ใครๆ ก็ลืมอดีตไม่ลง ก็แหงล่ะ มันไม่ได้มีไว้ให้ลืม ในเมื่อมันคือความทรงจำ ไม่ใช่ความทรงลืม (มุกอะไรเนี่ย!?) มันก็ต้องยังอยู่กับเราอยู่แล้ว จริงมั้ย ไม่ว่าจะเรื่องดี เรื่องร้าย แต่ที่น่าเจ็บใจที่สุดคือเรามักไม่เคยลืมเรื่องร้ายๆ ได้ลงเลยน่ะสิ โดยเฉพาะเรื่องที่มีผลกับใจเราโดยเฉพาะ..
ไม่กี่วันที่ผ่านมาตอนที่นั่งรถกลับบ้านกับแม่ แม่ขับรถ เราก็นั่งข้างๆ นึกถึงเรื่องอะไรเต็มหัวไปหมด แล้วก็ตัดสินใจลองปรึกษาแม่ดู เรื่องของความรัก เรื่องเดิมๆ ที่ไม่ค่อยอยากพูดถึงอีกแล้วหลังจากหนึ่งปีที่ผ่านมา ที่ไม่ว่ายังไง๊ยังไงก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม
“แม่.. ทำยังไงถ้าเราอยากเจอคนๆ นึง แต่เค้าไม่ยอมมาเจอ”แม่คง งง เล็กน้อย อยู่ๆ ก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ทั้งที่ร้อยวันพันปีไม่เคยเอ่ยปากปรึกษาเรื่องความรักกับแม่ (ตามประสาวัยรุ่นและรุ่นอื่นๆ ทั่วไปแหละ)
“ก็ถ้าเค้าไม่อยากเจอ เราจะไปบังคับอะไรได้ล่ะ”แม่ตอบ
เออ ก็จริง ก็รู้อยู่แล้วแหละ
“หรือควรไปตามหานางที่ทำงานนาง แต่นางออกจากงานนั้นมานานแล้ว ตอนนี้ไม่รู้ว่าทำอะไร ไม่ค่อยได้คุยกันนานแล้วด้วย”“ก็ถามเค้าสิ ก็ถ้าเค้าจะเจอก็มาเอง”“แล้วถ้าเค้าไม่มาล่ะ”“ก็ช่างเค้าสิ เราบังคับใจคนไม่ได้นะ ถ้าเค้าไม่อยากเจอจริงๆ เราจะไปทำอะไรได้”“หรือจะไปรอที่ป้ายรถเมล์บ้านนางดี ยังไงก็ต้องเจอแน่นอน เพราะนางไปรอรถเมล์ที่ป้ายนั้นทุกวัน หนูรู้ที่อยู่นางนะ”นางคนนั้น ไม่ใช่คนไทย ไม่ได้อยู่ในไทย แต่เป็นเมืองหนาวแดนไกลที่ต้องบินไปประมาณ 5,000 ไมล์
“จะบ้าเหรอ จะไปทำอย่างงั้นทำไม คนเราต้องมีศักดิ์ศรีนะ อย่าไปลดตัวทำอะไรถึงขนาดนั้น ถ้าเค้าไม่มาเจอก็พอ ไม่ต้องไปทำอะไรถึงขนาดนั้นหรอก”โอ้โห..
