เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Seriesaholicseenam13
รีวิว 2521 Twenty-Five Twenty-One
  • ไม่ได้แตะรีวิวซีรีส์มาพักใหญ่เลยตั้งแต่ Hospital Playlist ซีซั่นแรก ทั้งที่คิดว่าซีซั่น 2 จะมาเขียนแท้ ๆ แต่เวลาก็ล่วงเลยไปมาก จนไม่สามารถเขียนได้แล้ว ตอนนี้มีเรื่องที่ทำให้อย่างเขียนอีกครั้งคือ 2521 นั่นเอง

    ซีรีส์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงสุดคลาสสิกอย่าง 2521 - Jaurim โดยแต่งจากเรื่องราวความรักของคุณคิมยุนอา นักร้องนำของวงในช่วงเวลาตอนที่แฟนของเธออายุ 25 และเธอ 21 ต่อมาเขาก็เสียชีวิตจากการทำงานหนักในช่วงวิกฤติ IMF ทั้งที่เธอคิดว่าความรักนี้จะคงอยู่ตลอดไป

    ซีรีส์เรื่องนี้ดูเผิน ๆ เป็นซีรีส์โรแมนติก สดใส และพูดถึงการทำตามความฝัน สำหรับเรา 2521 เป็นซีรีส์ที่เล่าหลายเส้นเรื่องมาก ๆ ทั้งการฟันดาบ วงการข่าว ความฝัน มิตรภาพ ความรัก และอีกหลาย ๆ ประเด็นที่ใส่มาแล้วรู้สึกไม่เหมือนยำมั่ว เป็น Coming of age ที่ค่อย ๆ ผ่านยุคสมัยต่าง ๆ เราจะได้เห็นการเติบโตของตัวละครทุกตัวผ่านวันเวลา ผ่านยุคสมัย ข้ามผ่านการเปลี่ยนแปลงในแต่ละยุค ทั้ง แฟชั่น เทคโนโลยี ข้าวของ ค่านิยมต่าง ๆ นานา และการที่ผู้เขียนทำให้เรารู้สึกเติบโตไปพร้อมตัวละคร นั่นราวกับกำลังจะฆ่าเราช้า ๆ

    จากนี้จะเป็นสปอยล์ล้วน ๆ นะคะ เพราะเราอยากจะพูดถึงซีรีส์เรื่องนี้แบบที่เราจะได้เก็บความรู้สึกต่าง ๆ ไว้กับรีวิวนี้ด้วย

    ซีรีส์เรื่องนี้เปิดด้วยการบอกกับเราว่า นาฮีโด มีลูกสาวชื่อคิมมินแช เป็นนักบัลเลต์ที่กำลังจะเลิกเล่นเพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งสู้ใครไม่ได้ และเธอดันเกิดมาเป็นลูกของอดีตนักกีฬาฟันดาบทีมชาติที่มีชื่อเสียงของเกาหลีอย่างนาฮีโด เธอไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงเคี่ยวเข็นแม้ว่าเธอจะอยากเลิกเล่นก็ตาม จนกระทั่งลูกสาวได้ไปพบกับไดอารีของแม่ที่บ้านเก่า นั่นเป็นจุดเริ่มต้นการเปิดกล่องความทรงจำของนาฮีโด


    นักกีฬานาฮีโดที่เกือบจะต้องเลิกฟันดาบเพราะพิษ IMF ที่ทำให้ชมรมปิดตัวลง และตอนนั้นนาฮีโดก็เป็นแค่นักกีฬาโนเนมไร้ฝีมือ คิมมินแชไม่เคยรู้ว่าแม่ก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนั้นเช่นกัน จุดนี้ซีรีส์คงอยากทำให้เราเห็นว่ากว่าที่คนเราจะประสบความสำเร็จก็ผ่านเรื่องราวต่างๆมามากมาย ไม่ใช่ว่าเก่งมาตั้งแต่เกิดเลย 

    นอกจากเรื่องฟันดาบนาฮีโดวัย 18 ยังได้บันทีกเรื่องราวของคนคนหนึ่งที่เธอได้พบในช่วงเวลานั้น แพคอีจิน เด็กส่งหนังสือพิมพ์ที่เพิ่งย้ายมาในย่านนี้ เพราะบ้านล้มละลายจาก IMF อีกนั่นแหละ อีจินที่เคยเป็นหนุ่มบ้านรวยอนาคตไกลต้องออกจากมหาลัยตั้งแต่ปี 2 หางานทำ ครอบครัวแยกกันอยู่คนละที่ ภาระของแพคอีจินคือการใช้หนีและทำให้ครอบครัวกลับมาอยู่ด้วยกัน



