เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Abysspiyarak_s
Day 29-30: Notebook and Death (ตอนจบ)
  • 29. สมุดโน้ต

    หลังออกจากโรงพยาบาล ผมยังกลับไปทำงานไม่ได้ ต้องหยุดอยู่กับบ้านอีกหนึ่งสัปดาห์เต็ม ๆ 
    ผมมีความสุขที่ได้อยู่บ้านกับพ่อและแม่อีกครั้ง ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิม
    เพราะพ่อแต่งงานใหม่กับคุณเคียวโกะ มีลูกกับเธอสองคน คือ อากิกับคิระ น้องสาวกับน้องชายของผม
    ผมชอบคุณเคียวโกะและนับถือเธอ รู้สึกขอบคุณมาตลอดที่เธอดูแลพ่อของผม และเปิดใจยอมรับผมด้วย
    อย่างไรก็ตาม การได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าในบรรยากาศที่ผมเคยคิดถึงก็เป็นคนละเรื่องกับงาน


    ถึงระยะเวลาการสลายตัวของโรฮิปนอลจะสั้น ในกรณีปกติ คือ สลายหายไปภายในสามถึงสี่ชั่วโมง
    แต่กรณีของผมแย่กว่านั้น เพราะวินเซนต์ แอปเปิลบี้ฉีดมันเข้าในร่างกายของผมด้วยปริมาณเกินขนาด
    อาการถอนยาที่ทำให้คลื่นไส้และอาเจียนหายไปแล้ว แต่อาการหลงลืมเรื่องที่เกิดขึ้นยังคงรบกวนไม่หาย


    ผมรู้ว่าตัวเองหงุดหงิด โดยเฉพาะเมื่อต้องเปลี่ยนสถานะจากสมาชิกทีมสืบสวนเป็นผู้เสียหายและพยาน
    แต่ในฐานะของพยาน ผมก็อดรู้สึกผิดหวังกับตัวเองไม่ได้ เพราะความทรงจำบางช่วงของผมขาดหายไป
    การสูญเสียความทรงจำในช่วงที่ได้รับยาหรือช่วงก่อนหน้านั้นเล็กน้อยเป็นผลปกติจากโรฮิปนอล
    ถึงสิ่งที่ผมจำได้เป็นส่วนใหญ่จะเป็นประโยชน์และมากเพียงพอที่จะเป็นหลักฐานเอาผิดฆาตกรได้
    แต่ผมก็ไม่อยากให้ผิดพลาด โดยเฉพาะเมื่อผมรู้สึกว่าตัวเองมีโอกาสที่จะได้มันมาแล้ว แต่ก็ลืมไปจนได้


    ต่อหน้าพ่อกับแม่ ผมพยายามเก็บอาการหงุดหงิดเหล่านั้นเอาไว้ แต่มันไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลย
    ผมรู้ตัวว่าตัวเองกำลังเครียด ยังผวากับฝันร้ายที่ควบคุมไม่ได้ และตื่นขึ้นทั้งที่นอนไปไม่กี่ชั่วโมง
    สิ่งเดียวที่ทำให้ผมยังสามารถควบคุมสติและความรู้สึกของตัวเองได้ คือ จดทุกอย่างที่นึกออกใส่สมุดโน้ต
    ผมแทบจะพกมันเอาไว้ตลอดเวลา และจดทุกอย่างลงไปในนั้น เหมือนกันกลัวว่า ความทรงจำจะสูญหาย


    ผมรู้สึกผิดที่ผมดีใจที่พ่อกลับญี่ปุ่นและแม่กลับแมนเชสเตอร์ไปได้ แต่ก็โล่งใจที่ท่านกลับไปอย่างสบายใจ
    ผมบอกพ่อกับแม่ว่า ผมอยู่คนเดียวได้แล้ว ผมไม่ได้โกหกเพื่อให้ท่านสบายใจ ผมอยู่ได้ แต่ผมไม่อยากอยู่