หลังจากหนึ่งปีเต็มๆ ล้านคำปรึกษาและคำด่าคำอวยจากเพื่อนๆ หลายคน ก็ไม่เคยเชื่อ ดื้อกับสมองแต่ตามหัวใจมาตลอด พอเจอคำแม่ไปคำนี้ ถึงกับนิ่ง และคิดอะไรได้อย่างชาญฉลาดขึ้นมาเยอะ
“เออ.. จริงด้วย...” เนี่ย จะบอกให้ว่าต่อให้คิดว่าตัวเองเป็นคนคูลๆ เจ๋งๆ มาขนาดไหน เชื่อเหอะ ไม่มีใครเจ๋งเท่าแม่ แต่วันนี้ไม่ได้จะมาพูดอวยแม่ จะมาพูดถึงเรื่องเนี้ยแหละ เรื่องบ้าๆ บอๆ ของความรัก ที่ทั้งเจอเพื่อนรอบข้างและตัวเองมาบ่นให้ฟังตลอดว่าลืมเค้าไม่ได้บ้าง อยากทักเค้าบ้าง อยากให้เค้าง้อบ้าง ทุกคนติดอยู่กับความทรงจำ ติดอยู่กับอะไรที่มันคงไม่เกิดขึ้นแล้ว และที่ติดเนี่ย อาจจะโดนกาวแห่งความรักติดเข้าให้ แต่ถามหน่อยว่าความรักนี้มันดีกับเรามั้ย? ถ้ามันเป็นพิษร้ายมลภาวะ เราคิดถึงเค้าก็เจ็บหัวใจ เรานอนไม่หลับ กินไม่ลง ถามว่าใครเสียหาย? ก็เราไง... พอได้แล้ว เห็นค่าของตัวเองหน่อย อย่าลืมสิครั้งนึงเราเคยหลงตัวเองขนาดไหนว่า ‘กูเนี่ยเจ๋งสุดๆ ไปเลย’ เอาคนนั้นกลับมา เราจะต้องไม่เป็นเหมือนเดิม
ประจวบเหมาะกับวันต่อมาที่นักร้องที่เรารักมากๆ (ขอติ่งนิดนึง มีทุกตอนเลยเนอะ 555) ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ออกมา แต่เราคงไม่แปะลิงค์หรือฮาร์ดเซลเค้าบ่อยขนาดนั้น เอาเป็นว่าขออ้างอิงถึงหน่อย เพราะเพลงนี้โดนใจเรามาก และกู้คืนความเจ๋งของตัวเองกลับมาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นหลังจากเอาไปรวมกับคำกล่าวของแม่ เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะเพลงนี้เค้าพูดถึงเรื่อง ‘การเปลี่ยนตัวเอง’ แต่ไม่ได้เปลี่ยนเพราะใคร ไม่ใช่ว่าเรารักเค้าเราจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อเค้า เราพูดมาเสมอว่าอยากให้ทุกคนรักและภูมิใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง และการเปลี่ยนตัวเองครั้งนี้ เป็นการเปลี่ยนเพื่อตัวเอง และจะเป็นคนที่ดีกว่าเดิม
เธอก็รู้ว่ายังมีสิ่งดีๆ อีกมากมายที่รอคอยเราอยู่
กลางคืนผ่านไป วันใหม่ก็จะเข้ามา
ทุกอย่างจะต้องไม่เป็นเหมือนเดิม
เพราะมันจะต้องดีขึ้นกว่าเดิม...(Aldrig bli som förr - LALEH)
ขออ้างอิงกับตัวเองนิดนึง หากใครเคยอ่าน
เรื่องราวของเราที่สวีเดนน่าจะรู้ดีว่าเราหมายถึงใคร ปลายเดือนหน้าเราจะกลับไปเยี่ยมสวีเดน และเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ดังนั้นคงไม่แปลกหากจะอยากเจอคนๆ นึงที่ไม่ได้เจอหน้าและไม่ได้ยินเสียงมาหนึ่งปี และเป็นคนที่ตกหลุมรักมาตลอดหนึ่งปีไม่เคยหยุด (ทั้งๆ ที่พยายามแล้วพยายามอีก) ดีหน่อยที่เราเป็นคนมีความสนใจในหลายๆ ด้าน การกลับไปครั้งนี้จะมีเรื่องสนุกๆ รออีกเยอะจนอาจไม่ได้มาโฟกัสกับเรื่องความรักเก่าๆ นี้... แต่ก็ยังแอบคิดว่ามันต้องมีโมเมนท์ที่เราคงรู้สึกแบบเดิมบ้าง เป็นทุกข์กับหัวใจเล็กน้อย แต่เราคิดว่าเราจะไม่ยอมให้เรื่องเก่าๆ มันมาทำให้วันใหม่ๆ ของเราแย่ลง เรื่องอะไรจะยอมล่ะ และจากทั้งคำพูดของแม่และเพลงให้กำลังใจระดับ 10 นี้ก็ทำให้เราคิดอะไรใหม่ได้ในที่สุด
