Movie Review
“Fantastic Beasts And Where To Find Them
สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่”
Fantastic Beasts And Where To Find Them แต่แรกนั้นไม่ใช่เป้าหมายหลักที่เรารอคอยตั้งแต่ข่าวการกลับมาของภาพยนตร์โลกเวทมนตร์อันโด่งดัง เพราะส่วนตัวแล้วไม่ใช่แฟนคลับ Harry Potter—เรียกได้ว่าไม่มีความรู้ความเข้าใจใดหลงเหลืออยู่ สารภาพว่าดูไปเพียงสองภาค และจำเนื้อหาไม่ได้แล้ว เท่ากับว่าการรีวิวครั้งนี้เขียนผ่านสายตาของมักเกิล หรือ โน-แมจ อย่างแท้จริง ไม่ได้ใส่ฟิลเตอร์แฟนเกิร์ลใดๆลงไปเจือปน ดังนั้นถ้ามีจุดที่เราไม่เข้าใจ ไม่รู้ ก็อย่าถือสาเป็นจริงเป็นจัง ทักท้วงได้ทันที
เรื่องย่อ
Fantastic Beasts เป็นเรื่องราวของ นิวท์ สคามันเดอร์ (รับบทโดย Eddie Redmayne ผู้เป็นเหตุผลที่ทำให้เราไปดูเรื่องนี้แบบไม่ต้องคิด) นักสัตว์วิเศษวิทยาที่เดินทางไปอเมริกา เพื่อปลดปล่อยเจ้าแฟรงก์ที่อริโซน่า โดยระหว่างทางเขาได้เจอกับเจค็อบ โควัลสกี (Dan Fogler) และทำกระเป๋าสลับกัน นิวท์ถูกควบคุมตัวโดยทีน่า (Katherine Waterston ) อดีตมือปราบมาร เพราะทำผิดกฎโลกเวทมนตร์ ขณะเดียวกันนั้น สัตว์วิเศษในกระเป๋าเดินทางลึกลับของนิวท์ก็หลุดออกมาเพ่นพ่าน สร้างความโกลาหลทับซ้อนกับเรื่องราวการต่อต้านแม่มดที่กำลังเป็นเรื่องอื้อฉาวในยุคนั้น และการไล่ล่าออบซคูเรียลที่บางครั้งก็ออกอาละวาดอย่างเป็นปริศนา ทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดโดยฝีมือการเขียนบทของ J.K. Rowling และผู้กำกับ David Yates ผู้เคยผลิตงานคุณภาพอย่าง Harry Potter and the Deathly Hallows : Part 2 (2011), Harry Potter and the Order of the Phoenix (2007) และ Harry Potter and the Half-Blood Prince (2009)
ฉากอันอื่นตาตื่นใจและสัตว์มหัศจรรย์ที่ทำให้ตกหลุมรัก
สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เราหลุดเข้าไปในโลกเวทมนตร์ตั้งแต่ไม่กี่วินาทีแรก ทั้งที่กังขามาตลอดว่าคนที่ไม่ใช่แฟนคลับ Harry Potter อย่างเราจะเกิดอารมณ์ร่วม (Involvement) กับฉาก พร็อพ บรรยากาศต่างๆในเรื่องหรือเปล่า และคำตอบก็คือ—ใช่ Fantastic Beasts ออกแบบฉากและใช้เทคนิคภาพที่อลังการ ตื่นตาตื่นใจอย่างที่ใครๆเล่าลือกันนั่นแหละว่า ‘ภาพสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก’ สวยจนต้องร้องขอชีวิต และประทับใจสัตว์มหัศจรรย์ทุกๆตัวในเรื่อง ทั้งคาแรกเตอร์ และนิสัยสัตว์ที่ชัดเจน ภาพ Visual Effects ที่ปรุงแต่งได้พอเหมาะ ครีเอทีฟจนไม่รู้จะชมยังไง ดังนั้นถ้ามีคะแนนก็ให้ 10 เต็ม 10 อย่างไม่ต้องสงสัย
