เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Movie Timesranisara
Alias Grace : ซีรีย์ที่ทำให้เราต้องรับฟังคนรอบข้างมากยิ่งขึ้น
  • ไม่หวือหวา แต่มีเสน่ห์ นั่นคือคำนิยามที่เรานึกออกทันทีเมื่อดูลิมิเต็ทซีรีย์ของNetflix เรื่องนี้จบลง



    Alias Grace เป็นซีรีย์ที่สร้างขึ้นจากนวนิยายของMargaret Atwood (ผู้เขียน The Handmaid'sTale) มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงของเหตุฆาตรกรรมสยองที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมในปี1843 เมื่อสองคนรับใช้ของโธมัส คินเนียร์ก่อเหตุฆาตรกกรรมเขาและหญิงสาวรับใช้คนสนิทแนนซี่ มอนต์โกเมอรี่ โดยคินเนียร์ถูกยิงเข้าที่ลำตัว ส่วนแนนซี่ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ลูกของคินเนียร์ถูกสังหารด้วยขวานและถูกรัดคอหลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น สองคนรับใช้ใจโหดถูกจับกุมในนิวยอร์กทราบชื่อคือ เจมส์ แมคเดอมอร์ต วัย 20 ปี และ เกรซ มาร์ค วัย 16 ปี หรือที่ใช้นามแฝงว่า แมรี่ วิตนีย์ ขณะหลบหนีจากแคนาดา



    เจมส์ แมคเดอมอร์ตถูกตัดสินโทษประหารโดยการแขวนคอทันทีและก่อนจะสิ้นใจในลานประหารเขาได้ตะโกนออกมาว่าสิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดเป็นเพราะทำตามสิ่งที่เกรซสั่งและเขาไม่ได้ผิดคนเดียว แต่จากการให้การต่อศาลของเกรซที่กล่าวว่าเธอจำเหตุการณ์เลวร้ายนั้นไม่ได้เพราะหมดสติไปและพอตื่นขึ้นมาอีกทีเธอก็เห็นแมคเดอมอร์ตฆาตกกรรมคินเนียร์และแนนซี่เรียบร้อยแล้ว และนั่นทำให้คณะลูกขุนเมตตาและตัดสินจำคุกเธอตลดชีวิตแทน

    .

    เกรซต้องพบเจอกับความทรมานในช่วงแรกที่ถูกส่งไปอยู่โรงพยาบาลเธอทั้งถูกทรมาน ถูกคุกคาม และที่แย่ที่สุดคือบทลงโทษที่เธอมักจะถูกขังให้ยืนอยู่ในตู้ที่คล้ายโลงศพนานหลายชั่วโมงแน่นอนว่ามันทั้งเหนื่อย ทรมาน และการที่ต้องอยู่กับตัวเองในสภาพที่เต็มไปด้วยความกดดันเช่นนั้นไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าสภาพจิตใจของเธอจะด่ำดิ่งและหวาดกลัวขนาดไหน

    .

    15 ปีต่อมา ในฐานะที่เป็นนักโทษชั้นดีคนหนึ่งเกรซได้รับโอกาสให้เข้าไปทำงานเป็นแม่บ้านในบ้านพักของผู้อำนวยการเรือนจำและได้พบกับไซม่อน จอร์แดน จิตแพทย์หนุ่มที่พยายามค้นหาเรื่องราวที่แท้จริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะคำให้การในศาลของเกรซและแมคเดอมอร์ตไปกันคนละทิศละทางจนน่าสงสัย ซึ่งตัวเขาก็มาเพื่อช่วยให้เกรซได้รับการพ้นโทษด้วย

    และเรื่องราวในซีรีย์เรื่องนี้ก็ดำเนินไปตั้งแต่ตอนที่เกรซได้พบกับคนแรกที่พร้อมรับฟังเรื่องราวทั้งหมดของเธอด้วยความจริงใจและพร้อมที่จะเชื่อความจริง (?) ทุกอย่างที่เธอเล่า ว่าแท้ที่จริงนั้นใครกันแน่ที่เป็นฆาตรกรตัวจริงในเหตุการณ์ฆาตรกรรมสยองขวัญนี้

    .