    นามสกุลแพคซึ่งไม่ตรงกับนามสกุลคิมของลูกสาวฮีโดนั้น ซีรีส์ก็ได้บอกอย่างตรงไปตรงมาตั้งแต่แรกแล้วว่า มินแชไม่ได้เป็นลูกของแพคอีจิน มีแต่คนดูอย่างเราที่หวังลม ๆ แร้ง ๆ ไปเองว่าอาจจะมีพลิก 

    ความสัมพันธ์ของนาฮีโดและแพคฮีจินค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นจากการช่วยเหลือกันและกันบางครั้งบางคราว และบังเอิญไปรับรู้สถานการณ์ที่ย่ำแย่ของอีกฝ่าย และได้ปลอบโยนกันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ช่วงเวลาที่ไม่มีใครเข้าใจ สิ่งที่ดึงดูดทั้งสองเข้าหากันคือการเป็นกำลังใจให้แก่กัน แน่นอนว่าเวลาที่มีคนช่วยแชร์ความทุกข์ยากในแต่ละวันย่อมดีกว่าแบกมันคนเดียว จึงเกิดเป็นความสัมพันธ์รูปแบบหนึ่งที่เราขอไม่นิยามว่ามันคืออะไร คงคล้าย ๆ สายรุ้ง อย่างที่ทั้งคู่เคยพูดไว้ 


    ด้วยความที่นางเอกของเราอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซีรีส์เรื่องนี้จึงเล่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนอย่างระมัดระวังไม่ให้ล้ำเส้น เพราะฮีโดยังเป็นผู้เยาว์แต่อีจินเป็นผู้ใหญ่ ขณะเดียวกันก็ค่อย ๆ พัฒนามันจนเป็นความรักเมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง ระหว่างนี้ไม่ได้มีเพียงเรื่องของคู่นี้ยังมีเพื่อน ๆ พ่อแม่ พี่น้อง ที่งดงามไม่แพ้กัน ทั้งเรื่องของโกยูริมเด็กสาวบ้านจนแต่มีพรสวรรค์ในกีฬาฟันดาบและการแบกความหวังของคนทั้งประเทศ จีอุงเด็กหนุ่มที่เรียนไม่เป็นโล้เป็นพาย ชอบแต่งตัวผิดระเบียบ แต่เป็นไอ้เจ้าน่ารักประจำห้อง และทำเรื่องสนุกอยู่ตลอด คนสุดท้ายคือซึงวานนักเรียนดีเด่นอันดับ1ของโรงเรีียนเพื่อนสนิทจีอุงซึ่งเป็นที่โหล่ ความสัมพันธ์ของเพื่อนคู่นี้ก็เป็นเรื่องที่เราชอบมาก เป็นคู่ที่เติมเต็มกันได้พอดี ชีวิตซึงวานขาดความสนุก ชีวิตจีอุงขาดความเป็นระเบียบ พอ 5 คนนี้อยู่ด้วยกันทุกอย่างลงตัว เป็นมิตรภาพที่สวยงามมากๆ



    และการที่ฮีโดสูญเสียพ่อไปตั้งแต่เด็กและไม่เคยเข้าใจแม่ที่เป็นนักข่าวเลยว่าทำไมไม่มางานศพพ่อ และถูกแม่เบี้ยวนัดอยู่เสมอ ซีรีส์แอบใส่เรื่องเหล่านี้เพื่อจะใช้ประโยชน์ในท้ายที่สุด โดยไม่ทำให้เรารู้ตัว ทำให้เราเผลอไผลไปกับความสดใสของช่วงวัย และประโยคที่หลอกเราเมื่ออีจินได้เป็นนักข่าวกีฬาว่า นักข่าวอย่าใกล้คนในข่าวเกินไป ทำให้โฟกัสว่าอีจินคงทำให้ฮีโดเสียใจเพราะเรื่องนี้แน่ ๆ แต่ซีรีส์ก็หักเลี้ยวกะทันหันให้อีจินไปเข้าห้องข่าวสังคม เผชิญกับความตายของผู้คนต่อหน้าต่อตา จิตใจก็ย่ำแย่ และเวลาที่มีก็หมดไปกับการทำข่าวและต้องผิดนัดกับฮีโดบ่อย ๆ 

    แต่ไม่ว่าเรื่องราวจะสดใสขนาดไหน เราก็ยังได้กลิ่นความขื่นขมและคิดว่าตอนจบของเรื่องนี้คงไม่เป็นอย่างใจหวังแน่ ๆ ทั้งที่ทำใจไว้แล้วกลับไม่ช่วยอะไร ซีรีส์ปิดทุกประตูที่จะทำให้ 2 คนนี้ได้คู่กันในตอนท้าย พวกเขาคิดตอนจบไว้ก่อนตอนเริ่มต้นซะด้วยซ้ำ

