เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ชั้นหนังสือanonymous
[The Flower World] นางโลมยุคเอโดะนั้น อยู่กันอย่างไร
  • เพราะมนุษย์และเซ็กส์เป็นของคู่กัน 

    นางโลมจึงจำเป็น ด้วยประการฉะนี้ 


            ประวัติศาสตร์หญิงขายบริการอยู่คู่กับโลกนี้มานานแสนนานนนนนนนนนนนน ไม่ว่าจะตะวันออก ตะวันตก ( เอาง่าย ๆ ก็ทั้งโลกแหละ ) หรือไทยเองก็ตาม ก็ความใคร่ความหงี่ย่อมไม่เข้าใครออกใคร จะให้ไปฉุดคร่าใครมันก็ไม่ใช่ อาชญากรรมนะโว้ย หญิงบริการมันก็ต้องมีด้วยเหตุนี้ละวะ ความหงี่ก็เป็นความเท่าเทียมอย่างหนึ่งในโลก เพราะไม่ว่าใคร จะยากดีมีจน รวยล้นฟ้า เป็นกษัตริย์ หรือรากหญ้า ก็ล้วนเคยหงี่กันทั้งนั้น ( หรือจะปฏิเสธ  ? )
            

            แต่ปัจจุบัน การขายบริการในบางพื้นที่ดูเป็นเรื่องต้องห้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย  ที่เหล่าผู้ทรงศีลทั้งหลาย หรือฝ่ายราชการ ต่างไม่ยอมรับการมีอยู่ของสิ่งเหล่านี้ สะบัดหน้าหนีราวกับเห็นของร้อน ไปพัทยาตรวจก็ไม่เห็นมี ไปสนามหลวงก็ไม่เจอ (แหงล่ะ หล่อนเอาสนามหลวงกลับคืนไปแล้ว ) มองเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ ่น่าอาย เราว่าถ้าทำถูกกฎหมาย เอาขึ้นมาข้างบนเนี่ย น่าจะเป็นอุตสาหกรรมที่เรียกเม็ดเงินเข้าประเทศอย่างมหาศาล 
            

            วันนี้เลยอยากเล่าถึงหนังสือที่เพิ่งอ่านจบไปได้ไม่กี่วัน  "The Flower World" เขียนโดย Fongnam  ขอชื่นชมผู้เขียนที่สามารถเล่าประวัติศาสตร์นางโลมได้ครบเครื่อง  เต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจของวงจรธุรกิจนางโลมของญี่ปุ่นในยุคสมัยเอโดะที่ทำกันเป็นล่ำเป็นสัน ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ในเล่มมีภาพประกอบที่ทำให้เห็นภาพอย่างชัดเจน ทำให้เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ที่ย่อยง่ายอีกเล่มหนึ่ง


            ขอเล่าความเป็นมาของหนังสือเล่มนี้ก่อน ตอนแรกเราก็ตั้งใจจะไปซื้อนิยายของคุณ Fongnam เฉย ๆ เพราะช่วงนั้นก็ไม่มีตังค์เท่าไหร่ แต่โดนป้ายยาหนักมาก แถมไม่รู้จะมีรีปริ๊นท์อีกมั้ย ก็เอาวะ ซื้อ ! จนได้เล่มนี้มาติดมือ จ่ายไปน้ำตาไหลไป   ( แต่ไม่แพงนะ คุ้มมาก )


            ผู้เขียนพาเราเข้าไปอยู่ในยุคสมัยแรกตั้งแต่การกำเนิดโสเภณีในญี่ปุ่น ที่มีการเรียกร้องให้สร้างที่สร้างทางสำหรับโสเภณีให้อยู่เป็นหลักแหล่ง จะได้ไม่เกลื่อนเมือง ตรวจสอบก็ง่ายขึ้นเป็นกอง เป็นอย่างนี้ไปไหนก็คงเห็นแต่โสเภณี ทางการเมื่อเห็นปัญหาก็เซย์เยสให้มีการสร้าง ก็เริ่มเรื่องราวของเหล่านางโลมทั้งหลาย ก็ได้เริ่มต้นขึ้น 

            
            ในหนังสือเล่มนี้กล่าวถึงตั้งแต่แผนผังตรอกซอกซอยของแหล่งหอนางโลม ประเภทของหอนางโลมในแต่ละที่ วิธีการจำแนกหอนางโลม ความเป็นอยู่ของนางโลมแต่ละชนชั้น  กฎหมายควบคุมในสมัยนั้น