    ผมอาจไม่ใช่เพื่อนที่แสนดีมากนัก แต่ผมโชคดีที่มีพีทและลีโอที่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยมีมา


    ในวันที่พ่อกับแม่กลับไปแล้ว พีทหิ้วเบียร์กับพิซซ่ามาหาผมที่บ้าน ในขณะที่ลีโอบอกผมว่าจะมาค้างด้วย
    เราต่างคนต่างรู้ความคิดของกันดีเกินกว่าจะถามหาเหตุผล และทุกคนรู้ว่าผมต้องการพวกเขาแค่ไหน


    พีทรู้ว่าผมอยากรู้ความคืบหน้าของคดีใจจะขาด แต่ช่วงเวลาหลังการจับกุมแอปเปิลบี้ได้ไม่สะดวก
    เพราะเขาไม่อยากรบกวนเวลาที่นานครั้งเราจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้า และไม่อยากให้พ่อแม่ผมรู้เรื่องนี้
    ช่วงที่พ่อกับแม่ของผมมาพักอยู่ที่บ้าน ผมกับลีโอได้พบกันเพียงครั้งเดียว เมื่อเขาแวะมาทักทายเท่านั้น
    ระหว่างที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ผมคิดถึงเขา ผมไม่ได้อยากนอนกับเขา แค่อยากอยู่ใกล้ ๆ เขาเท่านั้นเอง
    ไม่จำเป็นต้องอธิบายว่า ผมดีใจแค่ไหนที่มีพวกเขาอยู่ด้วย และพูดคุยในเรื่องที่เราเข้าใจกันอย่างตอนนี้


    พีทเล่าให้ผมฟังระหว่างที่เรานั่งดื่มกันอยู่ในห้องนั่งเล่นว่า วินเซนต์ แอปเปิลบี้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา
    เขารับว่าฆ่านีล แมคเคนซีและคอนสแตนติน่า เฮอร์สิกอส และบอกวิธีการในการฆ่าและนำศพมาทิ้ง


    “หมอนั่นไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด” คู่หูของผมทำท่าขนลุก “เขาบรรยายทุกอย่างเหมือนกำลังเลคเชอร์”
    นอกจากจะอธิบายถึงสิ่งที่ตนเองได้ทำไปทั้งหมดแล้ว เขายังจดบันทึกความรู้สึก และสิ่งที่ได้ทำลงไป
    เอาไว้ในสมุดโน้ตหลายเล่ม เขาเก็บสมุดบันทึกเหล่านั้นเอาไว้ในกล่องเดียวกันหลายสิบเล่ม
    แต่ทีมสืบสวนยังไม่ได้อ่านรายละเอียด เพียงแต่ทำบัญชีเอาไว้ และอยู่ระหว่างสำเนาส่งให้นักวิเคราะห์


    เช่นเดียวกับในรายงานการชันสูตรศพที่ลีโอเป็นคนทำ วินเซนต์ แอปเปิลบี้ ฉีดโรฮิปนอลให้เหยื่อทั้งสอง
    เขาไม่ได้ร่วมประเวณีกับนีลและคอนสแตนติน่า แต่ยอมรับว่าทำไปเพื่อสนองความใคร่ของตัวเอง
    เพราะเขามีอารมณ์กับคู่นอนที่เป็นเหมือนเจ้าหญิงหรือเจ้าชายนิทรา หรืออยู่นิ่งไม่เคลื่อนไหวเหมือนศพ
    เมื่อเหยื่อตายแล้ว เขาก็ปั๊มเอาเลือดภายในร่างกายของเหยื่อออกเพื่อความสะอาดและง่ายในการกำจัด
    จากนั้น เขาก็สับศพออกเป็นสองท่อน โดยกล่าวอ้างว่า เพื่อให้ง่ายสำหรับการขนออกไปทิ้ง 