ขอชมเจ้าพิกเค็ต—โบรวทักเกิลเป็นสัตว์ที่ชอบมากที่สุดในเรื่องเลย อะไรจะติดนิวท์อ้อนนิวท์ รักนิวท์ขนาดนั้น แงงงงงงงง ความน่ารักพวยพุ่งออกมาจากจอ ผสมความ ‘อุ่น’ แปลกๆตอนที่ได้เห็นความรักที่นิวท์มีต่อสัตว์วิเศษทุกตัว สมแล้วที่นิวท์ก็เหมือน Mummy ของเด็กๆ T___T
ตัวละครและนักแสดงเส้นแบ่งของความชัดเจนและคลุมเครือ
อย่างที่รู้ๆกันว่า เอ็ดดี้ เรดเมย์น เป็นเจ้าของฝีมือการแสดงที่แทบจะ Out of question ผลที่ตามมาก็คือความคาดหวัง โดยเฉพาะในฐานะที่เป็นอีกคนที่ติดตามเอ็ดดี้จาก The theory of everything และ The Danish Girl ซึ่งเอ็ดดี้เก็บครบทุกจุด ไม่เคยพลาด พอมาเป็น Fantastic Beasts เรากลับไม่สามารถบอกได้ว่าเอ็ดดี้ทำได้ดีแล้วหรือยัง นั่นเพราะเราไม่รู้จริงๆว่า นิวท์ สคามันเดอร์ ในสายตาของ J.K.Rowling นั้น คาแรกเตอร์เป็นอย่างไร เนิร์ด ขี้อาย โลกส่วนตัวสูง เข้าสังคมไม่เป็นแบบที่เอ็ดดี้ถ่ายทอดออกมาหรือเปล่า ยังมีฉากที่เราไม่ชอบใจโดยส่วนตัวอย่างฉากเลียนแบบท่าทางสัตว์การผสมพันธุ์ บลาๆ ฉากที่เหมือนจะพยายามเรียกเสียงหัวเราะแต่ก็ล้มเหลว แถมหนังใช้เวลาโฟกัสฉากนี้นานกว่าที่เราคิดว่ามันสำคัญอีก
แต่ถ้าให้พูดแบบติ่งๆล่ะก็—นิวท์น่ารักมากกกกกกกกก มากกกกกกกกกก ทำให้ละสายตาไม่ได้ตั้งแต่ฉากแรกจนฉากสุดท้าย เป็นตัวละครที่มีมิติ น่าสนใจ และที่สำคัญคือมี Passion กับสัตว์มหัศจรรย์เหล่านั้นอย่างแท้จริง เห็นได้ว่าเป็นตัวละครที่มี Objective หรือความต้องการภายในที่ชัดเจนที่สุด การกระทำทั้งหมดก็เป็นผลมาจากความรักและอยากให้สัตว์เหล่านี้ถูกปกป้องนั่นเอง จึงไม่แปลกถ้าเราจะรู้สึกว่าทุกอย่างมันสมจริงน่าเชื่อถือ และยังโน้มน้าวคนดูได้ด้วย
ส่วนตัวละครอื่นๆที่ไม่ได้พูดถึงก็เพราะรู้สึกว่าทำได้ดีเหมือนกัน อย่างทีน่า ที่เป็นตัวแทนของผู้หญิงแกร่ง ผู้หญิงสู้ รักงาน แต่ก็มีมุมน่ารักๆอย่างฉากสุดท้าย ที่ทำให้การจากลาระหว่างทั้งคู่ชวนเขินมากกว่าฉ่ากจูบหรือกอดในหนังรักหลายๆเรื่องซะอีก เจค็อบ และ ควีนนี่ ก็เป็นตัวละครที่เราเอ็นดู และยังเอาใจช่วยไม่แพ้คู่หลัก
ในส่วนของเครเดนซ์ เอซร่าทำได้ดีในการสร้างบรรยากาศอึดอัดมืดหม่น เราเดาไปเองว่าความแข็งแกร่งที่มากกว่าออบซคูเรียลทั่วไปคงมีบางส่วนเป็นผลมาจากการขาดความอบอุ่นและถูกเลี้ยงดูด้วยความรุนแรง แต่ในส่วนของคุณเกรฟ หรือกรินเดลวัลล์ เราค่อนข้างโนคอมเม้นท์ ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางและไม่ได้เห็น Objective อะไรชัดเจนตามประสาคนที่ไม่ได้ติดตาม Harry Potter เลยขอปล่อยเบลอดีกว่า
พล็อตที่บันเทิงผู้อ่าน แต่จับแก่นสารยาก
