-ขออำนวยอวยพรให้กับตัวฉันผู้ที่จะต้องสู้กับมรสุมชีวิตในวันต่อๆไป-

ฉันเขียนบทความนี้ตอนเย็นๆเพราะว่าเหนื่อยจากการทำการบ้านมากๆ ฉันวางแพลนไว้ว่าจะทำการบ้านอยู่สามอย่างและอ่านหนังสือสองวิชาแต่พอมาจนถึงตอนนี้ ฉันกำลังทำการบ้านเสร็จไปแค่สองอย่างและยังไม่ได้เริ่มอ่านหนังสือ

ฉันจะต้องสอบวิชากฎหมายแพ่งไปจนถึงกฎหมายมรดกในวันจันทร์ยิ่งไปกว่านั้นก็ต้องส่งการบ้านอยู่สองสามวิชาฉันรู้สึกท้อใจมากๆจึงได้มาเขียนบทความนี้เพื่อระบายความเหนื่อยล้าในใจบ้าง

ฉันมีปัญหากับงานกลุ่มนิดหน่อยลึกๆแล้วฉันไม่ชอบทำงานกลุ่มมากเลยค่ะ ไม่ชอบมากๆเลยเพราะฉันจะต้องเป็นหัวหน้ากลุ่มและคอยแบ่ง จัดสรร และรวบรวมงานเสมอแต่เพื่อนในกลุ่มทำงานไม่ได้ตามที่ฉันต้องการสักเท่าไหร่ จนบางครั้งฉันต้องมาปรับแก้ไขใหม่เองถามว่าทำไมฉันถึงไม่บอกเขาไปชัดๆว่าให้ทำอะไร ฉันบอกแล้วค่ะ แต่พวกเขาไม่ใส่ใจหรอกเขาก็แค่ทำให้มันเสร็จๆไป

งานเดี่ยวก็เยอะพอๆกับงานกลุ่มเลยค่ะฉันอยู่ม.6แล้ว แต่แทบไม่ได้อ่านหนังสือเลย รู้สึกเหนื่อยล้าและโกรธครูทุกครั้งที่ครูสั่งงานเพิ่มแบบกระทันหัน

กลั้นอกกลั้นใจใช้เงินซื้อคอร์สเรียนภาษาอังกฤษเพื่อใช้สอบมาคอร์สนึงแหน่ะแต่เรายังเรียนได้ไม่ถึงไหนเลย น่าโมโหจริงๆ

ค่ะและในวันอังคารฉันมีสอบวิชาภาษาจีนสองวิชาก็คือวิชาอ่านเขียนและ HSK

ฉันเรียนศิลป์-ภาษาจีนค่ะสาเหตุที่เลือกเรียนเพราะมีคนจีนทำธุรกิจที่ไทยเยอะและตอนนั้นฉันเป็นแฟนคลับ EXO and GOTที่ทั้งสองวงมีชาวต่างชาติด้วยนั่นก็คือคนจีนเขาไปออกวาไรตี้จีนกันบ่อยมากๆทำให้ฉันอยากเรียนภาษาจีน

ชอบเกาหลีแต่ทำไมไม่ไปเรียนภาษาเกาหลีล่ะ?

หนึ่งเลยคือโรงเรียนพึ่งเปิดสอนวิชานี้หลังจากฉันขึ้นม.5นั่นหมายความว่าฉันจะต้องดรอปอย่างนั้นหรือคะ ไม่มีทางค่ะ เหนื่อย

แต่ตอนนี้ฉันอยู่ม.6แล้วเป็น #dek64  ฉันเริ่มหมดแพชชั่นกับภาษาจีนเพราะครูผู้สอนในบางทีแต่ตอนนี้เหมือนจะดึงมันกลับมาได้บ้าง ฉันก็ชอบวัฒนธรรมและความก้าวหน้าในด้านต่างๆของจีนนะคะแต่ตอนนี้จีนมีเรื่องวันไชน่าอยู่ ซึ่งศลป.ที่ฉันชอบเขาก็โปรวันไชน่านั่นคือสิ่งที่น่าเจ็บปวด แต่ฉันทิ้งพวกเขาไม่ได้ เพราะพวกเขาก็มีแค่แฟนคลับแบบพวกเรา