    เมื่อเราดูซีรีย์เรื่องนี้จบลงอดนึกหวนไปยังภาพยนต์เรื่องหนึ่งที่เคยดูอย่างSplit ( จิตหลุดโลก ) ที่ได้นักแสดงชื่อดังอย่าง JamesMcAvoy และ Anya Taylor-Joy ซึ่งออกฉายเมื่อปี2016 ว่าด้วยเรื่องของตัวเอกที่เป็นโรคหลายบุคลิกหรือ Dissociative Identity Disorder (DID) ซึ่งเป็นโรคจิตประเภทชนิดหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยมีบุคลิกอื่นๆมากกว่า 2 บุคลิกขึ้นไป และในเรื่องนี้ถ้าเราเข้าใจถูกตั้งแต่ต้น เกรซเป็นเด็กสาววัย16 ที่มีชีวิตแสนลำบาก แม่ตายขณะเดินทางโดยเรือมาที่แคนาดาแถมยังต้องอยู่กับพ่อขี้เมา ขี้โมโห ชอบทำร้ายร่างกายและหนักที่สุดคือหวังจะคุกคามเธอตลอดเวลา จนกระทั่งเธอได้พบกับแมรี่ วิตนีย์หญิงสาวรับใช้วัยใกล้เคียงกันกับเธอที่ได้พบกันเมื่อเกรซเริ่มทำงานเป็นสาวใช้ที่บ้านหลังแรก



    สำหรับเกรซ แมรี่ถือได้ว่าเป็นอีกขั้วหนึ่งของเธอเลยก็ว่าได้เธอเป็นคนพูดตรง ฉลาด ตลก ร่าเริง เป็นหญิงสาวหัวประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ต่างจากเธอที่อ่อนต่อโลกใส่ซื่อ ระแวง และหวาดกลัวทุกอย่างไปหมด แต่ความสดใสร่าเริงที่แมรี่มีเป็นอันต้องพังทลายเมื่อเธอตั้งครรภ์กับชายสูงศักดิ์คนหนึ่งซึ่งไม่รับผิดชอบต่อการกระทำใดๆจนเธอต้องตัดสินใจทำร้ายลูกของเธอจนตัวเองต้องตาย เกรซเกิดอาการช็อคอย่างรุนแรงจนหมดสติตอนนั้นเองที่จิตใจของเธอสร้างอีกตัวตนหนึ่งขึ้นมา อีกหนึ่งตัวตนที่ตรงข้ามกับเธออย่างสิ้นเชิงและเมื่อไหร่ก็ตามที่เกรซฝันประหลาดโดยหาคำอธิบายไม่ได้ นั่นอาจจะหมายถึงช่วงที่เธอกำลังใช้ชีวิตเป็นแมรี่วิตนีย์ ที่จิตใจสร้างขึ้นมาอยู่

    .

    ซึ่งถ้าเป็นปัจจุบันการค้นพบว่ามีคนที่มีมากกว่า 2 บุคคลิกในตัวอาจจะเป็นเรื่องที่พอรับได้ หรือเข้าใจได้เพราะมีหลายเคสหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นมามายให้เราได้ศึกษาแต่ในยุคกลางที่ผู้ค้นยังคงเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ วิญญาณ และโลกหลังความตายกันอย่างแพร่หลายปฏิเสธไม่ได้เคยว่าจะมีใครเข้าใจในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับเกรซว่าแท้ที่จริงแล้วเธอไม่ได้ถูกผีเข้าหรือเป็นบ้าอย่างที่หลายคนเข้าใจแต่มันเกิดจากการที่จิตใจของคนๆ หนึ่งตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากเกินจะรับมือไหวจนสารเคมีหรืออะไรต่างๆในร่างกายและจิตใจต้องสร้างสิ่งหนึ่งที่เข้มแข็งเข้ามาปกป้องไม่ให้ความอ่อนไหวนั้นเปราะบางจนแตกสลาย