ต้องกราบขอขมาแฟนๆของ J.K.Rowling ล่วงหน้าเลยทีเดียว ก่อนอื่น เราชื่นชมการผูกปมเรื่องที่สนุกสนาน เป็นเหตุเป็นผล มีทั้งรสตลก น่าทึ่ง ตื่นเต้น น่ากลัว น่ารัก เศร้าสลด และนำพาผู้ชมหลุดเข้าไปในตัวเรื่องจนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งในโลกเวทมนตร์ ฉากที่ติดตรึงใจเราก็คือฉากที่เจค็อบบอกลาทุกคนและเดินออกไปท่ามกลางสายฝน ทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบมาก จนรู้สึกหน่วงใจไปด้วย แค่คิดว่าถ้าเป็นเราที่ได้พบเห็นสิ่งที่ล้ำค่าขนาดนี้ แล้วต้องปล่อยมือจากมันไป มันคงเป็นการเปียกปอนที่เศร้าสร้อยที่สุดในชีวิต
แต่ถึงแม้ว่า Fantastic Beasts จะบันเทิงจรรโลงใจ ดูแล้วมีความสุขขนาดไหน เรากลับไม่รู้สึกว่ามันกระตุ้นให้คิด (Thought-provoking) หรือถ่ายทอดสารที่เป็นชิ้นเป็นอัน การหยิบจับประเด็นต่างๆมาเล่นก็ดูตื้นเขินไปหน่อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแม่มดออบซคูเรียล การต่อสู้เพื่อให้สัตว์วิเศษเป็นที่ยอมรับเหมือนจะสื่อว่ามนุษย์เลวร้ายกว่าสัตว์ แต่ก็ปมเรื่องที่ผูกเอาไว้ก็เหมือนจะแค่ตีตลาดกลุ่มแฟนๆ Harry Potter มากกว่า เพราะคนที่ไม่ได้มีความรู้แบกกราวน์มาก่อนยังงงๆอยู่เลย เพราะหนังดำเนินฉับไวแต่ไม่ทิ้งจังหวะให้ขบคิด ถ้ามองในแง่ของแนวคิดหลักของเรื่องแล้ว…เราแทบไม่ได้อะไรกลับไป สำหรับหลายคนที่ดูหนังเพื่อความบันเทิง Fantastic Beasts คงตอบโจทย์มาก แต่สำหรับเรา นี่คือจุดที่ทำให้หักคะแนนรวม ดูจบแล้วโนแมจทั่วไปก็คงไม่ได้ประทับใจตราตรึงจนยกขึ้นหิ้ง
ภาพรวม
ยังไงก็มีครั้งที่สองอยู่แล้วเพราะหนังสนุกแบบสนุกทั้งเรื่องจริงๆ และเป็นแฟนคลับเอ็ดดี้ เรดเมย์นที่ถ่ายทอดความสคามันเดอร์ออกมาได้น่าเอ็นดูมากๆ i__i คราวนี้จะตั้งใจเก็บรายละเอียดที่พลาดไปเยอะ เพราะโฟกัสกับ Visual Effects มากไป ยืนยันว่าเป็นหนังที่บันเทิงแต่ไม่ค่อยมีพลังในการส่งต่อความคิดเท่าไหร่ อาจเพราะจงใจปูไปสู่ภาคต่อๆไปมากกว่า แต่ถามว่าคุ้มมั้ยคุ้มมาก literally made my day ฮือออออ ให้ 8.5/10 ละกัน T v T
- ilysm.
อีกอย่างที่เห็นด้วยมากๆคือเรื่องออบสครูเรียล บางคนก็ยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร ในหนังมีอธิบายไว้ไม่มากเท่าที่ควร (ตอนออกจากโรงยังได้ยินคนถามกันอยู่เลยว่าตกลงออบสครูรัส ออบสครูเรียบ คืออะไร)
ฉากที่เจค็อบกำลังจะถูกลบความจำก็เป็นฉากที่ตราตรึงใจกูเหมือนกัน เห็นด้วยกับที่มึงพูดมากทุกๆอย่างเลย แต่ถ้าถามว่าชอบฉากไหนมากที่สุด คงจะตอบว่าฉากที่ทีน่ามาส่งนิวท์ที่เรือ มันไม่หวานจนเขินบิด แต่มันกลับละมุน ทำให้ยิ้มไม่หุบเลย (ชอบความขัดๆเขินๆของเอ็ดดี้มาก ฮื้อ)
-mw