เรื่องดีๆ ยังมีอีกเยอะ พอได้ละ เลิกเสียเวลากับเรื่องเก่าๆ ที่ไม่ได้ให้อะไรกับชีวิตเราเลย
อ้อ.. อย่างน้อยก็ได้ให้ประสบการณ์บางอย่างกับเราไว้บ้างแหละเนอะ แต่เราจะต้องเจ๋งขึ้น ต้องไม่เป็นเหมือนเดิม นี่ไม่ได้พูดกับตัวเองนะ เราบอกกับเธอทุกคน และโดยเฉพาะพวกเธอที่ไม่ยอมลืมคนที่ควรลืมสักที
ทุกวันนี้เพื่อนหลายๆ คนก็ยังมาบ่นและปรึกษากับเราตลอดเรื่องคนเหล่านั้นที่พวกนางควรจะลืม แต่ไม่ลืม ด้วยความที่เคยเป็นมาก่อนก็เข้าใจแหละว่ามันไม่ง่ายที่อยู่ๆ จะทำตามเพลง ทำตามคำที่ใครๆ บอกให้ลืม ให้เชิดใส่ เออมันไม่ง่ายหรอกเรารู้ แต่... ฝึกตัวเอง อดทน ฝึกกายว่ายากแล้ว ฝึกใจยากที่สุด แต่เมื่อครั้งนึงเราทำได้แล้ว เชื่อเหอะ ใจที่สตรองนั้นมีค่ากว่าเดิมยิ่งนัก ช่วงนี้เราว่ามันมีกระแสเรื่องเกี่ยวกับเรื่องโรคซึมเศร้าเยอะ แต่มันก็มีมาเรื่อยๆ แหละ เราเองไม่ใช่นักบำบัดหรือนักจิตวิทยาเลยอาจอธิบายอะไรไม่ได้มากนอกจากจะเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำกับคนใกล้ตัวได้บ้างในบางเรื่อง แต่อย่าลืมว่าทุกคนต้องช่วยยกตัวเองขึ้นมาด้วย ไม่ใช่แค่ฟังและอยากบอกเท่านั้น การยอมอดทนพาตัวเองออกมาจากเหตุการณ์เหล่านั้นเองด้วยก็เป็นเรื่องสำคัญ เราไม่รู้เคสร้ายแรง แต่ดูจากเพื่อนใกล้ๆ ตัว เราคิดว่าเค้าจะผ่านมันไปได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเห็นค่าของตัวเองก่อน และต้องมีกิจกรรมทำ หาสิ่งที่ชอบและอยู่กับเพื่อนเยอะๆ บางครั้งสภาพแวดล้อมและสถานะของชีวิตเราตอนนั้นก็ค่อนข้างมีส่วน ทั้งอาชีพการงาน ที่อยู่ กลุ่มเพื่อนที่พบเจอ อาหารการกิน และไลฟ์สไตล์ แต่เราจะไม่พูดอะไรมากกว่านี้เพราะกลัวว่าจะพูดอะไรผิดไป เอาเป็นว่าใครที่ติดอยู่ในวังวนห้วงความคิดถึงหรือปล่อยใครสักคนไปไม่ได้สักที ก็ลองกลับไปคิดดู ทุกคนน่ะเป็นนักสู้ (ไม่ว่าจะสู้กับอะไรก็ตาม) ก่อนจะสู้ก็ต้องฝึก มันจะยากหน่อยแต่ต้องทำได้อยู่แล้วแหละ
ทำเป็นพูดแหละ เอาจริงตัวเราเองก็ยังทำไม่ได้ถึงขนาดนั้น แต่เราก็มีความสุขและไม่ได้เศร้าหรือทุกข์ใจอะไร นั่นก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะเรามีเรื่องต้องโฟกัสเยอะและมีสิ่งที่ชอบอยู่หลายอย่าง ที่อยากทำมันซะหมด เลยเอาเรื่องความรักบ้าบอแอบๆ ไปได้บ้าง แต่ก็มีบางทีที่เรามานั่งนึกแล้วก็เซ็งๆ หงอยๆ เหมือนกันนะ มันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่แปลกเลย แค่เพียงแต่ว่าอย่าลืมว่าเราต้องไม่ทำให้เรื่องพวกนั้นมาทำลายเราได้
คิดถึงน่ะได้ ไม่ผิด
แต่อย่ากลับไปเป็นคนเดิม
สู้ๆ ดิว้า.. เชิดหน้ามองขึ้นฟ้า อย่าก้มหน้าผิดหวัง
Cover picture from : Jag är inte beredd att dö an (Movie)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in