    ผมส่ายหน้ากับคำอธิบายนั้น “ฉันคิดว่ามีอะไรมากกว่านั้น เพราะคนที่มีแรงจูงใจเรื่องเพศ
    มีแนวโน้มที่จะเก็บศพหรือชิ้นส่วนของศพเอาไว้จนกว่าจะเก็บไม่ได้ แต่นี่กลับทำลายทั้งที่ศพยังสด”


    พีทเลิกคิ้วกับข้อสังเกตนั้น “นายหมายความว่าไง”


    “หมายความว่า เขาอาจมีอารมณ์ตอนที่เห็นศพถูกทำลายไงล่ะ” ผมบอก และลีโอพยักหน้าว่าเห็นด้วย
    ผมรีบเปลี่ยนคำถาม ก่อนที่เพื่อนร่วมงานของผมจะคายพิซซ่าที่กินเข้าไปออกมา “แล้วเรื่องที่ทิ้งศพล่ะ”


    “ส่วนเหตุผลที่เอาไปทิ้งไว้ในที่สาธารณะนั่น เขาบอกว่า เพราะเป็นที่ที่เหยื่ออยากไปก่อนที่จะตาย”


    พีทพูดแล้วก็ส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เข้าใจ เพราะจุดพบศพแต่ละจุด เป็นสวนสาธารณะธรรมดา
    ไม่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรือสถานที่ที่มีความสำคัญอะไร แต่เมื่อคิดทบทวนตามคำของเขาแล้ว
    ผมก็รู้สึกหนาวเยือกขึ้นมาทันที เพราะสถานที่ที่พบศพนีลเป็นจุดที่อยู่ใกล้โรงแรมที่เรานอนด้วยกัน


    ผมรู้สึกว่าขอบตาของผมร้อนเหมือนจะร้องไห้ เมื่อนึกถึงสีหน้าของนีลในคืนวันนั้น...
    สำหรับผมแล้ว ความสัมพันธ์ข้ามคืนไม่มีความหมายอะไรมากนัก แต่สำหรับนีล มันไม่ใช่เช่นนั้น
    เขาอยากพบผมอีกครั้ง เขาอยากเจอผมอีก แต่เขาไม่รู้ชื่อหรืออะไรเกี่ยวกับตัวของผมเลย
    นอกจากสถานที่ที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยกัน และเป็นสถานที่ที่เขาเรียนรู้ประสบการณ์ครั้งแรกจากผม


    สิ่งที่วินเซนต์ แอปเปิลบี้ทำใช่ว่าจะไร้เหตุผลเลย แต่เขาหมายความเช่นนั้นอย่างแท้จริง
    นอกเหนือไปจากต้องการท้าทายกฎหมายว่า จะสามารถสาวมาถึงตัวของเขาได้หรือไม่เท่านั้น
    ในกรณีของคอนสแตนติน่า ถ้าหากถามคู่หมั้นของเธอ ก็คงจะได้คำตอบเกี่ยวกับสถานที่เช่นกัน


    ลีโอคงจะสังเกตเห็นท่าทีที่แปลกไปของผม เขาเลื่อนมือที่วางบนพนักโซฟาลงมาโอบไหล่ของผมไว้
    แต่เมื่อพีทถามว่า ผมโอเคหรือเปล่า ผมตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องดังกล่าวของผมกับนีลให้พวกเขาฟัง
    ลีโอรู้ดีเสมอมาตั้งแต่แรกแล้วว่า ผมอาจไม่คิดหยุดอยู่กับเขา และผมก็ไม่เคยปิดบังเรื่องนี้กับเขา
    จนกระทั่งในเวลานี้ ที่ผมไม่ต้องการใครอื่นอีกแล้ว นอกจากเขา แต่ผมก็เลือกพูดความจริงมากกว่า


    ถ้าผมไม่เคยสงสัยวินเซนต์ แอปเปิลบี้ จนกระทั่งตกเป็นเหยื่อของเขาอีกคนหนึ่ง และเขาถามผมว่า
    ก่อนที่ผมจะตาย ผมอยากไปที่ไหน หรืออยากพบใครมากที่สุด ผมคงจะเป็นเหยื่อที่ทำให้เขาผิดหวัง