    พวกเขาเอาแต่คิดจะหาคำตอบของเรื่องหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่ฟังไม่รับรู้ถึงความเป็นจริงและที่มาของเรื่องทั้งหมด และเมื่อพวกเขาได้รับฟังในสิ่งที่ต้องการแล้วอีกฝ่ายจึงเป็นคนที่ถูกตราหน้าทันที



    มาถึงตอนนี้สุดท้ายทั้งเรา และหลายคนที่ดูแล้วอาจจะมีคำตัดสินในใจว่าเรื่องทั้งหมดใครเป็นคนผิดหรือถูกใครพูดความจริง และใครกันที่โกหก เอาเป็นว่ามันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองและการตีความของแต่ละคนแต่สิ่งหนึ่งที่เราอยากจะบอกก็คือ หลายครั้งที่เราดูหนังหรือซีรีย์ที่เกี่ยวกับผู้ป่วยจิตประเภทคือเราอยากให้ทุกคนเปิดใจให้กับพวกเขาอย่าเพิ่งตัดสิน และอย่าเพิ่งกล่าวโทษว่าเขาเป็นคนบ้า คนสติไม่ดี สักวันคงทำเรื่องไม่ดีโดยไม่รู้ตัว

    แล้วทำไมเราไม่ย้อนคิดบ้างละว่าสาเหตุที่เขาต้องเป็นแบบนี้มันเกิดจากอะไร

    อย่างตัวเกรซเองที่เขาต้องเป็นโรคแบบนี้มันเกิดจากอะไรไม่ใช่ว่าเขาอ่อนแอ แต่โคตรจะเข้มแข็งมากเลยต่างหาก ไม่ว่าจะโดนด่า โดนตี หรือโดนคุกคามจากใครเธอก็อดทนและผ่านมันมาได้ตลอดจนทุกอย่างขาดสะบั้นเพียงเพราะคนที่เธอยกให้เป็นตัวอย่างของความเข้มแข็งอย่างเมรี่ วิตนีย์ ผู้ที่สดใส และร่างเริงตลอดเวลา ต้องมาพ้ายแพ้เพราะคนเลวๆเพียงคนเดียว

    .

    และนอกเหนือจากเรื่องราวที่ทำให้เราได้คิดตามแล้วนั้น เสน่ห์อีกอย่างของซีรีย์เรื่องนี้คือเราชอบการแสดงของSarah Gadon ผู้ที่รับบทเป็น เกรซ มาร์คมาก เราชอบสายตากับท่าทางตอนเขาเล่าเรื่องต่างๆให้กับคุณหมอจอร์แดนฟัง ไม่รู้สิ เรารู้สึกเหมือนตัวเองถูกดึงเข้าไปในเรื่องเล่าของเธอชนิดที่ว่านี่เป็นซีรีย์เรื่องแรกเลยที่เราแทบจะไม่กดข้ามไปเรื่อยๆเพื่อให้ถึงตอนที่ตื่นเต้น แล้วก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหมอจอร์แดนถึงได้เคลิ้บเคลิ้มกับถ่อยคำและท่าทางของเกรซจนเก็บไปฝันว่าได้ครองรักกันหลายต่อหลายครั้งสิ่งที่แสดงออกมาให้เราได้รับรู้มันคงเป็นความจริงใจและไร้เดียงสาของผู้หญิงคนหนึ่งที่ผ่านเรื่องร้ายๆต่างๆ มามากมายจนเหมือนกับว่าร่างกายและสมองได้หยุดทุกอย่างไว้ที่อายุ 16 เพื่อให้เธอยังคงความเป็นเธอแบบนั้นตลอดไป

     

    สวัสดี

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in