            นอกจากนั้นยังลงลึกไปถึงนางโลม ตั้งแต่ขั้นตอนการฝึกตัวเองก่อนเป็น ช่วงเบิกพรหมจรรย์ ไปจนถึงการไต่เต้าเพื่อให้ได้เป็นจุดสูงสุดของนางโลม แฟชั่นของนางโลมในแต่ละยุคสมัย ตารางชีวิตอาหารการกิน ( ขอย้ำว่ามีรูปประกอบสวยงามตลอดทั้งเล่ม )  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จุดสูงสุดของนางโลมที่แท้จริง ที่ผู้เขียนได้บอกไว้ก็คือ การถูกไถ่ตัวจากคนที่ตนหมายปอง แล้วได้เดินออกประตูใหญ่ด้วยกัน 


            ไม่เพียงแต่นางโลม ผู้เขียนยังเล่าถึงอาชีพต่าง ๆ ที่ได้ผูกพันกับหอนางโลมเหล่านี้ ( รายละเอียดแน่นๆ ) เพราะหอนางโลม ย่อมไม่ได้มีเพียงนางโลมอย่างเดียว ยังมีส่วนประกอบอีกหลายอย่างที่ขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็น กิว เกอิชา มาวาสุ  เป็นต้น 


            เมื่อมีด้านสว่าง ย่อมมีด้านที่มืด คนเยอะย่อมเรื่องเยอะตาม มีคดีความเกิดขึ้นมากมาย โรคติดต่อทางเพศในสมัยนั้น การตั้งครรภ์ของเหล่านางโลม ความรักต้องห้าม และเมื่อดอกไม้ผลิบานเต็มที่ ย่อมมีการร่วงโรย ถ้าไม่สามารถรักษาตนเองให้รอดปลอดภัยจนเกษียณได้ ก็จะถูกย้ายไปเป็นนางโลมชั้นที่ต่ำที่สุด  ที่เล่ามามันคือส่วนหนึ่งเท่านั้น ในเล่มยังมีเรื่องราวอีกเยอะมาก ทั้งเทศกาลของเมือง วันหยุด รวมไปถึงจุดสิ้นสุดของวงจรธุรกิจนางโลม


            สัญญาของนางโลม ที่ไม่เป็นธรรม หรือเรียกว่าสัญญาทาสก็ย่อมได้ 


            อีกเรื่องหนึ่งที่เรารู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก คือมุมมองต่อคนที่ไปเที่ยวหอนางโลม ว่ามันเป็นเรื่องที่ปกติมาก ๆ ! โสดหรือแต่งงานแล้วก็ไปได้ไม่ต้องอาย เพราะการที่ล่วงละเมิดหญิงสาว หรือไปซื้อนางโลมที่ผิดกฎหมาย น่าอายกว่าเป็นไหน ๆ ทางการอุตส่าห์จัดที่ทางให้แล้ว การที่ไม่ยอมใช้บริการนางโลมในหอ แสดงว่า ตกอับหรือไม่มีเงิน แถมการไถ่ตัวเป็นอนุภรรยานี่ถือเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ 


            นอกจากนั้น มุมมองคนข้างนอกที่มีต่อนางโลม ก็ไม่ได้จะไปตีตราอะไร เพราะทุกคนก้รู้ว่าไม่มีใครจะอยากมาเป็นนางโลมหรอก จำใจกันมาทั้งนั้น โดนพ่อแม่ขายมาตั้งแต่เด็ก จะให้เราไปตีตราเค้ามันก็ยิ่งไม่ถูก 


            อ่านถึงตรงนี้แล้วเราอุทานเลยจ้า โอ้โหหหห ชาวเอโดะยุคนั้นล้ำเหลือเกิน ช่างแตกต่างจากที่เราวาดภาพในหัวไว้ หรือผิดไปหมดนั่นแหละ เราคิดว่าคนคงจะอาย แต่ไม่เลย แถมยังดูเปิดกว้างกว่าประเทศไทยยุค 2020 อีก


            ประวัติศาสตร์เรื่องเพศมีมาแต่โบราณกาล  ฉันใดก็ฉันนั้น นางโลมก็เช่นกัน ประวัติศาสตร์อันยาวนานก็ได้เกิดขึ้นและเป็นตำนานมาจนถึงปัจจุบัน 


            ถ้าใครไม่สะดวกอ่านหนังสือประวัติศาสตร์เพียว ๆ  เรามีแนะนำนิยายที่เกี่ยวกับนางโลม และสาวถือโคม จากผู้เขียนคนเดียวกับที่เขียนหนังสือเล่มนี้ ( ที่ฮาร์ดเซลขนาดนี้ไม่ใช่หน้าม้าเด้อ ชอบงานเขาจริงจัง ) ไปทดลองอ่านกันได้น้า ถ้าอยากเก็บเล่มก้ต้องรีบหน่อย เพราะมีจำนวนจำกัด 
     
    เรื่องลับ ๆ ฉบับนางโลม (A++)     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in