    ผมรักลีโอเกินกว่าที่จะบอกความจริงข้อนั้นให้คนอื่นได้รับรู้
    คนที่มีสิทธิที่จะรู้ว่าผมคิดอย่างไร จะมีแค่ลีโอเพียงคนเดียวเท่านั้น



    30. Death

    ผมกลับไปทำงานตามปกติ หลังจากหยุดพักไปสัปดาห์เศษ และต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อย
    หัวหน้าอุ่นเครื่องให้ผมด้วยคดีที่ไม่ซับซ้อนนัก และนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกดีที่ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง
    ส่วนคดีฆาตกรรมสองศพนั้น ผมยินดีที่จะถอนตัวออกมาเอง เพื่อความสะดวกและสบายใจของทีม
    การแจ้งเตือนชุมชน LGBTQ และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในลอนดอนและไบรตันไม่เสียเปล่า
    เรากู้หน้าคืนมาจากทีมสืบสวนอีกทีมหนึ่งที่ทำคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่มีเหยื่อเป็นชายรักชายสำเร็จ
    แต่ก็ไม่วายมีข้อครหาจากบางคนอยู่ดีว่า เพราะผมเป็นหนึ่งในบรรดาคนรักเพศเดียวกันหรอก
    ทางตำรวจถึงได้ใส่ใจในความเป็นพวกเดียวกัน และต้องการรักษาหน้าของเดอะเม็ทมากกว่า
    แต่ใครจะว่าอะไรก็ช่าง เราจับฆาตกรตัวจริงได้ และสามารถหยุดเขาได้ก่อนที่จะมีเหยื่อรายอื่นอีก


    แม้ว่าผมจะกลายเป็นผู้เสียหายและเป็นหนึ่งในพยานในคดี แต่ก็ไม่ได้ถูกกันไม่ให้รู้อะไรเลยเสียทีเดียว
    เพราะพีท โดเฮอร์ตี้ เพื่อนร่วมงานและเพื่อนสนิทของผม ซึ่งยังต้องติดตามและทำคดีนี้ให้เรียบร้อย
    เขาบอกผมว่า สิ่งที่ผมคาดเอาไว้แต่แรกนั้น ไม่ผิดไปจากที่อยู่ในบันทึกของแอปเปิลบี้สักเท่าไหร่
    นักจิตวิทยาอาชญากรรมที่เอาสมุดโน้ตของเขาไปอ่าน เขียนรายงานมาในทำนองเดียวกับที่ผมเคยพูด


    ปมในจิตใจของวินเซนต์ แอปเปิลบี้บ่มเพาะมาตั้งแต่สมัยที่เขากำลังจะโตเป็นวัยรุ่น


    จากบันทึกของวินเซนต์ แอปเปิลบี้ความตายของนีน่า รามิเรซ ซานโตส สาวใช้จากแถบคาริบเบียน
    ได้ปลุกสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในซอกหลืบดำมืดที่ยากจะหยั่งถึงในจิตใจของเด็กชายวินเซนต์ให้ตื่นขึ้น
    วินเซนต์ซ่อนอยู่ในตู้ ระหว่างที่พ่อของเขา ซึ่งเป็นวิสัญญีแพทย์ ร่วมประเวณีกับเธอในห้องใต้ดิน
    นายแพทย์แอปเปิลบี้ฆ่าเธอ แต่ก็ยังร่วมรักกับร่างไร้วิญญาณของเธอต่อไป โดยไม่รู้ว่า ลูกของตนเห็น
    จากนั้น เขาก็ใช้ขวานสับเธอเป็นท่อน และเป็นตอนนั้นเอง ที่เด็กชายที่กำลังโตเป็นหนุ่มรู้จักความใคร่
    แต่ความใคร่ของเขาเป็นความต้องการที่บิดเบี้ยว ในตอนนั้น เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า เขารู้สึกเช่นนั้น
    เพราะเห็นการร่วมรัก เห็นร่างเปลือยของหญิงสาว หรือว่าเพราะร่างเปลือยเปล่าของพ่อตัวเอง