การเกิดขึ้นของวันไชน่าทำให้ฉันไขว้เขวกับการเรียนภาษาจีนมากไปอีกเพราะกลัวว่าการเรียนภาษาจีนมันจะขัดต่ออุดมการณ์ของตัวเอง

เราไม่เอาเผด็จการไม่เอาสังคมแบบปิตาธิปไตย ไม่เอาวันไชน่า และไม่เอาพวกไดนาสตี้พวกนั้นด้วยค่ะ

ติ๊ด-

แต่พอเห็นทวีตนึงที่เขาออกมาบอกว่าการเรียนภาษาจีนไม่ใช่เรื่องผิดเราเรียนภาษาเพื่อเปิดโอกาสให้กับตัวเอง ซึ่งเราเห็นด้วยเพราะการที่เราเรียนภาษาของชาตินั้นๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเปลี่ยนความคิดเปลี่ยนอุดมการณ์ให้เป็นไปตามเขาสักหน่อยเราแค่เรียนรู้และนำไปให้ให้เกิดประโยชนืเท่านั้น ไม่จำเป็นจะต้องหลิ่วตาตามสักเท่าไหร่

เอาล่ะค่ะเดี๋ยวจะเข้าสู่วันที่สาม วันพุธรู้สึกว่าจะเป็นวันที่อาจจะผ่อนคลายวันหนึ่งเพราะมีแค่สอบเขียนตามคำบอกภาษาจีนไม่มีอะไรยากเกินไปค่ะ คงมีแค่ปั่นงานจากวันอื่นๆ

ส่วนวันพฤหัสบดีนั้นเป็นวันที่ไม่มีอะไรแน่นอนสักเท่าไหร่ครูภาษาอังกฤษบอกว่าอาจจะสอบ และครู HSK ก็บอกว่าอาจจะสอบให้ไปอ่านๆล่วงหน้ามา ถ้าอ่านมาแล้วไม่สอบก็อาจจะเหนื่อยฟรี แต่ก็ช่างมันเถอะค่ะเพราะแบบนี้ไม่ได้เกิดครั้งแรกสักหน่อย

วันศุกร์น่าจะเป็นวันที่ต้องส่งทุกอย่างได้แล้วเราลืมบอกไปว่ามีการสอบปลายภาคในวันที่ 9 พฤศจิกายน ก็เหลืออีกสัปดาห์นิดๆก่อนสอบให้รองรับงานใหม่ล่ะมั้งคะวันศุกร์ฉันสอบวิชาวิทยาศาสตร์และเขียนตามคำบอกภาษาอังกฤษ พอถึงวันนั้นฉันจะสภาพเป็นยังไงก็นึกไม่ออกแต่คงหนักเอาการ

ยังไม่รวมการพูดถึงงานเล็กย่อยเลยค่ะบางวิชาสั่งงานเยอะมากทั้งๆที่หน่วยกิตไม่เท่าไหร่ ฉันเองที่เรียนภาษาจีนก็ไม่มีงานเลยค่ะมีแค่สอบ ทำแบบฝึกหัดอย่างเดียว

รู้สึกเหนื่อยแต่ก็คงเพราะว่าฉันอดทนไม่มากพอล่ะมั้งคะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องอดทนยังไงให้ไม่ปริปากออกมาว่าเหนื่อยคนรอบข้างเราก็เหนื่อยหมดทุกคน เราไม่อยากเอาความเหนื่อยเล็กๆน้อยๆของเราไปเล่าให้ใครฟังฮือ ทำไมฉันถึงกล้าเรียกความเหน็ดเหนื่อยของตัวเองว่าความเหนื่อยเล็กๆน้อยๆกันนะ

ช่างมันก็แล้วกันตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป จะพยายามมาเขียนไดอารี่เกี่ยวกับเรื่องราวสัปดาห์นี้ทั้งสัปดาห์ให้ได้อยากจะเรียงลำดับเหตุการณ์และตั้งสติผ่านตัวอักษรที่พิมพ์บ้าง เผื่อจะเลิกวอกแวกได้สักที เพราะรู้สึกการอ่านวิเคราะห์ของตัวเองกำลังจะหายไป รวมทั้งการมีอาการสมาธิสั้นด้วย 

สู้ๆ แกเก่งมาก ทำการบ้านให้เสร็จจะได้อ่านหนังสือไวๆ 

-Have a nice day-