าลงมองมือตัวเองชั่วคเพื่อหาว่าจะกู้สถานการณ์​กลับมาอย่างไรดี

    "เราหยุด คุย ไม่...ห่างกันก่อน ไปพัก ปีนี้ผมจะไปอยู่กับตัวเองก่อน พี่ก็ไปทำงานให้เสร็จ แล้วค่อยเจอกัน" ช้าไป มินกิรีบเก็บตั๋วลงเก็บของลงกระเป๋าก่อนจะรีบขอตัวลุกออกจากโต๊ะ

    "ทำงานแล้วก็เอ็นจอยด้วยนะ พี่ไม่ต้องคิดมากก็ได้" แผ่นหลังบางห่อด้วยเสื้อโค้ทสีเทาค่อยๆไกลออกไป คนตัวบางพยายามเมินเฉยเสียงเรียกของเขาที่เต็มไปด้วยความกังวล

    "ไม่กลับบ้านเราหรอคะ...แล้วหนูจะไปไหน บอกพี่ได้ไหม? "

    "..."

    "คุยกับพี่ก่อนเถอะนะ.."


    "ค่อยกลับมาคุยกัน ดูแลตัวเองดีๆ"


    นั่นเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่ประตูร้านจะปิดลง












    ------------------------------------------------------
    อั่กกกกก เซฟ... ทัน... ทันวันที่15จริงๆด้วย แฮร่ เห็นตารางอีเวนท์ก็เลยอยากเอาบ้าง.. (ไม่เจียมความไม่ตรงต่อเวลาของตัวเองเรย)​
    และใช่ค่ะ(?)​ตอนที่เหลือจะปล่อยตามเวลาที่วางไว้จนไปสุดตอนสุดท้ายที่เที่ยงคืนพน? . (เวลาไทยเพราะเวลาเกาหลีมีนัดวันเกิดกับผช.ทั้ง5ค่ะ//เขินบิด)​
    หมายความว่าข้ามไปรออ่านพน.เลยก็ได้ค่ะจะได้ครบทีเดียว555555
    ทั้งหมดมี 3 ตอน เป็นfanficเล็กๆไซส์มินิSFที่จะพยายามอย่างถึงที่สุดแล้วให้แน่นมากๆ 
    ตอนต่อไปปล่อยเที่ยงพน.ฮะ 
    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านงับบ??
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in