    สิ่งที่ส่งเสริมให้จิตใจของวินเซนต์แยกแยะความผิดถูกไม่ได้ ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากพ่อแท้ ๆ ของเขาเอง
    นพ. อัลเบิร์ต แอปเปิลบี้รู้เรื่องที่ลูกชายของตนมองเห็นทุกอย่าง แต่เขาเลือกที่จะกลบเกลื่อน
    และดึงเอาลูกชายของตนเองเข้ามามีส่วนร่วมในการทำลายศพของนีน่า รามิเรซอีกคนหนึ่ง
    เขาทำให้วินเซนต์รับรู้ว่า ไม่มีอะไร ไม่มีปัญหา จะไม่มีใครจับได้ ถ้าหากพวกเขาร่วมมือกัน
    และยิ่งไปกว่านั้น เขาชมลูกชายว่า เก่ง ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้เด็กชายภาคภูมิใจในตัวเอง
    เพื่อแลกกับสิ่งเดียว คือ เก็บความลับเรื่องที่เขาฆ่าสาวใช้ชาวต่างชาติแล้วนำศพที่ถูกทำลายไปทิ้ง


    นีน่าเป็นเหยื่อรายแรกที่ถูกหลงลืม เพราะไม่มีใครคิดออกตามหา ไม่มีใครรู้หรือสนใจว่าเธอไปอยู่ที่ไหน
    เพราะไม่มีใครรู้เห็นเกี่ยวกับเธอ และทางตำรวจเองก็เชื่อถือปากคำของแพทย์ผู้มีหน้าตาในสังคม
    รวมถึงเชื่อว่า เด็กหนุ่มอย่างวินเซนต์ไม่มีทางโกหกไปได้ นีน่าจึงสูญหายไปตลอดกาล
    แต่ในการรับรู้ของวินเซนต์ แอปเปิลบี้ เธอมีชีวิตอยู่ในความฝันของตัวเอง ความฝันที่พ่อของเขามอบให้


    เมื่อเติบโตขึ้น มีอะไรให้ทำมากกขึ้น เขาอยู่ห่างบ้านและมีสังคมของตัวเองมากขึ้น
    วินเซนต์จึงหลงลืมเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในสมัยเด็กไปชั่วขณะ แต่พ่อยังคงเป็นที่หนึ่งในใจของเขาเสมอ
    แม้ว่าความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้จะไม่ปกติเอาเสียเลย โดยเฉพาะเรื่องทางเพศที่พ่อเขาสอนให้ปฏิบัติ
    เช่นเคย วินเซนต์ตีความการล่วงละเมิดเป็นการให้ความรู้และให้ความรัก และเข้าใจเอาเองว่า
    การตื่นตัวทางเพศของตัวเองในครั้งนั้น เกิดขึ้นเพราะเขาเห็นร่างเปลือยเปล่าของพ่อกับนีน่านั่นเอง


    เขาไม่รู้ว่าความตื่นเต้น เลือดที่สูบฉีดทั่วร่าง การตื่นตัวของเขาเกิดขึ้นเพราะเห็นเธอถูกสับออกเป็นชิ้น
    จนกระทั่งเขาตกลงใจที่จะก้าวตามรอยเท้าของคนที่เขาเคารพรักและมองว่าเก่งกาจเหนือใครมาแต่เล็ก
    ด้วยการสอบเข้าโรงเรียนแพทย์ และในวิชากายวิภาคศาสตร์ ความปรารถนาดำมืดของเขาก็ถูกกระตุ้น
    นั่นคือเหตุผลที่เขาจำเป็นต้องลาออกจากการเป็นนักเรียนแพทย์ ทั้งที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย


