ผมทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ร้านขนมเค้กแห่งหนึ่ง ผมชอบเค้กร้านนี้มาก เพราะมันทั้งหอม นุ่มละมุน และมีรสสัมผัสที่ชวนหลงใหล หากมาทำงานที่นี่อย่างน้อยทุกวันตอนปิดร้านหากมีเค้กที่ขายไม่หมด พี่เจ้าของร้านจะแจกเค้กให้พนักงานในร้านสามารถเอากลับไปทานได้คนละ 1 ชิ้น และผมมาทำงานเพื่อสิ่งนี้แหละ
เค้กที่ร้านราคา 150 บาทขึ้นไปต่อชิ้น ลำพังตัวผมไม่สามารถกินขนมหวานแบบนี้ในราคาที่สูงอย่างนี้ได้ทุกวันแน่ ๆ อย่างน้อยการได้มาทำงานถือเป็นใบเบิกทางในการกินฟรีของผมยังไงล่ะ! แต่พักหลังมานี้ มีคุณลุงท่านหนึ่งมานั่งกินขนมที่ร้านทุกเย็นวันอังคาร ช่วงแรกผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่คุณลุงท่านนี้มักจะสั่งแต่เมนูเดิมเสมอ นั่นก็คือขนมเค้กวนิลามะนาว ซึ่งเป็นเมนูธรรมดา ๆ ไม่ได้เป็นเมนูเด่นอะไรของร้าน แต่ก็ถือว่าเป็นขนมที่นุ่มและหอมละมุนกลิ่นวนิลาเป็นอย่างมาก เพียงแค่ลิ้นได้สัมผัสกับครีมเนียนนุ่มนั้น พลันก็ละลายหายไปทิ้งไว้เพียงรสชาติและกลิ่นหวานหอมติดปลายลิ้น
“สวัสดีครับ รับเหมือนเดิมนะครับ” ผมยิ้มทักทายคุณลุง คุณลุงไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้ารับ และยิ้มให้ผมเล็กน้อย ก่อนจะหันไปนั่งยังโต๊ะประจำของคุณลุง โต๊ะที่คุณลุงเลือกนั่งเป็นโต๊ะติดหน้าต่าง ที่มองออกไปเห็นสวนเล็ก ๆ ด้านข้างร้าน ให้ความรู้สึกสบายตา เพราะสนามหญ้าสีเขียวตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าอ่อน
“ได้แล้วครับ วันนี้มีบริการพิเศษสั่งเค้กวนิลาแถมไอศกรีมวนิลา 1 ลูกครับ” ผมวางจานขนมเค้กลงบนโต๊ะตรงหน้าคุณลุงและหันไปหยิบถ้วยไอศกรีมวนิลามาให้ คุณลุงมองด้วยแววตาเศร้าหมอง ก่อนจะยิ้มรับแทนคำขอบคุณ ตั้งแต่ที่ผมเจอคุณลุงท่านนี้ ผมไม่เคยได้ยินเสียงของคุณลุงเลยสักครั้ง เพราะเหมือนครั้งแรกที่เจอ เท่าที่จำได้ คุณลุงก็ชี้นิ้วเลือกเค้กหน้าตู้ โดยไม่ได้เอ่ยเสียงใด ๆ
ผมเช็ดเคาน์เตอร์พลางเหลือบมองคุณลุงเป็นระยะ ๆ คุณลุงมักจะมีเวลาที่ชัดเจนคือ จะมาร้านในทุกวันอังคารตอน 6 โมงเย็น และนั่งที่ร้านจนถึง 2 ทุ่มแล้วค่อยกลับ เป็นอย่างนี้มาครึ่งปีแล้ว สำหรับผมคุณลุงเป็นคนแปลกหน้าที่ผมไม่รู้จัก แต่นับวันคนแปลกหน้าคนนี้ ที่ไม่เคยคุยกันสักครั้งนอกจากการซื้อขายเค้กเริ่มจะมีอิทธิพลกับผม หากดูจากรูปร่างแล้วผมคาดว่าคุณลุงน่าจะอายุประมาณ 60 ปีเศษ วันไหนที่คุณลุงไม่มา ผมจะรู้สึกเหมือนวันนี้ไม่ใช่วันอังคาร คุณลุงดูเป็นผู้ชายที่อ่อนน้อมและมีมารยาทมาก ดูเป็นคุณลุงที่อ่อนโยน คล้ายกับพ่อของผมเลย เพียงแต่พ่อของผมไม่ค่อยมีรสนิยมในการกินขนมหวานสักเท่าไหร่
ผมก้มดูนาฬิกาอีกที ตอนนี้เกือบจะ 4 ทุ่ม ได้เวลาที่ผมต้องปิดร้านแล้ว แต่น่าแปลกที่วันนี้คุณลุงยังคงนั่งอยู่ที่เดิม แต่เป็นการนั่งฟุบหลับ.. หรือว่าวันนี้คุณลุงจะเหนื่อยเป็นพิเศษกันนะ ผมค่อย ๆ เดินไปที่โต๊ะเพื่อปลุกคุณลุงจากอาการเหนื่อยล้า ให้ได้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน
“คุณลุงครับ ขณะนี้ร้านปิดแล้ว ขออนุญาต.. ” ไม่ทันที่ผมจะพูดจบ ในขณะที่กำลังเขย่าคุณลุงเบา ๆ แขนของคุณลุงกับห้อยตกลงมาราวกับไร้เรี่ยวแรง “คุณลุงครับ..?!” ผมจึงลองเอานิ้วชี้ไปอังลมหายใจตรงรูจมูกแต่ปรากฏว่าคุณลุงไม่หายใจแล้ว “คุณลุงครับ!!” ผมเขย่าตัวคุณลุงแรงขึ้น หวังว่าคุณลุงจะขยับตัว แต่เปล่าเลย คุณลุงจากไปแล้ว พร้อมกับเงินที่วางไว้บนโต๊ะ 190 บาท
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in