    พอแพคอีจินไปทำข่าวสังคม ปีนั้น 2001 ก็เกิดเหตุการณ์ 911 ที่นิวยอร์กพอดี เขาบินไปทำข่าวโดยไม่ร่ำไม่ลา ขาดการติดต่อกับฮีโดสิ้นเชิง อีจินเจ็บปวดไปกับข่าวที่ตัวเองทำ ความเครียด ความกังวลต่าง ๆ ถาโถมเขา ทำให้ไม่สามารถนึกถึงอะไรได้แม้กระทั่งนาฮีโดคนที่เขารักมาก ๆ พอติดต่อกันได้ อีจินก็แตกสลายไปมากแล้ว กำลังใจจากฮีโดไปไม่ถึงอีจินอีกแล้ว พอถึงตอนนี้เราเลยแน่ใจว่าทั้งสองอาจจะจบ เพราะสิ่งที่ผูกสองคนนี้ไว้ด้วยกันคือการปลอบใจกัน หากปราศจากสิ่งนี้แล้ว ความสัมพันธ์นี้คงไปต่อไม่ได้ และแม้เราจะหาเหตุผลอื่นให้ 2 คนนี้ไม่ต้องเลิกกันก็ดูเหมือนจะไม่มีทาง เพราะฮีโดเจ็บปวดจากแม่ที่ทิ้งให้เธอรอมาตลอดชีวิต และแพคอีจินที่เป็นนักข่าวเหมือนกันคงไม่ต่างอะไร และตัวแพคอีจินเองก็ลงสมัครทำข่าวที่นิวยอร์กต่อโดยไม่ปรึกษาฮีโด เพราะความก้าวหน้าในงานและจรรยาบรรณนักข่าว พอมาคิดอีกทีความฝันสูงสุดอย่างเดียวของอีจินคือครอบครัว เขาต้องก้าวหน้าให้เร็วที่สุด ทั้งสองคนไม่อาจอยู่ด้วยได้อีกต่อไปแล้ว ไม่มีหนทางที่ดีกว่าจบกันเลย แม้แต่ความรักก็ไม่ช่วยทำให้ความสัมพันธ์นี้คงอยู่ได้ เลิกกันทั้ง ๆ ที่ยังรักก็เป็นแบบนี้เองสินะ

    นาฮีโดตอนโตได้กลับไปที่อุโมงค์นั้น ที่เคยทะเลาะและพูดจาไม่ดีใส่อีจิน และรับรู้แล้วว่าอีจินเข้าใจเธอจากไดอารี่ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน มีแต่เธอเท่านั้นที่ยังติดอยู่ตรงนี้ จึงได้กลับมาบอกลาและปล่อยแพคอีจินไปจากใจ ฮีโด ขอบคุณที่อีจินทำให้รู้จักความรักและการเลิกรา 
    มีประโยคที่เราชอบอยู่ช่วงนี้ 2 ประโยคคือ
    "ในบางช่วงเวลา โลกใบนี้ถูกเติมเต็ม เพราะเราอยู่ด้วยกัน" นาฮีโด
    "เธอทำให้ฉันยิ้มได้ เวลาที่อยู่กับเธอ ฉันรู้สึกเหมือนได้ครอบครองทุกอย่างทั้งที่ฉันไม่มีอะไรเลย" แพคอีจิน


    สุดท้ายซีรีส์เรื่องนี้ก็ทำหน้าที่ได้ดี ในการเล่าเรื่อง รักแรก มิตรภาพ ความฝัน ที่ถึงแม้ไม่ได้คงอยู่ตลอดไป แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นไม่ดี เพราะช่วงเวลานั้นเราได้ใช้มันราวกับว่ามันจะคงอยู่ตลอดไป ได้รักกันแบบไม่เผื่อใจ และได้ทำทุกสิ่งเต็มที่แล้ว 

    ความทรงจำเหล่านั้นทำให้ชีวิตเราในปัจจุบันเปล่งประกาย ก็เพราะคนเราเติบโตขึ้นจากการประกอบสร้างของเรื่องราวที่เคยผ่านมา จนกลายเป็นเราในตอนนี้ ความทรงจำในอดีตทำให้เราแข็งแกร่ง และเติบโตขึ้นอย่างงดงาม เมื่อย้อนนึกถึงทีไรก็เห็นแต่สิ่งดีงาม 


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in