    ผมคิดว่า พ่อของวินเซนต์ แอปเปิลบี้มีส่วนสร้างปมปัญหาของเขาให้รุนแรงยิ่งขึ้น
    ด้วยการไม่ยอมรับความจริงว่า สิ่งที่ลูกชายของเขาเป็นอยู่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขก่อนที่จะถลำลึก
    แต่เขาเห็นแก่ตัวเกินไป เห็นแก่ตัวเกินกว่าจะยอมรับความจริง และที่สำคัญเขากลัวว่าตัวเองจะมีปัญหา


    หลังจากกรณีของนีน่า รามิเรซ พ่อลูกแอปเปิลบี้ไม่ได้ก่อเหตุฆาตกรรมใด ๆ อีกเลย
    ทุกอย่างดูสงบเรียบร้อย และวินเซนต์ก็ไม่เคยแสดงท่าทีว่าเป็นคนที่ชอบใช้ความรุนแรงใด ๆ ทั้งสิ้น
    จนกระทั่งวันที่พ่อของเขาตายไป วินเซนต์ไม่เหลือต้นแบบอะไรไว้ให้เขาบูชาอีก
    นอกเหนือไปจากการก้าวขึ้นทำหน้าที่ทดแทน และทำสิ่งที่พ่อของเขาเคยทำเอาไว้อีกครั้งหนึ่ง


    นีล แมคเคนซี่เป็นเหยื่อรายแรกที่โชคร้ายที่สุด เพราะดวงตาและสีผิวของเขาคล้ายกับนีน่า
    ส่วนคอนสแตนติน่าต้องประสบเคราะห์ร้าย เพียงเพราะเธอมาอยู่ในจังหวะเวลาที่เขากำลังต้องการ
    แต่ในกรณีของผมนั้น ดูเหมือนว่า เขาจะเริ่มสนใจผมตั้งแต่วันที่เขาแทรกตัวในฝูงชนที่ได้ยินข่าว
    เขาเริ่มสนใจผมมากขึ้น ในช่วงจังหวะเวลาที่ผมเริ่มสับสนกับความสัมพันธ์ของตัวเองกับลีโอ
    เขาสังเกตเห็นความรู้สึกนั้นของผม เมื่อเขาเฝ้ามองผลงานชิ้นที่สองของตนเอง คือ คอนสแตนติน่า
    ความสับสน ความเหงา ความต้องการ และความปรารถนาที่ไม่มีวันเป็นจริง คือ อาหารของเขา


    ผมทนอ่านสำเนาบันทึกบางส่วนของวินเซนต์ไปจนจบ และส่งคืนให้กับพีท โดเฮอร์ตี้


    พีทบอกผมว่า วินเซนต์ถามหาผม และถามว่าผมเป็นอย่างไรบ้าง อาการดีขึ้นไหม
    เขาอยากเห็นหน้าผมอีกสักครั้ง อยากพูดคุยกับผม แต่คำขอนั้นของเขาได้รับการปฏิเสธ
    พีททำถูกแล้วที่ตัดสินใจแทนผมไปอย่างนั้น แม้ว่าผมจะอยากรู้ว่า วินเซนต์จะทำอย่างไรเมื่อพบผม
    แต่ไม่มีอะไรที่ผมจะทำได้อีกแล้ว ผมเข้าใจและให้อภัยเขา ทว่าผมไม่สามารถสงสารหรือเห็นใจเขาได้


    สถานที่ที่ผมจะพบหน้าเขามีเพียงที่เดียวเท่านั้น คือ ศาล ที่ที่เขาเป็นจำเลย และผมเป็นพยานโจทก์


    สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างผมกับลีโอ... เรายังคงเหมือนเดิม คือ ไม่มีคำเรียกสำหรับสถานะที่เป็นอยู่
    เขาไม่เคยร้องขอให้ผมหยุดอยู่ที่เขาเพียงคนเดียว ในขณะเดียวกัน ผมก็ไม่เคยบอกว่า ผมไม่มีคนอื่น


    ผมมีกุญแจบ้านของเขา และเขามีกุญแจบ้านของผม... เพียงเท่านี้ก็ชัดเจนมากพอแล้ว









    = ส่งท้าย =


    “ไม่ได้เห็นที่นี่ซะนานเลยนะ คุณตำรวจ”


    “ดร. คิงสลีย์” ผมยิ้มให้เจ้าของคำทักทายนั้น ลีโออยู่ในชุดผ่าตัดสีเขียว “ผมมารับรายงาน”
    “ดีใจที่ได้เห็นนายมาอยู่ตรงนี้อีกรอบ” เขาเดินเข้ามาหาผม “งานยุ่งจนต้องมาหยอดกาแฟที่นี่เลยเหรอ”


    “ผมไม่คิดว่าคนที่คุณผ่าไปจะดีใจแบบคุณด้วยหรอกนะ” ผมหัวเราะ เราไม่ได้พบกันมาหลายวันแล้ว
    เมื่อผมเริ่มทำงานเต็มตัว และเขามีศพมาให้ชันสูตรมากมาย เพราะสำนักงานโคโรเนอร์ส่งมาให้
    เราต่างคนต่างยุ่งจนแทบไม่มีเวลาได้พบกัน และ การโทรศัพท์พูดคุยกันก็เป็นเรื่องงานมากกว่าอย่างอื่น


    ผมขอบคุณที่เขาช่วยเอาฝาพลาสติกจากตู้ขายกาแฟหยอดเหรียญมาปิดปากแก้วให้ และสบตากับเขา
    “ยุ่งอยู่พอสมควร แต่คงไม่เท่าคุณ เลยหาเรื่องมาเจอคุณบ้างก็แค่นั้นเอง เผื่อคุณไม่ว่างแวะไปหาที่บ้าน”


    “แล้วคืนนี้นายว่างหรือยังล่ะ”


    ตั้งแต่รู้ว่า เข็มที่วินเซนต์ใช้แทงผมในคืนก่อนที่เราจะจับเขาได้ปลอดเชื้อ ทุกอย่างสะอาดปลอดภัย
    ความวิตกกังวลทั้งหลายก็สลายหายไปจนหมด และดูเหมือนว่า จะทำให้ลีโอได้ใจขึ้นมาอีกนิดหน่อย


    “คุณว่าง ผมก็ว่าง”


    คราวนี้ ผมรู้แล้วว่า จะทำอย่างไม่ให้กาแฟที่ถืออยู่ในมือหก ในเวลาที่เขาตรงเข้ามากอด





    --------------------- (THE END) ---------------------- 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
dalnimxstar (@dalnimxstar)
"ปลาบปลื้มกับการที่ผมยกให้เขาเป็นคนตัดสินใจทุกอย่างให้" เพราะประโยคนี้แท้ ๆ เลยนะคะที่ทำให้เราสนใจในตัวแอปเปิลบี้ อดีตของเขาโหดร้ายมากเลย สิ่งที่น่ากลัวและซับซ้อนที่สุดไม่พ้นความคิดและจิตใจของมนุษย์จริง ๆ แต่ความซับซ้อนบางทีก็น่าค้นหาเนอะ 55555 ดีใจกับความสัมพันธ์ไม่มีชื่อเรียกแต่แสนสบายใจของคุณ ๆ ทั้งสองด้วยค่ะ ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเองแต่มีส่วนที่ Intersect กันตรงกลางให้ชื่นฉ่ำหัวใจ //*ยืนปาดน้ำตากับความรักที่แสนดีอยู่เงียบ ๆ* ขาดช่วงไม่ได้อ่านนานเลย รู้สึกอยากอ่านตอนที่สมองโล่ง ๆ มีสมาธิมากกว่า แหะ ๆ ขอบคุณสำหรับนิยายค่าา ^^
piyarak_s (@piyarak_s)
@dalnimxstar ใช่เลยค่ะ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนและน่ากลัวได้อย่างที่เราไม่คาดคิดเลย

ดีใจที่ชอบความสัมพันธ์แบบนี้ของฮารุกับลีโอนะคะ ><

ขอบคุณมากๆ เลยที่ติดตามกันมาตลอดจนจบค่ะ <3